พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินงานกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ที่ได้เริ่มรับสมัครสมาชิกตั้งแต่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมา ว่า ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพียง 3 เดือนมีประชาชนสมัครเข้าเป็นสมาชิกกองทุนฯ แล้ว 373,613 ราย รวมยอดเงินสะสมจากสมาชิก 400,595,921 บาท
ทั้งนี้ กองทุนการออมแห่งชาติเป็นสิ่งเน้นย้ำถึงจุดยืนของรัฐบาลที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ มีเป้าหมายดูแลพี่น้องคนไทยที่ไม่ได้อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญที่มีจำนวนกว่า 30 ล้านคน ให้มีวินัยในการออมเงินไว้ใช้ในวัยเกษียณ เป็นหลักประกันในชีวิตให้สามารถดูแลตัวเองได้ ลดภาระของประเทศที่จะเข้าสู่สังคมสูงวัยในอนาคต โดยประชาชนที่สมัครเป็นสมาชิกกองทุนสามารถออมได้ตามกำลังของแต่ละคนและไม่จำเป็นต้องออมเท่ากันทุกเดือน ขั้นต่ำครั้งละ 50 บาท รวมแล้วปีละไม่เกิน 13,200 บาท ซึ่งรัฐบาลจะสมทบให้อีกปีละไม่เกิน 600 บาท สำหรับผู้ที่มีอายุ 15 - 30 ปี ไม่เกิน 960 บาทสำหรับอายุ 30 - 50 ปี และไม่เกิน 1,200 บาทสำหรับอายุ 50 - 60 ปี เมื่ออายุครบ 60 ปี รัฐบาลจะจ่ายเงินบำนาญเป็นรายเดือนเดือนละเท่า ๆ กันไป จนกระทั่งเสียชีวิต ยิ่งเริ่มต้นออมเร็วยิ่งได้รับบำนาญมาก
จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนอายุระหว่าง 15 - 60 ปี ที่ไม่ได้อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญ มาร่วมสร้างหลักประกันทางการเงินเพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีในวัยเกษียน โดยสมัครเข้าเป็นสมาชิกกองทุน ฯ ได้ที่ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และสำนักงานกองทุนการออมแห่งชาติ
ทั้งนี้ กองทุนการออมแห่งชาติเป็นสิ่งเน้นย้ำถึงจุดยืนของรัฐบาลที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ มีเป้าหมายดูแลพี่น้องคนไทยที่ไม่ได้อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญที่มีจำนวนกว่า 30 ล้านคน ให้มีวินัยในการออมเงินไว้ใช้ในวัยเกษียณ เป็นหลักประกันในชีวิตให้สามารถดูแลตัวเองได้ ลดภาระของประเทศที่จะเข้าสู่สังคมสูงวัยในอนาคต โดยประชาชนที่สมัครเป็นสมาชิกกองทุนสามารถออมได้ตามกำลังของแต่ละคนและไม่จำเป็นต้องออมเท่ากันทุกเดือน ขั้นต่ำครั้งละ 50 บาท รวมแล้วปีละไม่เกิน 13,200 บาท ซึ่งรัฐบาลจะสมทบให้อีกปีละไม่เกิน 600 บาท สำหรับผู้ที่มีอายุ 15 - 30 ปี ไม่เกิน 960 บาทสำหรับอายุ 30 - 50 ปี และไม่เกิน 1,200 บาทสำหรับอายุ 50 - 60 ปี เมื่ออายุครบ 60 ปี รัฐบาลจะจ่ายเงินบำนาญเป็นรายเดือนเดือนละเท่า ๆ กันไป จนกระทั่งเสียชีวิต ยิ่งเริ่มต้นออมเร็วยิ่งได้รับบำนาญมาก
จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนอายุระหว่าง 15 - 60 ปี ที่ไม่ได้อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญ มาร่วมสร้างหลักประกันทางการเงินเพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีในวัยเกษียน โดยสมัครเข้าเป็นสมาชิกกองทุน ฯ ได้ที่ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และสำนักงานกองทุนการออมแห่งชาติ