นายธนกร ตระบันพฤกษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่สำหรับเตรียมพร้อมรับมือกับอุทกภัย ภายหลังจากที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) แจ้งเตือนว่า ในช่วงนี้จนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน จังหวัดสุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช จะได้รับผลกระทบจากร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องมรสุม ทำให้ฝนตกหนักถึงตกหนักมาก ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ ซึ่งนายวงศศิริ พรหมชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายให้เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
สำหรับพื้นที่เสี่ยงประสบภัยธรรมชาติ น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม ได้แก่ อ.ท่าชนะ อ.ไชยา อ.ท่าฉาง อ.วิภาวดี อ.คีรีรัฐนิคม อ.บ้านตาขุน อ.พนม อ.ชัยบุรี เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวตั้งอยู่ติดกับภูเขาบริเวณทิศตะวันตก นอกจากนี้ ยังต้องจับตาพื้นที่ลุ่มแม่น้ำตาปี ได้แก่ อ.พระแสง อ.เวียงสระ อ.เคียนซา อ.บ้านนาสาร อ.บ้านนาเดิม อ.พุนพิน และ อ.เมือง ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากน้ำในแม่น้ำเอ่อล้นเข้าท่วม
ทั้งนี้ขอให้ประชาชนในจังหวัดคอยติดตามข่าวสารการแจ้งเตือนอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับปฏิบัติตามคำแนะนำ และเตรียมความพร้อมรับมือเบื้องต้นในการเก็บของมีค่าไว้บนที่สูง อย่างไรก็ตาม พบว่าพื้นที่การเกษตรที่มักจะได้รับผลกระทบส่วนใหญ่จะเป็นพืชประเภทปาล์มน้ำมัน
สำหรับพื้นที่เสี่ยงประสบภัยธรรมชาติ น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม ได้แก่ อ.ท่าชนะ อ.ไชยา อ.ท่าฉาง อ.วิภาวดี อ.คีรีรัฐนิคม อ.บ้านตาขุน อ.พนม อ.ชัยบุรี เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวตั้งอยู่ติดกับภูเขาบริเวณทิศตะวันตก นอกจากนี้ ยังต้องจับตาพื้นที่ลุ่มแม่น้ำตาปี ได้แก่ อ.พระแสง อ.เวียงสระ อ.เคียนซา อ.บ้านนาสาร อ.บ้านนาเดิม อ.พุนพิน และ อ.เมือง ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากน้ำในแม่น้ำเอ่อล้นเข้าท่วม
ทั้งนี้ขอให้ประชาชนในจังหวัดคอยติดตามข่าวสารการแจ้งเตือนอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับปฏิบัติตามคำแนะนำ และเตรียมความพร้อมรับมือเบื้องต้นในการเก็บของมีค่าไว้บนที่สูง อย่างไรก็ตาม พบว่าพื้นที่การเกษตรที่มักจะได้รับผลกระทบส่วนใหญ่จะเป็นพืชประเภทปาล์มน้ำมัน