สุราษฎร์ธานี - ปภ.สุราษฎร์ธานี เตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมริมแม่น้ำตาปี และลำคลอง ยังคงเฝ้าระวังน้ำล้นฝั่ง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ ในขณะที่ระดับในแม่น้ำตาปีที่อำเภอพระแสงถึงจุดวิกฤต
วันนี้ (10 พ.ย.) ที่จ.สุราษฎร์ธานี สภาพอากาศบางพื้นที่ฝนหยุดตก สลับกับมีฝนตกโปรยปรายในบางช่วง สภาพอากาศโดยรวมยังมืดครื้ม ขณะที่ปริมาณน้ำในแม่น้ำตาปี ในพื้นที่อำเภอพระแสง เพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนหนึ่งได้รับอิทธิพลน้ำจากจังหวัดกระบี่ และจังหวัดนครศรีธรรมราช ไหลทะลักมาสมทบอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะไหลระบายผ่าน อ.พุนพิน และลงสู่ทะเลต่อไป โดยระดับน้ำในแม่น้ำตาปีพื้นที่ อ.พระแสง ล่าสุด วัดได้ 9.63 เมตร ซึ่งเท่ากับระดับแจ้งเตือนภัย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีปริมาณจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติสี่ขีดและน้ำจากเขตอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น ยังคงไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรสวนยางพาราในที่ลุ่ม ระดับสูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร ในพื้นที่ตำบลท่าอุแท อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี แต่ยังไม่กระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน
นายธนกร ตระบันพฤกษ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สุราษฎร์ธานี (ปภ.) กล่าวว่า ลักษณะมวลน้ำดังกล่าวจะส่งผลทำให้พื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ ลำคลองทุกสาย โดยเฉพาะคลองอิปัน คลองสาขาของแม่น้ำตาปี ช่วงอำเภอพระแสง จะได้รับผลกระทบจากมวลน้ำที่ไหลทะลักมาเป็นจำนวนมาก จึงได้ย้ำเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่ราบลุ่มริมแม่น้ำโดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงที่ประสบเหตุน้ำท่วมบ่อยครั้ง ควรยกทรัพย์สินมีค่าขึ้นที่สูง เพราะคาดว่าปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมย้ำโดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำตาปี และใต้ฝายคลองท่าทอง เฝ้าระวังน้ำล้นฝั่ง พร้อมทั้งคลื่นซัดชายฝั่ง ขอให้ประชาชนติดตามการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด