ความคืบหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศปจร.บช.น.) จับกุมนายเศรษฐวิทย์ ธนาสารพูนผล อายุ 19 ปี และนายมนัส ธนาสารพูนผล อายุ 19 ปี พร้อมตรวจยึดรถของกลางจำนวน 204 คันที่รับจำนำไว้ ที่ลานจอดรถชั้น 11 และดาดฟ้าห้างสรรพสินค้าไอที สแควร์ หลักสี่ จากการสอบสวนทราบว่าเต๊นท์รถที่เฮียเม้งรถบ้านหลักสี่รับจำนำไว้
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ สน.ทุ่งสองห้อง พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 ประชุมติดตามความคืบหน้าคดี โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้น พล.ต.ต.เจริญ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีกับนายเศรษฐวิทย์ และนายมนัสไปแล้วโดยแจ้งข้อหาประกอบธุรกิจรับจำนำโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.โรงรับจำนำ พ.ศ.2505 พร้อมทั้งส่งตัวฟ้องศาลแขวงดอนเมือง ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ โดยศาลมีคำสั่งให้ปรับเงินจำนวน 10,000 บาทต่อคน
พล.ต.ต.เจริญ กล่าวต่อว่า สั่งการให้ตั้งคณะชุดสอบสวน โดยมีพ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร รองผบก.น.2 เป็นหัวหน้าชุด ร่วมกับ พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง เร่งตรวจสอบรถยนต์ของกลาง ทั้งเลขตัวถังรถว่าตรงกับที่จดทะเบียนไว้หรือไม่ ส่วนจะเป็นรถที่ผิดกฎหมายหรือไม่นั้นต้องรอตรวจสอบอีกที ส่วนการดำเนินคดีกับทางผู้ที่ให้เช่าสถานที่จอดรถนั้น ตอนนี้กำลังตรวจสอบตัวเอกสารสัญญาการเช่า รายละเอียดสัญญาการเช่านั้นเป็นอย่างไร เช่าเพื่ออะไร พนักงานสอบสวนทำหนังสือส่งไปให้คณะกรรมการของทางห้างแล้ว คาดว่าใช้เวลามากกว่า 1 เดือนเพราะต้องตรวจสอบรถยนต์ของกลางทั้งหมด 204 คัน
สำหรับขั้นตอนการรับจำนำ ลูกค้าจะนำรถไปที่เต๊นท์"เฮียเม้งรถบ้านหลักสี่"หรือ"แชมป์รถบ้านดอนเมือง" ทางเต้นท์จะประเมินราคา เช่น โตโยต้าวีโก้ ราคาท้องตลาด 3000,000-400,000 บาท ทางเต๊นท์ให้ราคาประมาณ 150,000 บาท โดยหักดอกเบี้ย 10%=15,000 บาท ค่าจอด 3,000 บาท ค่านายหน้า 2,000 บาท ลูกค้าจะได้รับเงินจริงเพียง 130,000 บาท และจะต้องเสียค่าดอกเบี้ยและค่าจอดทุกๆ เดือนละ 18,000 บาท
หากลูกค้าที่มาจำนำไม่จ่ายดอกเบี้ยหรือทำให้รถหลุดจำนำแล้วจะถูกยึดรถและนำไปขายต่ออีกทอดหนึ่งโดยการสวมทะเบียนปลอม หรือไปซื้อซากรถที่เกิดอุบัติเหตุมาสวม จากนั้นมาวางขายที่เต๊นท์หรือประกาศขายทางเว็บไซต์เหมือนรถถูกกฎหมายทั่วไป โดยในวันจำนำจะให้ลูกค้า เขียนสัญญาขายฝากรถยนต์ไว้ โดยเซ็นชุดโอนรถของขนส่งไว้ (โอนลอย) พร้อมสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน และจะยึดสัญญาเช่าซื้อระหว่างลูกค้ากับไฟแนนซ์ (ฉบับจริง)ไว้ด้วย
ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าทางไฟแนนซ์ที่ได้รับความเสียหาย ประกอบด้วย ธนาคารธนชาต 72 คัน โตโยต้า ลีสซิ่ง(ประเทศไทย) 18 คัน ทิสโต้ ลิสซิ่ง 16 คัน อยุธยาแคปตอล ออโต้ ลีส จำกัด 16 คัน ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) 13 คัน เกียรตินาคิน จำกัด 12 คัน กรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) 11 คัน ลิสซิ่งสินเอเชีย 4 คัน บีเอ็มดับเบิ้ลยู ลิสซิ่ง 3 คัน กรุงไทย ออโต้ ลีส 3 คัน คลังเศรษฐการ 2 คัน นิสสัน ลิสซิ่ง(ประเทศไทย) 2 คัน ราชธานีลิสซิ่ง 2 คัน ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง 2 คัน ฮอนด้า ลิสซิ่ง 2 คัน ซิตี้ ลิสซิ่ง 2 คัน เซ็นเตอร์ออโต้ลิส 1 คัน และ ไทยประกันชีวิต 1 คัน รวมทั้งหมด 18 บริษัท จำนวน 182 คัน ส่วนที่เหลืออีก 22 คันไม่ติดไฟแนนช์
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ สน.ทุ่งสองห้อง พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 ประชุมติดตามความคืบหน้าคดี โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้น พล.ต.ต.เจริญ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีกับนายเศรษฐวิทย์ และนายมนัสไปแล้วโดยแจ้งข้อหาประกอบธุรกิจรับจำนำโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.โรงรับจำนำ พ.ศ.2505 พร้อมทั้งส่งตัวฟ้องศาลแขวงดอนเมือง ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ โดยศาลมีคำสั่งให้ปรับเงินจำนวน 10,000 บาทต่อคน
พล.ต.ต.เจริญ กล่าวต่อว่า สั่งการให้ตั้งคณะชุดสอบสวน โดยมีพ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร รองผบก.น.2 เป็นหัวหน้าชุด ร่วมกับ พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง เร่งตรวจสอบรถยนต์ของกลาง ทั้งเลขตัวถังรถว่าตรงกับที่จดทะเบียนไว้หรือไม่ ส่วนจะเป็นรถที่ผิดกฎหมายหรือไม่นั้นต้องรอตรวจสอบอีกที ส่วนการดำเนินคดีกับทางผู้ที่ให้เช่าสถานที่จอดรถนั้น ตอนนี้กำลังตรวจสอบตัวเอกสารสัญญาการเช่า รายละเอียดสัญญาการเช่านั้นเป็นอย่างไร เช่าเพื่ออะไร พนักงานสอบสวนทำหนังสือส่งไปให้คณะกรรมการของทางห้างแล้ว คาดว่าใช้เวลามากกว่า 1 เดือนเพราะต้องตรวจสอบรถยนต์ของกลางทั้งหมด 204 คัน
สำหรับขั้นตอนการรับจำนำ ลูกค้าจะนำรถไปที่เต๊นท์"เฮียเม้งรถบ้านหลักสี่"หรือ"แชมป์รถบ้านดอนเมือง" ทางเต้นท์จะประเมินราคา เช่น โตโยต้าวีโก้ ราคาท้องตลาด 3000,000-400,000 บาท ทางเต๊นท์ให้ราคาประมาณ 150,000 บาท โดยหักดอกเบี้ย 10%=15,000 บาท ค่าจอด 3,000 บาท ค่านายหน้า 2,000 บาท ลูกค้าจะได้รับเงินจริงเพียง 130,000 บาท และจะต้องเสียค่าดอกเบี้ยและค่าจอดทุกๆ เดือนละ 18,000 บาท
หากลูกค้าที่มาจำนำไม่จ่ายดอกเบี้ยหรือทำให้รถหลุดจำนำแล้วจะถูกยึดรถและนำไปขายต่ออีกทอดหนึ่งโดยการสวมทะเบียนปลอม หรือไปซื้อซากรถที่เกิดอุบัติเหตุมาสวม จากนั้นมาวางขายที่เต๊นท์หรือประกาศขายทางเว็บไซต์เหมือนรถถูกกฎหมายทั่วไป โดยในวันจำนำจะให้ลูกค้า เขียนสัญญาขายฝากรถยนต์ไว้ โดยเซ็นชุดโอนรถของขนส่งไว้ (โอนลอย) พร้อมสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน และจะยึดสัญญาเช่าซื้อระหว่างลูกค้ากับไฟแนนซ์ (ฉบับจริง)ไว้ด้วย
ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าทางไฟแนนซ์ที่ได้รับความเสียหาย ประกอบด้วย ธนาคารธนชาต 72 คัน โตโยต้า ลีสซิ่ง(ประเทศไทย) 18 คัน ทิสโต้ ลิสซิ่ง 16 คัน อยุธยาแคปตอล ออโต้ ลีส จำกัด 16 คัน ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) 13 คัน เกียรตินาคิน จำกัด 12 คัน กรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) 11 คัน ลิสซิ่งสินเอเชีย 4 คัน บีเอ็มดับเบิ้ลยู ลิสซิ่ง 3 คัน กรุงไทย ออโต้ ลีส 3 คัน คลังเศรษฐการ 2 คัน นิสสัน ลิสซิ่ง(ประเทศไทย) 2 คัน ราชธานีลิสซิ่ง 2 คัน ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง 2 คัน ฮอนด้า ลิสซิ่ง 2 คัน ซิตี้ ลิสซิ่ง 2 คัน เซ็นเตอร์ออโต้ลิส 1 คัน และ ไทยประกันชีวิต 1 คัน รวมทั้งหมด 18 บริษัท จำนวน 182 คัน ส่วนที่เหลืออีก 22 คันไม่ติดไฟแนนช์