ความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ 2 ชุมชนคือ ชุมชนท่าโรงเลื่อย และชุมชนท่าประปา เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา หลังจากเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอซึ่งตั้งอยู่รายรอบเทือกเขาอย่างเช่น สุคิริน แว้งและตากใบ ซึ่งล่าสุดฝนยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดตก ส่งผลทำให้มวลน้ำป่าจากเทือกเขาสันกาลาคีรี ซึ่งมีต้นกำเนิดอยู่ในพื้นที่ อ.สุคิริน ได้ไหลบ่าลงมาสมทบกับปริมาณน้ำในแม่น้ำสุไหงโกลก ซึ่งล้นตลิ่งอยู่แล้วโดยเฉลี่ย 1.20 เมตร ขยายผลทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมขังบ้านเรือนของราษฎร ที่ปลูกสร้างอยู่แนวตลิ่งกินพื้นที่กว้างเป็น 6 ชุมชนแล้ว คือ ชุมชนท่ากอไผ่ ชุมชนท่าโรงเลื่อย ชุมชนท่าประปา ชุมชนท่าชมพู และชุมชนท่าเจ๊ะกาเซ็ม ซึ่งมีระดับน้ำท่วมขังโดยภาพรวมสูง 60-80 เซนติเมตร ซึ่งมีราษฎรได้รับความเดือดร้อนจากสภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้ จำนวนกว่า 80 หลังคาเรือน โดยประชาชนส่วนใหญ่ต้องหันมาใช้เรือพายและเรือยนต์ หากมีกิจธุระจะติดต่อกับโลกภายนอก
อย่างไรก็ตาม สภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้ มีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น แถมขยายวงกว้าง เนื่องจากมีแนวโน้มสภาวะฝนตกลงมาต่อเนื่อง และมีมวลน้ำป่าจากเทือกเขากำลังไหลลงสู่แม่น้ำสุไหงโกลก เพื่อไหลผ่านลงสู่ท้องทะเลด้าน อ.ตากใบ แต่เป็นไปด้วยความล่าช้า จากสภาพของแม่น้ำสุไหงโกลกค่อนข้างที่จะคดเคี้ยว
ล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งเทศบาลเมืองสุไหงโกลก ทหาร ตำรวจและอำเภอ ได้เตรียมกำลังพลและบุคลากร หากเกิดสภาวะน้ำท่วมที่รุนแรงจะสามารถออกให้การช่วยเหลือชาวบ้านได้ทันท่วงที
อย่างไรก็ตาม สภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้ มีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น แถมขยายวงกว้าง เนื่องจากมีแนวโน้มสภาวะฝนตกลงมาต่อเนื่อง และมีมวลน้ำป่าจากเทือกเขากำลังไหลลงสู่แม่น้ำสุไหงโกลก เพื่อไหลผ่านลงสู่ท้องทะเลด้าน อ.ตากใบ แต่เป็นไปด้วยความล่าช้า จากสภาพของแม่น้ำสุไหงโกลกค่อนข้างที่จะคดเคี้ยว
ล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งเทศบาลเมืองสุไหงโกลก ทหาร ตำรวจและอำเภอ ได้เตรียมกำลังพลและบุคลากร หากเกิดสภาวะน้ำท่วมที่รุนแรงจะสามารถออกให้การช่วยเหลือชาวบ้านได้ทันท่วงที