สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน ก่อนอื่นในนามของรัฐบาลและประชาชนชาวไทยทุกคน ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งอีกครั้งกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมขอยืนยันว่า ประเทศไทยจะยืนเคียงข้างประชาคมโลก และขอประณามการกระทำที่โหดร้ายต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่ประเทศใดในโลกก็ตาม ปัจจุบัน ในขณะที่สถานการณ์โลกยังมีความสุ่มเสี่ยง ประเทศไทยของเรานั้นก็ต้องเพิ่มความระมัดระวัง ผมขอให้พี่น้องประชาชนทุกท่านให้ความร่วมมือ ช่วยกันเฝ้าระวัง ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ขอให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ดูแลกันและกัน ดูแลสังคม ดูแลแขกที่มาเยือน หากใครพบเห็นสิ่งใดที่ผิดปกติ ขอให้แจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ ผมได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ช่วยกันสอดส่องดูแล ป้องกัน ปราบปราม และป้องปราม รวมถึงประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารให้กับพี่น้องประชาชนด้วย ในขณะนี้ประชาคมโลกนั้นเรามีพันธสัญญาหลายอย่างด้วยกัน ในเรื่องของความร่วมมือในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในเครือประชาคมต่างๆ ซึ่งในขณะนี้ผมได้เดินทางมาประชุมที่ต่างประเทศระหว่างวันที่ 18-19 พฤศจิกายน เป็นการประชุมเอเปคครั้งที่ 23 ที่กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ซึ่งมีแนวคิดหลักก็คือ การสร้างเศรษฐกิจที่มีส่วนร่วม การสร้างโลกที่ดีขึ้น ประเด็นสำคัญที่ได้มีการหารือร่วมกันใน 4 เรื่องด้วยกัน ได้แก่ การส่งเสริมการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมในเศรษฐกิจภูมิภาค และเศรษฐกิจโลก การลงทุนในการพัฒนาทุนมนุษย์ และการสร้างชุมชนที่ยั่งยืน และแข็งแกร่งไปด้วยกัน
นอกจากนี้ เราได้มีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการกำหนดแนวทางการเสริมสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นความยั่งยืน และเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม โดยให้ความสำคัญกับการเจริญเติบโตที่มีคุณภาพ มาจากความเข้มแข็งของชุมชน ที่สามารถจะเข้าถึงการพัฒนาได้อย่างเท่าเทียมกัน รวมทั้งสังคมที่มีคุณธรรม และธรรมาภิบาล ซึ่งทั้งหมดนั้น สอดคล้องกับนโยบายของไทยที่มุ่งมั่นในการดำเนินการปฏิรูปต่างๆ เช่น การสนับสนุนการมีส่วนร่วมของวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมต่อระบบเศรษฐกิจ การพัฒนาสังคมอย่างมีสมดุล และมีส่วนร่วม โดยเราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทั้งในประเทศ และมิตรประเทศด้วยกัน รวมทั้งส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างมีนวัตกรรม หรือเศรษฐกิจดิจิทัล ระหว่างวันที่ 21-22 พฤศจิกายน จะเป็นการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 27 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ที่จะเป็นการทบทวนการทำงานของอาเซียน ตลอดกว่า 40 ปี ที่ผ่านมา ก่อนการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 นี้ คาดว่าจะมีการแสดงวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ปี 2568 เพื่อกำหนดทิศทางอนาคตในการพัฒนาของอาเซียนต่อไปในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยจะมีการจัดทำแผนการทำงานของอาเซียน ทั้งในด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนด้านวัฒนธรรมด้วย ระหว่างปี 2559 - 2568 ที่เราจะมุ่งเน้นความร่วมมือระหว่างประชาคมอาเซียน มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ช่วงนี้เราเริ่มจะมีข่าวดีเกี่ยวกับเศรษฐกิจ การลงทุน ในหลายเรื่อง มีนักลงทุนจากหลายบริษัทให้ความเชื่อมั่น และพร้อมจะเพิ่มการลงทุนในประเทศไทย เช่น บริษัทฮอนด้า ที่ได้เข้ามาลงทุนการทดสอบรถยนต์ครบวงจรใน จ.ปราจีนบุรี มูลค่ากว่า 1,700 ล้านบาท ซึ่งถือว่า เป็นสนามทดสอบรถยนต์ฮอนด้าแห่งที่ 2 ที่อยู่นอกประเทศญี่ปุ่น
นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีเป้าหมายในการส่งเสริมและพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยจะมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขึ้นมารองรับ ซึ่งการลงทุนในหลายๆด้านนั้น ก็พร้อมที่จะลงทุนทันที บางเรื่องก็อยู่ในระหว่างการเจรจา ทั้งนี้ การลงทุนของภาครัฐเอง ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เช่น รถไฟ รถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ ถนน ก็กำลังเร่งดำเนินการอยู่ทุกโครงการ โดยจะเปิดให้เป็นการลงทุนร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชน หรือที่เรียกว่า PPP และจะเห็นการลงทุนทั้งหมดเป็นรูปธรรมภายในกลางปีหน้า
สำหรับกระทรวงคมนาคม ได้สรุปสถานะโครงการสำคัญต่าง ๆ ของรัฐบาล ดังนี้ ทางถนน สายพัทยา-มาบตาพุด ระยะทาง 32 กิโลเมตร อยู่ระหว่างการประกวดราคา คาดว่าจะมีการลงนามในสัญญาภายในเดือนมกราคม ปีหน้า และจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2562 สายบางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร อยู่ระหว่างการปรับปรุงรายงาน EIA เพื่อลดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน โดยจะสามารถเริ่มประกวดราคาได้ในเดือนธันวาคม ปีนี้ โดยจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างเดือนเมษายน ปีหน้า และเปิดให้บริการได้ในปี 2562 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กิโลเมตร อยู่ระหว่างการปรับปรุงรายงาน EIA เช่นเดียวกัน โดยจะเริ่มประกวดราคาได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 เริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือนมิถุนายน และเปิดให้บริการได้ในปี 2562
สำหรับสายบางปะอิน กับสายบางใหญ่ จะดำเนินโครงการผ่าน PPP ฟาสต์แทร็ก เรื่องการรางโครงการพัฒนาระบบการขนส่งทางรถไฟระหว่างเมือง ภายใต้ความร่วมมือกับต่างประเทศ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการก่อสร้างทางรถไฟขนาดทางมาตรฐานกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนในช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ -แก่งคอย และระยะที่3 แก่งคอย-นครราชสีมา คาดว่าจะสามารถสรุปจำนวนสถานี สัดส่วน แนวเส้นทางเดิม และเส้นทางใหม่ เพื่อใช้ในการออกแบบได้แล้วเสร็จ และสามารถเริ่มก่อสร้างได้ภายในเดือนธันวาคม
ส่วนช่วงที่ 2 แก่งคอย-มาบตาพุด อยู่ระหว่างเร่งรัดดำเนินการ สำหรับโครงการภายใต้กรอบความร่วมมือในการพัฒนาระบบทางรถไฟของไทย กับรัฐบาลญี่ปุ่น เส้นทางกาญจนบุรี-กรุงเทพฯ- อรัญประเทศ และกาญจนบุรี-กรุงเทพฯ -แหลมฉบัง โดยกำหนดให้มีการลงนามในเอ็มโอซีในเร็วๆ นี้ ส่วนเส้นทางกรุงเทพฯ -เชียงใหม่ ฝ่ายญี่ปุ่นได้ส่งผู้เชี่ยวชาญมาทำการสำรวจ และจัดทำรายงานความเหมาะสม คาดว่าจะสามารถนำเสนอ ครม. เพื่อเห็นชอบในโครงการได้ในเดือนมิถุนายน 2559 นะครับ
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยในตอนนี้กำลังฟื้นตัว ความเชื่อมั่นสำคัญที่สุดนะครับ ความเชื่อมั่นเมื่อเพิ่มมากขึ้น ดัชนีตัวเลขต่างๆ จะดีขึ้น จากการแถลงตัวเลขของสภาพัฒน์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คาดการณ์ไว้ว่า จีดีพีปีนี้ไว้ที่ 2.9% ซึ่งน่าจะโตได้มากกว่านี้ เนื่องจากยังมีเม็ดเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจออกไปอีก โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นผลของเม็ดเงินในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ภาคการท่องเที่ยวก็น่ายินดีนะครับ ดีขึ้นตามลำดับ พี่น้องประชาชน ประเทศจะพัฒนาไปได้ ภาครัฐ เอกชน และประชาชนต้องร่วมมือกัน การดำเนินมาตรการใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการค้าการลงทุน หรืออื่นๆ ประชารัฐ ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การพัฒนานั้นยั่งยืน เช่น การช่วยเหลือเอสเอ็มอีผ่านการพัฒนาสินค้าให้เป็นที่ยอมรับ ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันสร้างความเข้มแข็ง ให้มีการพัฒนานวัตกรรม มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ดูความต้องการของตลาด มีการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีความแตกต่างกัน เป็นการใช้วัสดุและดีไซน์ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ไม่ใช่ผลิตสินค้าที่เหมือนกัน แต่ความต้องการของตลาดจำกัด มันอาจทำให้เกิดปัญหาการขายต้องดูตลาดต่อไปนะครับ
ส่วนนี้ ภาครัฐและเอกชน สามารถร่วมมือกันพัฒนาให้เกิดความเข้มแข็ง ซึ่งนโยบายนี้ จะเริ่มเห็นผลที่ชัดเจนขึ้น และจะมีการขับเคลื่อนต่อเนื่อง
สำหรับเรื่องการเมืองนั้น ผมทราบดีว่า ทุกคนล้วนตั้งใจดี ที่จะช่วยกันเขียนกติกาการบริหารประเทศระยะต่อไป ไม่ว่าจะเป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ สปท. ซึ่งอยู่ในกระบวนการทั้งสิ้น ในขั้นตอนการร่างและนำเสนอ ก็อยากให้พี่น้องประชาชนรับฟัง วิเคราะห์ข้อดีข้อเสียต่างๆ และอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าเวลานี้ เป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน มีปัญหามากมายที่ทุกคนต้องรับรู้ด้วยกัน เราจะต้องนำไปสู่การปฏิรูปให้ได้ นำประเทศชาติให้ปลอดภัย เพราะฉะนั้น การนำเสนอกฎเกณฑ์ต่างๆ นั้น ทางรัฐบาลเอง หรือ คสช. พร้อมจะรับฟังนะครับ ว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง และข้อสำคัญคือประชาชนนั้น จะยอมรับได้หรือไม่ ถ้าหากว่ากฎเกณฑ์ที่ร่างมานั้นไม่มีอะไรที่จะทำให้ประเทศปลอดภัย ก็จะทำให้ประเทศกลับมาเป็นแบบเดิม ความขัดแย้ง ปัญหา การเจริญเติบโต ความยากจน มันก็ทำให้ปัญหาไม่มีวันสิ้นสุด อันนี้เราควรช่วยกัน ช่วยกันดูหน่อย ทุกภาคส่วนเลย ไม่ใช่ว่ารัฐบาลทำนี่ทำโน่นแล้วก็มีปัญหาติดขัดไปทั้งหมด เพราะหลายๆคนอาจจะไม่เข้าใจปัญหาในเชิงโครงสร้าง ในเชิงบริหารราชการแผ่นดิน ว่ามีปัญหาอยู่ตรงไหน วันนี้ผมก็พยายามจะมาพูดให้ท่านฟัง ก็อดทนกันหน่อยแล้วกัน เพราะผมต้องพยายามพูดให้ท่านเข้าใจให้ได้ ท่านก็ต้องพยายามอดทนฟังผมหน่อยแล้วกัน จะได้รู้ว่าเราต้องแก้ปัญหาอะไรบ้าง เราจะต้องมีกฎเกณฑ์อย่างไรที่จะเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เราต้องการในอนาคต เมื่อพร้อมเต็มที่แล้ว เราก็ค่อยๆปรับเปลี่ยนให้เข้ากับความเป็นไปในห้วงเวลานั้นๆ ทำอย่างไร ไอ้การปฏิรูป หรือปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขในระยะเวลาอันสั้นสักช่วงหนึ่งได้ไหม เหล่านี้เป็นเรื่องที่กำลังพิจารณากันอยู่ทั้งสิ้น ทั้งหมดนี้ความมุ่งหมายก็เพื่อประชาชนทั้งสิ้น ประชาชนเป็นศูนย์กลาง ฉะนั้นสิ่งที่ผมเป็นกังวลก็คือการสร้างการรับรู้ การเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร การพูดคุยกับพี่น้องประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ และการที่จะอาจจะมีคนไม่หวังดีมาพูดบิดเบือนอะไรต่างๆทำให้ความเข้าใจเหล่านั้นมันผิดเพี้ยนไป อันนี้เป็นปัญหาสำคัญของรัฐบาล
สำหรับการทำงานของทั้ง กรธ. ,สปท. ,สนช. ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเร่งด่วน หรือดำเนินการระยะสั้น หรือระยะยาว ที่นำสู่การพัฒนาและปฏิรูปประเทศ จะต้องอยู่บนพื้นฐานของการบริหารราชการแผ่นดินที่เหมาะสม ที่เรียกว่าธรรมาภิบาล ที่ผ่านมานั้นรัฐบาลได้ดำเนินการวางรากฐานไปแล้ว คือการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ การแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องของปลายเหตุนะเรื่องการทุจริต เพราะไม่รู้ว่าต้นเหตุมันอยู่ตรงไหน และจะทำอย่างไร เพราะมันเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ประชาสังคมทั้งหมด ถ้าเรามุ่งเน้นแก้คอร์รัปชัน เราก็ไม่ได้แก้ตรงสาเหตุหรือต้นเหตุแห่งปัญหา มันเกี่ยวพันกันในหลายส่วนด้วยกัน ถ้าเราร่วมมือกันในช่วงนี้ แล้วตกลงกันได้ว่าเราจะใช้เวลาสักระยะหนึ่งในการเปลี่ยนผ่านเรื่องเหล่านี้ให้มันเกิดความยั่งยืนเกิดขึ้นในอนาคต ในการที่จะมีรัฐบาลต่อไป มันก็จะทำให้ประเทศเราเจริญก้าวหน้า ไม่วนเวียนกลับไปสู่ความขัดแย้งเดิม ๆ หรือปัญหาเดิม ๆ หรือการเจริญเติบโตที่ไม่เท่าเทียมกัน
สำหรับการทำงานของข้าราชการที่ผมถือว่าเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน ผมก็จำเป็นที่ต้องมากำกับดูแลการทำงานของท่าน ในการที่จะนโยบายของรัฐบาล ท่านจะต้องนำไปสู่การปฏิบัติด้วยตัวท่านเอง ไปสู่ประชาชน หากเรามีนโยบายที่ดีประการใดก็ตาม แต่ข้าราชการไม่เข้าใจ ไม่สามารถสร้างการรับรู้ ทำความเข้าใจกับประชาชนได้ เพราะว่าทุกคนขาดเหมือนกันหมด ทุกคนขาดแคลน ทุกคนไม่มีรายได้ ทุกคนไม่มีอาชีพที่พอเพียงจะเลี้ยงดูครอบครัว เขาก็ไม่เข้าใจอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้ข้าราชการจะต้องเข้าใจในนโยบาย และอธิบายให้เขาได้ และทำอย่างไร การขับเคลื่อนจะเกิดขึ้นในลักษณะที่ว่าไม่ไปสร้างความขัดแย้ง ประชาชนก็จะเกิดปัญหาไปทั้งหมด เพราะว่าวันนี้เขาลำบากอยู่แล้ว ถ้าเราไปอธิบาย เขาไม่เข้าใจอีก สิ่งที่เราปรับเปลี่ยนทั้งหมดก็จะกลายเป็นการสร้างความขัดแย้งมากขึ้น เราก็จะไม่ได้รับความร่วมมือจากชุมชน ภาคเอกชน ภาควิชาการต่าง ๆ เหล่านี้ ก็ขัดแย้งกันไปหมด เพราะทุกคนต้องเข้าใจว่าปัญหามันอยู่ที่ไหน แล้วเราจะแก้ปัญหานั้นอย่างไร HOW TO DO ... ที่ผมพูดมาหลายครั้งแล้วนะ เสร็จแล้วในระหว่างที่กำลังทำอยู่มันก็มีปัญหาเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นท่านต้องสามารถที่จะอธิบายได้ด้วยเหตุและผลว่าทำไมถึงทำอย่างนี้ ทำอย่างนั้น ทำแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น ไม่อย่างนั้นพี่น้องประชาชนไม่เข้าใจ มันก็ขัดแย้งกันไปข้างล่าง แล้วท้ายที่สุดก็กลับมาที่ว่ารัฐบาลสั่งอะไรมาที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน อันนี้ผมว่ามันไม่ใช่ แล้วถ้าทำกันอย่างนี้ไม่มีวันสำเร็จ เพราะฉะนั้นข้าราชการ ผมจะได้มีการติดตามการทำงาน ประเมินการทำงานของท่านในทุกระดับ และข้อสำคัญก็คือการมีส่วนร่วมของประชาชน การทุจริตคอร์รัปชันจะต้องไม่เกิดขึ้น จะต้องถูกดำเนินคดี
สำหรับการร่วมมือในรูปแบบของการประชารัฐนั้น เราต้องการให้เกิดขึ้น ถ้าเราไม่เข้าใจกัน ขับเคลื่อนไม่ได้ หรือไม่ทำงานเชิงรุก ไม่มีวิสัยทัศน์ เพราะฉะนั้นข้าราชการทุกคนนั้นเท่ากับว่าเราทำหน้าที่ของเราไม่สมบูรณ์ ต้องมีการทำงานเชิงรุก แก้ปัญหาได้ มีวิสัยทัศน์ มีความตั้งใจนำพาประเทศ เพราะฉะนั้นวิธีการมันต้องมุ่งไปสู่วัตถุประสงค์ที่้ต้องการสุดท้าย ผลสัมฤทธิ์คือต้องการอะไร ต้องการให้ชาวบ้านมีอาชีพ มีรายได้ที่เพียงพอ ท่านต้องไปย้อนกลับไปดูปัญหามันอยู่ตรงไหน จากนั้นท่านก็ต้องดูในระหว่างทางที่้เดินมีปัญหาตรงไหน อย่างไร ก็แก้ปัญหา อย่าเอาสิ่งที่รัฐบาลพูดถึงหลักการลงไป เพราะท่านต้องนำไปสู่การปฏิบัติ ขอให้ทุกคนเข้าใจตรงนี้นะ เพราะฉะนั้นอย่างวันนี้ผมเจอปัญหาหลายปัญหา ไปตรวจเยี่ยมประชาชนอะไรต่าง ๆ โอเค ทุกคนทำงานเต็มที่ ช่วยกันหมด แต่ผมเกรงว่ามันจะกลับไปที่เก่า เพราะอะไร เพราะว่าเป็นการทำในรูปแบบเดิม ๆ เสียเป็นส่วนใหญ่ ผมเป็นห่วงตรงนี้เท่านั้นล่ะ ไหน ๆ เราก็ร่วมมือกันอยู่แล้ว ตั้งใจกันอยู่แล้ว แล้วมีเวลาจำกัดเท่านี้ ถ้าท่านไม่พัฒนาการทำงานของท่าน ไม่เพิ่มขีดความสามารถตัวเอง ไม่สร้างการเรียนรู้ของตัวเอง ข้าราชการก็จะไปนำเขาไม่ได้ ท่านต้องนำประชาชนเขา เราจะต้องยึดถือแบบอย่างการทำงาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นะครับ ทุกคนต้องทำให้ประชาชนเข้าใจ และคำนึงถึงส่วนรวม
ถ้าวันนี้ เราบอกว่า เราจะดูแลคนกลุ่มนี้ กลุ่มนั้นต่างๆ มันไม่ได้หรอก วันนี้ทำยังไงคนทั้งประเทศ 70 ล้านจะมีความสุข โดยเฉพาะ 70 ล้าน คนเกือบ 40 ล้านคนอยู่ภาคการเกษตร จะทำยังไง รายได้เขาไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้น คือหน้าที่ของรัฐบาลทุกรัฐบาล แต่มันเป็นสิ่งยากที่จะทำ แต่เราก็ไม่เคยท้อแท้นะ รัฐบาล คสช. เราทำเต็มที่ เราต้องมีความรับผิดชอบ ที่เราจะต้องขับเคลื่อนบริหารประเทศชาติต่อไป เพราะการใช้จ่ายเงินงบประมาณของรัฐ ซึ่งเรามีน้อย เพราะมันไม่ได้ มีการเพิ่มรายได้ให้ประเทศ เพราะถ้าเราไม่แก้โครงสร้าง ภาษีมันก็ไม่เกิดขึ้น การค้าขายถ้าไม่ปรับปลี่ยนรูปแบบใหม่ ไม่มีการพัฒนาไปสู่เทคโนโลยีนวัตกรรม รายได้ก็เท่าเดิม
ขณะเดียวกัน ต่างประเทศสูงขึ้นๆ ไปเรื่อยๆ ท้ายสุดก็เกษตรกรแย่กว่าเดิม วันนี้ ต้องทำใหม่ทั้งหมด ต้องใช้เวลา แต่เริ่มต้นวันนี้ ยังไม่สายไปหรอกนะครับ ถ้าเราทำด้วยความมีประสิทธิภาพโปร่งใส เป็นประโยชน์แท้จริง เจอปัญหาตรงไหน แก้ตรงนั้น อะไรแก้ไม่ได้ให้บอกผม แต่ไม่ใช่บอกทุกเรื่อง บางเรื่องท่านต้องคิดเองได้อยู่แล้ว ข้าราชการ ข้างล่างลงไป ผู้ว่า ถือเป็นกำลังหลักนะครับ วันนี้ผมมอบจะให้นายอำเภอเขามาร่วมด้วย จะต้องรับผิดชอบร่วมกับผู้ว่าฯ ไปด้วย เพราะพี่น้องประชาชนทุกคนรอการช่วยเหลือจากพวกเราอยู่นะครับ อย่าคำนึงถึงแต่เพียงเกษตรกรอย่างเดียวไม่ได้ เพราะต้องคำนึงถึงผู้มีรายได้น้อยทั้งหมด อาชีพอิสระ ค้าขาย ที่บางครั้งเขาก็ ทำอย่างนี้มานานแล้ว ซึ่งมันก็ผิดกฎหมายบ้างอะไรบ้าง ถ้าเราไม่แก้กฎหมายพวกนี้นะ ไม่แก้ไขเชิงโครงสร้างในการใช้กฎหมาย มันจะวุ่นวายอยู่อย่างนี้ แต่ทำยังไง คนเหล่านี้จะไม่เดือดร้อน นั่นแหละเป็นสิ่งที่ท่านต้องทำให้ผม และมาบอกผมจะเอายังไง จะให้แก้ตรงไหน ปัญหามันอยู่ที่ไหน กฎหมายมันเป็นยังไง ถ้าทุกคนไม่เริ่มต้นจากกฎหมายความถูกต้อง เพราะกฎหมายทำให้คนเท่าเทียม ทุกคนมีสิทธิเหมือนกันหมด แต่ต้องเคารพกฎหมาย อะไรทำได้ก็ทำให้ได้ ถ้าเอาตรงนี้มาว่าก่อน ถึงจะมาดูว่า คนยากคนจนจะทำกับเขายังไง จะดูแลเขาอย่างไรนะครับ เพราะฉะนั้นทุกคนต้องพัฒนาตัวเอง ไม่อย่างนั้นจะส่งผลกระทบโดยตรงกับประชาชน ท่านก็เดือดร้อน เพราะผมก็ต้องประเมินท่านทุกระดับลงไป ตั้งแต่ปลัดกระทรวงลงไป
ในเรื่องของการพัฒนาประเทศนั้น ในสัปดาห์ที่ผ่านมา วันที่ 12 พฤศจิกายน ทุกคนทราบอยู่แล้วผมไปที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เรามีโครงการมากมาย มีงบประมาณลงไป ก้อนใหญ่พอสมควรนะครับ มีความคืบหน้าไปมาก ตามแผน แต่จะมีปัญหาข้อขัดข้องที่ผมเคยกราบเรียนไปแล้วว่า ต้องไปดูในไส้ในด้วยนะครับว่า ประชาชนนั้นจะได้ประโยชน์อะไรจากตรงนั้นจริงๆ เพราะเป็นการขยายกิจการเขาบ้าง อะไรเขาบ้าง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการทำให้อาชีพที่เขาทำในครัวเรือนที่เขาทำในชุมชนเขา มันมีรายได้มากขึ้น แต่ผมอยากเห็นหลายๆ อย่างมันเป็นของเดิมๆ ซะส่วนใหญ่นะครับ
เพราะฉะนั้นผมอยากให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน เรื่องมาตรการที่ส่งเสริม ในเรื่องของวัสดุต้นทุน ในเรื่องของการสร้างเครือข่ายในการสร้างความเชื่อมโยง และการตลาด บางครั้งไม่จำเป็นต้องผลิตของอย่างเดียวกัน ในจังหวัดเดียวกัน ในพื้นที่เดียวกัน ผมยกตัวอย่างง่ายๆ ท่านทำผ้าขาวม้าเหมือนกันหมด มันขายใครได้ไม่มากนักหรอก แต่ถ้าท่านเอาผ้าขาวม้าไหมมาทำอย่างอื่นด้วย มาทำเป็นเครื่องประดับ ประดับบ้านอะไรบ้าง ทำกระเป๋าประกอบกับหนังอะไรซักอย่าง เหล่านี้ผมว่ามันขายได้หมด เพราะฉะนั้นทำแบบเดิมมันขายได้เท่านี้ ยิ่งทุนมากๆ ยิ่งเสียหายมาก ผมฝากข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และผมก็หวังอย่างยิ่งว่าในการตรวจเยี่ยมครั้งต่อไป ผมจะเห็นในสิ่งที่ดีขึ้นอย่างที่ผมบอกไปแล้ว แต่ที่ผ่านมานั้นอาจจะยังไม่รู้ ไม่เข้าใจ ผมก็ไม่โทษท่านหรอก แต่จากนี้ไป ผมพูดอย่างนี้แล้ว ข้าราชการต้องไปทำใหม่ ครั้งหน้าที่ผมไปตรวจเยี่ยมแต่ละพื้นที่ ถ้าร้านค้ามีสินค้าเหมือนกันทั้งหมดจะไม่ค่อยแฮปปี้นะ ไม่ค่อยมีความสุข แต่ถ้ารวมกลุ่ม อย่างน้อย เรื่องการเกษตร นี่เรื่องของสินค้าที่มีศักยภาพขึ้นมาแต่ละจังหวัดมาอยู่ในโซนนี้ มันก็จะเห็นข้อเปรียบเทียบระหว่างสินค้าเดียวกันในแต่ละพื้นที่ ว่ามันต่างกันตรงไหน ถ้าไม่ต่างกัน ท่านต้องทำให้ต่างกัน แล้วไม่จำเป็นต้องผลิตเหมือนกันหมด จะขายใคร พื้นที่นี้อาจจะเป็นเพาะปลูก หรือจัดหาเรื่องของวัสดุต้นทุนในการผลิต พื้นที่อีกอันเป็นเรื่องของการแปรรูป เพิ่มมูลค่า แต่เราก็ไปรวมการตลาดมา ถ้าในกลุ่มจังหวัด โดย กรอ.เขาก็มาช่วย แล้วก็งบประมาณยุทธศาสตร์จังหวัด อันนี้เราก็เพิ่มไปให้แล้วของผู้ว่าฯ ไปคิดแบบนี้ ผมก็คาดหวังว่าจะเห็นเรื่องแบบนี้โดยเร็ว ผมไม่อยากเห็นเรื่องเดิมๆ ก่อนผมเข้ามาก็ทำแบบนี้ วันนั้นก็ทำแต่เล็กหน่อย วันนี้ก็มีเงินมากขึ้น ก็ทำแบบเดิม ฉะนั้นสินค้าแบบเดิมก็ออกมามากขึ้น ตลาดมันก็เป็นปัญหา หลักการง่ายๆ คิดแบบนี้แล้วกัน
สำหรับการพูดคุยกับพี่น้องประชาชนโดยตรงนั้น ก็ได้คุยกับตัวแทนของทุกภาคส่วน ทุกกลุ่มผมเห็นแล้วเเววตาของเขา เขายังมีความหวัง ผมหวังยิ่งกว่าท่านอีก ผมก็หวังให้ทุกอย่างมันดีขึ้น ท่านก็หวังให้มีรายได้เพิ่มขึ้น หลายคนส่วนใหญ่เป็นการให้กำลังใจรัฐบาลทั้งสิ้น และพร้อมร่วมมือกันก้าวข้ามความขัดแย้ง หรือที่เรียกว่า กับดักตัวเอง และมาร่วมมือกันปฏิรูป
การปฏิรูปทำตั้งแต่วันนี้ ทำมาได้ตลอด ไม่ต้องรอ สปท.เขาทำเป็นแผนมาหรอก วันนี้ เราปฏิรูปอยู่แล้ว ถ้าท่านร่วมมือกับผมนะ ผมปฏิรูปอยู่ ท่านต้องเข้าใจตรงนี้ ถ้าเราปฏิรูปแล้ว ระยะแรกได้ ระยะต่อไปมันต่อไป รัฐบาลหน้า รัฐบาลไหนก็ทำเถอะครับ ยุทธศาสตร์ 20 ปี ก็ต้องกำหนดอยู่แล้ว ถ้าเรามองว่า เราพัฒนาประเทศ เพื่อประโยชน์ส่วนรวม เราต้องพัฒนาชุมชนให้ได้ก่อน ข้างล่าง เป็นประชารัฐให้ได้
การมีส่วนร่วมของคนในชุมชนวันนี้ ผมเห็นแล้ว เขามีการวางแผน การจับกลุ่ม มีความร่วมมือ แต่สิ่งประเด็นสำคัญของเขาคือ เขายังขาดคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ว่าทำยังไงดีขึ้น ไม่ใช่เพิ่มจำนวน กองทุนอย่างเดียว ไม่ได้ ต้องเปลี่ยนแนวคิดให้ได้ ต้องพัฒนาตัวเองด้วย เพราะเราไม่ได้อยู่กับเขาตลอดไป ข้าราชการเปลี่ยนไปเรื่อย นักการเมืองเปลี่ยนไปเรื่อย แต่ทำยังไง มันจะอยู่ติดกับชุมชนของเขา อยู่ติดกับชาวไร่ชาวนา หรือผู้ประกอบการค้าขนาดเล็ก เอสเอ็มอี ต่างๆ พัฒนาทั้งหมดเลย และที่ผ่านมา อาจน้อยไปบ้าง ประสิทธิภาพไม่เต็มที่
ส่วนการพัฒนาชุมชนตัวเอง เป็นส่วนสำคัญที่ประชาชนต้องมีส่วนร่วม และภาครัฐและเข้าไปสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นเงินทุน เรื่องการอำนวยความสะดวก การประกอบการ เหล่านี้ต้องร่วมมือกันทั้งสิ้น ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม เอ็นจีโอ กองทุนต่างๆ ทั้งกองทุน องค์กร มหาชน และกองทุนหมู่บ้าน ต้องผสมผสานกัน และทำร่วมกันให้เข้าใจว่า วันนี้ต้องสร้างความเข้มแข็ง และระหว่างการสร้างความเข้มแข็งต้องใช้เวลา เพราะฉะนั้น ระหว่างนี้ทำยังไงประชาชนจะไม่เดือดร้อน ต้องมีโครงการก่อสร้าง จ้างงานทำเหมือง ขุดลอกคูคลอง เจาะน้ำบาดาลของรัฐเอง หรือว่าการขุดลอกของประชาชนเอง การขุดบ่อน้ำบาดาล บ่อน้ำตื้นของประชาชนเองเหล่านี้ทั้งหมด และการเกษตรกรจะทำอย่างเดียวไม่ได้แหละ วันนี้จะต้องไปดูว่า วันนี้จะต้องไปดูว่า เอ๊ะน้ำมันน้อยลงใช่ไหม แม้กระทั่งในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา น้ำในเขื่อนก็มีปัญหา ลุ่มน้ำแม่กลองก็มีปัญหา พื้นที่ปลูกข้าวทั้งหมดจะมีปัญหาหมด
เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องมีอาชีพเสริม ทุกคนต้องมีหลายอาชีพพูดง่ายๆ เดิมอาชีพของเกษตรกรเรา ผมเห็นแล้วถ้าจะเลี้ยงสัตว์ก็เลี้ยงสัตว์ ถ้าจะปลูกพืชก็ปลูกพืช เสร็จแล้วพอหมดหน้าการทำเกษตรก็ไปรับจ้าง มันมีอยู่แค่นี้ ผมว่ามันต้องรองรับไปทั้งอาชีพใหม่ว่า มันจะต้องมีทั้งเกษตรกรรม ปศุสัตว์ เลี้ยงสัตว์ และมีทั้งการค้า ทั้งการเพิ่มมูลค่า และข้อสำคัญต้องมีอุตสาหกรรมที่เรียกว่า อาจจะเป็นเกษตรอุตสาหกรรม หรืออุตสาหกรรมที่ไม่ทำให้เกิดมลพิษ อุตสาหกรรมสีเขียวมันก็เกิดขึ้น ถ้าไม่เกิดขึ้นในชุมชนนั้น มันไปไม่ได้หรอก ผมยืนยันด้วยหลักการที่มนุษย์โลกเราเจริญเติบโตอยู่แล้ว ถ้าท่านไปดูมหาอำนาจทั้งหมดเขาเป็นประเทศอุตสาหกรรม แต่เราไม่ต้องการจะไปถึงตรงนั้น เพราะมันสร้างมลภาวะมากพอสมควร อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ขนาดหนัก มันจะมีเฉพาะในบางพื้นที่ได้เท่านั้นเอง แต่อุตสาหกรรมขนาดย่อมมันต้องเกิดขึ้นในทุกพื้นที่ เพื่อจะไปต่อยอด และใช้ระบบต้นทุนผลิตเป็นจำนวนมาก ข้าว ยางอะไรเหล่านี้ มันสำปะหลังทั้งหมด เพราะเราส่งประเทศอื่นต่อไปไม่ไหวแล้ว ราคามันตกไปทุกปีนะครับ
ดังนั้นต้องกลับมาดูว่า ประชาชนมีความพร้อมหรือไม่ เราต้องให้ความรู้เขาหรือเปล่า สอนแนวคิดเขาหรือไม่ ถ้าเขาคิดแต่เพียงว่า ปลูกข้าวๆ ใครมารับไปขายต่อ มันจะเป็นอยู่แบบนี้ ทำยังไงให้เขารู้ว่า กระบวนการผลิตแล้ว มันจะต้องไปสู่การขนส่ง การปรับปรุงคุณภาพ การทำให้ข้าวนั้นเป็นข้าวที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ไม่อย่างนั้นท่านก็ต้องถูกปรับลดราคาไปทั้งหมด ไปโรงสีราคาก็ลดลง เพราะฉะนั้นราคาที่ตั้งไว้ไม่ได้ตามนั้นหรอก เพราะว่ามันไม่มีคุณภาพไง อันนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องแก้ ข้าราชการก็ต้องลงไปดู จากนี้ไปผมจะพยายามเดินทางลงพื้นที่ให้บ่อยขึ้น ทั้งนี้ เพื่อจะพบปะเยี่ยมเยือนให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ผมเป็นห่วงจริงๆ นะครับ พี่น้องประชาชนที่รายได้น้อยทั้งหมด
สำหรับในเรื่องของการดำเนินงานของรัฐบาล เราจะทำทุกพื้นที่ เพราะเราไม่ได้มาจากการเมือง เพราะฉะนั้นเราจะทำอย่างไรให้คน 70 ล้าน มีความพึงพอใจ ทั้งระดับบน ระดับกลาง ระดับล่าง มีความพอเพียงตามหลักการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย ทำยังไงจะทำให้คนที่มีน้อยเขามีมากขึ้น มันจะได้ใช้มากขึ้น และมีกระบวนการทางภาษี มันก็เป็นรายได้ของรัฐเข้ามา เพิ่มรายได้ทั้งของประชาชน และประเทศด้วย รัฐบาลก็พยายามจะดำเนินการโดยยึดหลักของความเป็นจริงในปัจจุบัน
ปัจจุบันนี้หลายปัญหามันเกิดขึ้นโดยปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไขมาเป็นเวลานาน เช่น ระบบการจัดเก็บภาษีของเรายังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ไม่ได้หมายความว่าผมจะไปรีดภาษีใคร เพียงแต่ขอให้จัดเก็บให้มันถูกต้อง ให้มันครบถ้วน ใครควรจะเสียก็เสีย ขอให้ทุกคนที่เสียภาษีภูมิใจ ภูมิใจว่าได้ช่วยชาติด้วยการเสียภาษี ไม่ใช่พยายามจะหลีกเลี่ยง พยายามจะทำยังไงให้เสียน้อยลง ความภูมิใจมันไม่เกิดหรอกครับ ทั้งผู้ประกอบการทั้งหมด ผู้ผลิตทั้งหมด ที่ร่ำรวยทั้งหมด ต้องคำนึงถึงตรงนี้ ท่านจะช่วยชาติได้ก็ตรงนี้ล่ะ เสียภาษีให้มันเต็มเม็ดเต็มหน่วย คนจนที่ยังเสียไม่ได้ ก็ทำยังไงเขาจะมีรายได้มากขึ้น วันหน้าเขาจะได้มาเสียภาษีได้ ถ้าอย่างนี้เราได้เสียภาษีจากคนหลายสิบล้านคน ไม่ใช่ภาษีคนจำนวนหนึ่ง ต้องมาดูแลประเทศทั้งหมด มันเป็นไปไม่ได้ และสวัสดิการเราต้องดูแลคนรายได้น้อยอีก การศึกษา สาธารณูปโภค สาธารณสุข ทั้งหมดมันใช้เงินรัฐบาลทั้งสิ้น มันไปไม่ไหวหรอก ทำยังไงจะสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเตรียมอนาคตให้ได้ รัฐบาลนั้นดูจากปัจจัยหลายส่วน และความเหมาะสมต่าง ๆ ในเรื่องของการจัดทำเรื่องภาษี วันนี้มันจะต้องปฏิรูปในการจัดเก็บ เรื่องการประเมินราคาต่างๆ มันก็ต้องเป็นไปตามกลไกของตลาดในปัจจุบัน เพราะไม่ได้เปลี่ยนมานานแล้ว เพราะเปลี่ยนไม่ได้ เพราะรัฐบาลถ้ามาจากการเลือกตั้งก็ทำไม่ได้หรอก มันเสียคะแนนเสียง เสียอะไรก็แล้วแต่ แต่ผมไม่ได้ทำให้ท่านต้องมารักผม แต่ให้ท่านรู้ว่าผมรักท่านยังไงก็แล้วกัน เพราะฉะนั้นการรักใครก็ตาม อย่าทำให้คนเสียนิสัย ก็คือต้องสอนให้เขาเรียนรู้ ให้เขาเข้มแข็ง ระหว่างนี้อะไรที่ยังเอาจากเขาไม่ได้ ก็ส่งเสริมให้เข้มแข็ง แล้วค่อยวันหน้า ไม่ใช่ทุกคนต้องไปเอาของเขาหมด เพื่อมาให้เข้าระบบภาษีให้ได้ทั้งหมด มันไม่ได้อยู่แล้ว ขอเพียงแค่ขึ้นทะเบียนไว้เท่านั้นเอง มีรายได้มาก/น้อย ก็ว่าตามนั้น วันหน้าท่านแข็งแรงขึ้น มันก็จะรู้ว่ามีคนอยู่ตรงนั้นเท่าไร มีเกษตรกรเท่าไร อาชีพค้าปลีก ค้าส่ง รับจ้าง มีเท่าไร มันก็จะได้จัดสรรงบประมาณได้เหมาะสมไง ไม่อย่างนั้นก็มีปัญหาอยู่แบบนี้ตลอด เพราะงบประมาณเราน้อย ถ้าเมื่อไรเรารวย เข้มแข็ง ประเทศไทยมีรายได้มากขึ้น รับรองท่านสบายทุกคน แต่ต้องเป็นรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลนะ
ขณะที่ที่ผ่านมานั้น ผมยังไม่มีการอนุมัติการปรับขึ้นอัตราภาษีแต่อย่างใด อย่าให้ใครให้ข้อมูลบิดเบือนนะ แต่ผมอธิบายให้ท่านเข้าใจว่าระบบภาษีเราเป็นอย่างไร เราไม่ได้เปลี่ยนแปลงมาเท่าไร การจัดเก็บเป็นอย่างไร วันหน้ามันควรจะเป็นยังไง ข้ามอันนี้ไปก่อนแล้วกัน แต่วันนี้ขออย่างเดียวว่า ปี 59 การเสียภาษีของสถานประกอบการทั้งหมดต้องเป็นไปตามอัตรา กรุณาอย่าหลีกเลี่้ยง หรือทุจริตในเรื่องนี้โดยเด็ดขาด ทั้งเจ้าหน้าที่ด้วย ทั้งเอกชน ทั้งอะไรต่าง ๆ ที่มีผลการประกอบการ ขอให้เสียภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วยนะ ถ้าไม่อย่างนั้นผมจะตรวจสอบภาษีย้อนหลัง ถ้ามีข้อสงสัยบริษัทใดก็แล้วแต่ ผมช่วยไม่ได้นะ และผมก็ยืนยันว่า เงินภาษีที่เก็บไปนั้น เราพยายามจะใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุดในการพัฒนาประเทศ เพราะผมเองไม่ได้มุ่งหวังรายได้หรืออะไรจากท่านเลย จากงบประมาณแผ่นดินเลย เพราะมันทำอย่างนั้นไม่ได้ มันไม่ถูกต้อง การพัฒนาทุกโครงการของรัฐบาลนี้จะต้องมีความโปร่งใสและเป็นธรรม ผมก็ฝากไว้อีกนั่นล่ะ ก็ต้องฝากข้าราชการด้วย ข้าราชการก็ต้อง ... หลายคน หลายส่วน อาจจะมีความคิดเดิม ๆ ก็ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมท่าน ไม่งั้นท่านก็เจริญเติบโตก้าวหน้าไปไม่ได้ เพราะว่าท่านทำร้ายประเทศของท่าน
สำหรับการประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่ผ่านมานั้น ต้องขอขอบคุณ กสทช. กระทรวงไอซีที รวมถึงภาคธุรกิจ เอกชน นักวิชาการทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ทำให้เกิดการประมูล และมีการแข่งขันอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม มีรายได้มากพอสมควร ตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อมูลว่าทุจริต ก็เป็นตัวอย่างที่ดี ในการที่จะดำเนินการโครงการต่างๆของรัฐ แต่ทั้งนี้ก็ต้องฝากให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องตระหนักว่าประชาชน เป็นนโยบายของผมอยู่แล้วว่าจะต้องได้รับประโยชน์สูงสุด จากอัตราค่าบริการ แม้ว่ามูลค่าในการประมูลจะสูงกว่าที่คาดการไว้มากก็ตาม แต่ภาระจะต้องไม่ตกอยู่กับประชาชนเด็ดขาด อันนี้ผมประกาศไว้อยู่แล้ว สมเหตุสมผล ไม่สร้างภาระ ก็เห็นประกาศมาแล้วต้องถูกไปกว่าเดิม มีหลายคนไปบิดเบือนอยู่ ว่าเดี๋ยวมันต้องแพงขึ้น เพราะว่าประมูลมากขึ้น เดี๋ยวจะผลักภาระให้ประชาชน ก็ผมสั่งว่าไม่ให้ผลักภาระไง ฉะนั้นรู้สึกว่าในทีโออาร์ในการประมูลมีเขียนไว้แล้ว ว่าจะต้องไม่ทำให้ราคาค่าบริการแพงขึ้นกว่าเดิม ต้องถูกกว่าเดิม และท่านประธานก็ชี้แจงมาแล้ว ก็ให้เป็นไปตามนั้น ก็ขอขอบคุณ เราจะต้องปฏิรูปไปสู่การแข่งขันที่เป็นธรรม โดยเฉพาะเรื่องของการเดินหน้าประเทศไปในลักษณะเศรษฐกิจดิจิตัล ก็ขอให้ดำเนินการต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ ก็ขอร้องพวกรัฐวิสาหกิจ หรือสหภาพต่างๆ ต้องเอาประโยชน์โดยรวมมาก่อน แล้วท่านก็ได้เอง แต่ถ้าท่านขัดขวางทุกอัน มันก็ไปไมได้ มันก็ล้มทั้งหมด พอล้มทั้งหมดท่านก็ไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้ แล้วจะอยู่กันอย่างไร รัฐบาลก็ไม่มีเงินมาอุดหนุนอีกแล้ว ผมพยายามจะพูดให้ท่านเข้าใจวงจรของเขา ว่ามันเชื่อมโยงอะไรกันบ้าง
อีกเรื่อง ในการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี อันนี้ผมกราบเรียนว่า มาตรการทางภาษี เป็นมาตรการที่ทุกประเทศในโลกเขาทำกัน ในเรื่องของธุรกิจที่จะส่งเสริมการลงทุน หรือจะทำให้เกิดธุรกิจที่มีการเชื่อมโยง เกิดธุรกิจต่อเนื่อง มันต้องทำ แล้วเป็นสิ่งที่รัฐบาลปกติ ถ้ามันไม่เกิดการลงทุนใหม่ๆเกิดขึ้นมา ภาษีก็เก็บไม่ได้อยู่แล้วไง วันนี้เราก็จะมีมาตรการสร้างแรงจูงใจที่จะต้องสร้างแรงจูงใจที่จะต้องแข่งขันกับต่างประเทศ เขาแข่งกันทุกประเทศ อาเซียนก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นในปัจจุบัน เราก็ต้องปรับบ้าง แล้วถ้าปรับมา เขามาลงทุนในประเทศเรา ก็จะมีรายได้ภาษีในช่วงต่อไปมากขึ้น ถ้าไม่ทำอะไรเลย ไม่ให้เขาเลย เขาก็ไม่มา เมื่อไม่มามันเก็บภาษีไม่ได้อยู่แล้ว ไม่ได้เสียหายอะไรเลย อย่าให้ใครเขามาบิดเบือนว่า เราไปตามใจเอื้อประโยชน์ให้กับนักลงทุนรายใหญ่ เพราะสิ่งนั้นมันเป็นการขับเคลื่อนประเทศไง ถ้าเขามาทำได้ ภาษีกลับมาที่รัฐ ต่อไปธุรกิจเชื่อมโยงมันก็เกิดขึ้นในภาคการผลิต วัตถุต้นทุนในประเทศมันก็ดีขึ้น พี่น้องเกษตรกรก็ดีขึ้น
เพราะฉะนั้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจมันมาทั้งใหญ่ กลาง เล็ก เอสเอ็มอี วันนี้ไมโครเอสเอ็มอีที่เขาพูดกันอีก มันคือร้านค้าปลีกค้าส่งอะไรทั้งหมด โชห่วยด้วยทั้งนั้น ถ้าท่านขึ้นทะเบียนมันก็รู้ว่า มีกี่แห่งมีกี่ที่ ไม่ต้องกลัวนะครับ เดี๋ยวเราคอยสอนให้ในเรื่องของการจัดทำภาษี ระบบภาษีสอนให้ การทำบัญชีทุกคนกลัวหมด เพราะไม่เคยทำ แต่ทุกคนอยากได้เงินทุนไปขยายการประกอบการ บางอย่างมันไม่ควรจะทำ ไม่มีศักยภาพเพียงพอ ก็ไปเปลี่ยนอย่างอื่น แล้วมาจดทะเบียน รัฐบาลจะแนะนำให้ วันนี้ถ้าสังเกตเห็นผมจัดการในด้านตลาด อะไรก็แล้วตลาดคลองผดุงก็เป็นเรื่องของการแมชชิ่งทั้งทุน ทั้งผู้ประกอบการ ภาคอุตสาหกรรม และการดีไซน์ต่างๆ เราจะให้ความรู้ และสร้างวงจรขึ้นมาใหม่ ทำให้มันมีผลผลิตโดยรวม รายได้สูงขึ้น ผมไม่อยากให้ทุกคนมองว่า รัฐจะเสียดายเรื่องนู้นเรื่องนี้ เพราะมันช่วงเวลาแห่งการปฏิรูป เวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง ถ้าท่านเข้าใจว่า เหล่านี้มันเป็นเรื่องของอนาคตด้วย มันจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นนะครับ
ต่อไปเป็นเรื่องของการที่เราให้สิทธิการลงทุน ผมมีการประชุมบีโอไออีกครั้งหนึ่ง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกี่ยวกับเรื่องที่สร้างความเข้าใจกับภาคเอกชน นักลงทุนต่างๆ ว่า ไอ้คำว่าเศรษฐกิจพิเศษ คำว่าคลัสเตอร์มันคืออยู่ในกลุ่มเดียวกันนั่นแหละ คือเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนปีนี้ 6 แห่ง ปีหน้าอีก 5 แห่ง และอีก 6 แห่งนั้นไม่ว่าจะอยู่พื้นที่ใดก็ตามที่ประกาศออกไปแล้ว มันมีทั้งพื้นที่ชายแดนด้วยอะไรด้วย ที่อยู่ในคลัสเตอร์ตรงนี้แหละ มันมีตั้ง 6-7 กิจกรรมมั้ง แต่ละพื้นที่ก็แตกต่างกันออกไป ลักษณะเป็นความเชื่อมโยงกันแล้วกัน
เพราะฉะนั้น อย่าสับสน อันแรกที่ไม่อยากให้สับสนคือ เขตเศรษฐกิจพิเศษ เดิมใช้เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน จริงแล้วมัน ถ้ามันอยู่ ใกล้ชายแดน ก็อยู่ตรงนี้อยู่แล้ว อย่าเอาเรื่องการค้าชายแดนมา คนละอันกัน การค้าชายแดนทำของมันอยู่แล้ว ช่องทางจุดผ่านแดนชั่วคราว ถาวร มีหมดอยู่แล้ว แต่ตรงนี้ เราต้องการส่งเสริมกิจกรรมที่เราต้องการ เพราะเรามีศักยภาพ และมุ่งเน้นว่าการเจริญเติบโตในภูมิภาคแถบนั้น หรือจังหวัดกลุ่มนั้น
เพราะฉะนั้น อันแรกคือเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่เป็นคลัสเตอร์ หรือ ซูเปอร์คลัสเตอร์ นะครับ มันอาจอยู่ในพื้นที่ใด ทั้งในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษก็ได้ หรือจะอยู่ในพื้นที่ที่มันสามารถมีการสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ดีเพียงพอ ไฟฟ้า ประปาถึง มันก็นักลงทุนจะมีความต้องการไปสร้างตรงนั้นก็มาติดต่อรัฐบาล รัฐบาลจะหาทางสนับสนุนให้เกิดขึ้นให้ได้ เช่น เมืองการศึกษา หรือการวิจัยพัฒนา เหล่านี้เราต้องสร้างทั้งหมด
อันที่สองแล้วนะ เขตเศรษฐกิจพิเศษ คลัสเตอร์ หรือ ซูเปอร์คลัสเตอร์ และอีกอันคือการค้าชายแดน ใช่ไหม ทุกอย่างแตกต่างกันหมดนะ แต่ถ้ามันไม่เข้าอันนี้ มันจะเข้าบีโอไอ บีโอไอตรงไหนก็ได้ ที่มันสามารถลงทุนได้ มันมีทั้งนิคมอุตสาหกรรม นิคมเอกชน วันนี้มีหลายแห่งอยู่แล้ว มันมีหลายอย่าง ถ้าไม่เข้าใจกัน ก็ไปกันไม่ได้ แต่ละอันมีความแตกต่างกัน ทั้งภาษี นิติบุคคล ทั้งการลงทุนในปี 58 59 และเริ่มก่อสร้างมีสินค้าออกมา ตั้งแต่ปี 50 เราจะให้เป็นพิเศษ เพราะรัฐบาลนี้ยังอยู่ ถ้าท่านเริ่มอย่างนี้ได้ ก็ไปได้ ขอให้ช่วยกันนะครับ ภาคเอกชนต้องร่วมด้วย ประชารัฐนะ
เรื่องการศึกษา การส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่ วันนี้ เรามาดูกันว่า อุตสาหกรรมเก่ามันเพียงพอไหม กว่า 30 ปีมาแล้ว การลงทุนบีโอไอสมัยก่อน มันเริ่มล้าสมัย มันต้องเปลี่ยนเครื่องจักร เครื่องไม้เครื่องมือปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตเพื่อจะไปแข่งขันกับเขา อันนี้ต้องทำใหม่ ของเก่าก็โอเค แต่ก็ต้องทำให้ดีขึ้น ทันสมัยมากขึ้น เปลี่ยนเครื่องจักรให้ดีขึ้น รัฐบาลก็ไปดูเรื่องภาษี เครื่องจักรอะไรอีก แต่อุตสาหกรรมใหม่ที่เราต้องส่งเสริมในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมาที่เราไม่เคยเปลี่ยนมาเลย เราต้องเปลี่ยนใหม่ ให้มีการขยายตัวอุตสาหกรรมใหม่ๆเกิดขึ้น เพราะมันน้อยมากที่ผ่านมา 10 ปี และเงินลงทุนที่เข้ามาก็ลดลงทุกปี เขาก็ย้ายฐานการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้านหมด ฉะนั้นประเทศไทยต้องพัฒนาเพิ่ม เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นำไปสู่การเป็นฐานการผลิตใหม่ที่ทันต่อความต้องการของโลก และเชื่อมโยง อาเซียนด้วยกันผมไม่ได้หวังว่าไทยจะต้องร่ำรวยที่สุด แต่อาเซียนอื่นๆ เขาต้องไม่เท่าเรา ผมว่าถ้ายกไปทั้งหมด อาเซียนรวมกันได้มหาศาล เพราะเราเป็นทั้งฐานการผลิต เป็นทั้งตลาดในตัวไปด้วย ฉะนั้นผมถึงได้วางแนวทางการลงทุนว่า ต่อไปนี้จะเป็นการลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่าไปสู่อนาคต สร้างความสมดุลในภาคอุตสาหกรรมในเรื่องของคน สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและการกระจุกตัวของกลุ่มอุตสาหกรรม ทำให้เกิดการกระจายลงทุนไปทุกภูมิภาค รัฐบาลก็วางเป้าหมาย จากเดิมต่อยอดที่มีอยู่แล้ว เช่น การยานยนต์สมัยใหม่ อิเล็กทรอนิกซ์อัจฉริยะ การท่องเที่ยว และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การเกษตรเทคโนโลยีชีวภาพ การแปรรูปอาหาร โดยจะมีการพัฒนาเชื่อมโยงไปสู่การเพิ่มบทบาทของอุตสาหกรรมเพื่ออนาคต เช่น หุ่นยนต์เพื่อการอุตสาหกรรม การแพทย์ครบวงจร การขนส่งและการบิน เชื้อเพลิง และเคมีชีวภาพ และดิจิตัล ซึ่งหากเราสามารถจะพัฒนาต่อยอดเดิม และไปตามเป้าหมายเหล่านี้ได้ ผมคิดว่าจะช่วยทำให้มีเม็ดเงินลงทุนและรายได้เข้าประเทศในอนาคตเพิ่มขึ้นอีกมากมาย อาจจะไม่ทันรัฐบาลผมหรอก แต่รัฐบาลหน้าเต็มที่เลยถ้ามันเกิดขึ้นได้จริง เขาจะได้มีเงินในการพัฒนาประเทศ นักการเมืองเข้ามาที่มีคุณภาพเข้ามา รัฐบาลมีธรรมาภิบาล มันก็ไปได้หมด มันจะได้ไม่กลับมาสู่วังวนเก่าๆ แก้ไขปัญหาเรื่องสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม กฎหมายต่างๆให้มันทันสมัยเป็นสากล มีมาตรการการเงิน การคลังรองรับ จะต้องไม่เสียหาย แต่ระยะยาวโดยวันนี้มีทั้งบีโอไอ มีทั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ มีไดซูเปอร์คลัสเตอร์ อย่าลืมเศรษฐกิจชุมชน เอสเอ็มอี ที่มันเป็นเครือข่ายของสิ่งต่างๆเหล่านี้ ถ้าท่านทำได้นะ เราก็จะมีเครือข่ายที่จะสร้างรายได้ให้กับภาพรวมของประเทศเราด้วย ประชาชนก็มีส่วนตรงนั้นด้วย ไม่ใช่นักลงทุนได้อย่างเดียว คนรวยได้อย่างเดียว เพราะไม่ทำอย่างที่ผมว่าไง มันก็ถึงเป็นอย่างเดิม ขอให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบกันต่อไป ข้าราชการต้องรู้ ไม่งั้นอธิบายให้เข้าใจไมได้ สับสนกันหมด มันคืออะไร เพราะผมถามบางทีเข้ามาขอผมภาคเอกชนมาถามผมเรื่องนี้ว่า อย่างไรครับตกลง ผมสั่งมาตั้งปีหนึ่งแล้ว กฎหมายเขาทำมาแล้ว เขาแก้มาแล้ว แต่ทำไมมันไม่เกิดการลงทุน เพราะเขาไม่เข้าใจไง เพราะฉะนั้นการให้ข้อมูลข่าวสารสำคัญทั้งในประเทศ และต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศวันนี้ก็ต้องปรับท่าที ปรับการทำงานอย่างที่ผมว่า ซึ่งทำไปแล้ว วันนี้สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่ผมเห็นว่า เป็นความจำเป็น ผมได้สั่งการมานานแล้วแหละ วันนี้ก็ดีใจได้เปิดตัวโครงการ Gov Channel ศูนย์กลางบริการภาครัฐสำหรับประชาชน วัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์กลางในการเข้าถึงข้อมูล และบริการอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐของหน่วยงานต่างๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต การเข้าถึงการบริการสาธารณะของประชาชนทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกท้องถิ่นอย่างทั่วถึงเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อจะเข้าถึงการบริหารที่จำเป็น การใช้งานเหล่านี้ถูกออกแบบให้ง่ายต่อการใช้นะครับ มีทั้งในโทรศัพท์ และในตู้ อันนี้ลองไปศึกษาดูนะครับ ใช้ประโยชน์ให้ได้ วัตถุประสงค์เพื่อ 1.เพื่อการบูรณาการของข้าราชการข้างกระทรวง ข้างหน่วยงาน ในกิจกรรมอันเดียวกัน ต้องดูข้อมูลซึ่งกันและกัน จะบอกว่าทำของตัวเอง แต่มันมีผลกระทบคนอื่น
เพราะฉะนั้นข้อมูลเหล่านี้มันจะได้ไปแชร์กันอยู่ ท่านจะได้มาปรับการทำงาน นี่แหละเขาเรียกว่า บูรณาการ แผนงานจะได้ไม่ทับซ้อน ไม่เกิดการรั่วไหล และในส่วนของประชาชนก็ต้องเรียนรู้ ถ้าเราให้ความรู้กับเขา เรื่องนี้ เรื่องการค้าการลงทุน ความรู้ หรือว่าเกษตรกรรู้เรื่องน้ำ เรื่องดิน เรื่องการพัฒนา เรื่องที่มันมีปราชญ์ชาวบ้านทำสำเร็จมาแล้ว ลองเปิดเข้าไปดูนะครับ ถ้าคิดว่าต้องการอะไรเพิ่มเติมมากกว่านี้กรุณาบอกรัฐบาลมา แจ้งมาที่ผม มาที่สำนักนายกฯ ก็ได้ หรือมาทางศูนย์ดำรงธรรม แต่จะเน้นอยากให้ทบทวนลองใช้ดูก่อนนะครับ ตามลิงก์ด้านล่าง
สัปดาห์หน้านะครับ วันที่ 25 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันสมเด็จพระมหาธีราชเจ้า ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยการร่วมบริจาคทุนทรัพย์กับมูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สำหรับจัดซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยในโครงการก่อสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งเป็นอาคารรักษาพยาบาลผู้ป่วยด้านเวชศาสตร์ฉุกเฉิน และอุบัติเหตุครบวงจร ซึ่งจะสามารถรองรับผู้ป่วยวิกฤตให้การรักษาได้ทันท่วงที ลดการสูญเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพี่น้องประชาชนผู้ใจบุญนะครับ สามารถร่วมบริจาคได้ที่มูลนิธิ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
นอกจากนี้ องค์การสหประชาชาติ ได้ประกาศให้วันที่ 25 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นวันขจัดความรุนแรงต่อสตรีสากล ทั้งนี้ ประเทศไทยกำหนดให้เดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นเดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี มีการติดเข็มกลัดริบบิ้นสีขาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สากล แสดงออกถึงการไม่ยอมรับ ไม่นิ่งเฉย ไม่กระทำความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ตลอดจนความรุนแรงในความครอบครัว ผมขอให้รวมถึงผู้สูงอายุ และคนพิการด้วยนะครับ เด็กๆ ทั้งหมด จะต้องไม่ได้รับการกดขี่ข่มเหง วันนี้ ยังมีอยู่ ต้องลดให้ได้โดยเร็ว ผมขอให้ทุกคน ทุกหน่วยงาน และสังคมไทย ตระหนักถึงเรื่องความรุนแรง หลายคนอาจเคยชิน เพราะบ้านเราขัดแย้งมานาน มันจะทำให้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา ต่อความเชื่อมั่น จากสากลด้วย เด็กเป็นอนาคตของชาติ สตรีก็เป็นผู้อ่อนแอ ถึงแม้หลายคนจะบอกว่าสตรีเข้มแข็งก็ตาม แต่ก็ยังเป็นเพศอ่อนแอ เพศอ่อนแอในเชิงพฤตินัยนะ แต่ในทางจริงๆ อาจเข้มแข็งกว่าหนุ่มบางคนด้วยซ้ำ ผมชื่นชมนะ คนเข้มแข็ง ผู้ชายที่เข้มแข็งและชอบรังแกผู้หญิงและเด็ก ผมถือว่าไม่ใช่ผู้ชายนะ แล้วเราจะทำยังไงถึงจะยุติความรุนแรงได้ การละเมิดการทารุณ ทั้งร่างกายและจิตใจ การเอารัดเอาเปรียบ สามารถแจ้งได้ที่ OSCC One Stop Service Center หรือ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐ เพื่อประชาชน สายด่วน 1111 หรือ ศูนย์ดำรงธรรม สายด่วน 1567 นะครับ
สุดท้ายนี้ ช่วงนี้ มีการระบาดของไข้เลือดออก ผมสั่งการให้กระทรวงสาธารณสุข ให้สาธารณสุขจังหวัด จัดทำสำรวม รณรงค์ให้ประชาชน ได้ช่วยทำลายแหล่งลูกน้ำยุงลายทุก 7 วัน นะครับ ทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน โรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก หรือที่สาธารณะทั่วไป ขอให้โรงพยาบาลทุกแห่ง เข้มงวดการตรวจรักษาโรคไข้เลือดออก วิเคราะห์วินิจฉัยโรคให้ถูก ให้ยาถูกต้อง เพราะบางทีมาแล้วอาการหนัก เพราะได้รับการรักษาขั้นต้นไม่ตรงกับโรคที่เป็นมา ทุกโรคนะ วันนี้ ผมได้ให้กระทรวงสาธารณสุขไปพัฒนาการเรื่องวินิจฉัยโรคของแพทย์ พยาบาลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ว่าทำยังไงมันจะไม่ทำให้เกิดความสูญเสีย ผมไม่ได้โทษหมอ พยาบาลนะ เพียงแต่บางครั้งการวินิจฉัยโรคมันยาก มันขึ้นกับคนไข้ด้วย ถ้าสามารถรู้ด้วยตัวเองก่อนว่าอาการมันจะเป็นอะไร คล้าย ๆ อะไร ต้องสร้างการรับรู้ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนตื่นตระหนกไปทั้งหมด เป็นนิดเป็นหน่อย แต่ส่วนใหญ่คนเรามักจะเชื่อมั่นตัวเองว่าแข็งแรง ออกกำลังกาย เสร็จแล้วพอเป็นอะไรก็ซื้อยากินกันเอง อันตราย มันทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตโดยไม่จำเป็น ก็อยากให้ดูแลพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด ข้าราชการทุกคนต้องเรียนรู้ว่าจะแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไร ยุงลาย นอนไม่ให้ยุงกัด รู้ตัวว่าป่วย ไม่สบาย ก็ปรึกษาแพทย์ ไปหาหมอถ้าอาการมันหนัก เพราะหลายอย่างบางทีมันแก้ไขไม่ทัน ไม่ใช่เฉพาะไข้เลือดออก เพราะบางทีเราไม่รู้ตัว และเราแข็งแรง พอเชื้อโรคเข้าไปในตัวไปสะสมมาก ๆ พอมากแล้วรักษาไม่ทัน ต้องรู้ว่าอาการระยะแรกเป็นยังไง ในแต่ละโรค แค่นั้นพอแล้ว แล้วก็ไปหาหมอซะ วันนี้ถ้าหากใครพบ หรือใครสงสัย ก็ให้ไปพบแพทย์ ไปพบสำนักงานสาธารณสุข เราก็มีกระบวนการในการที่จะดูแลรักษาภายใน 24 ชั่วโมง อยู่แล้ว ขอให้ดูแลสุขภาพกันด้วยนะ ขอบคุณนะครับ สวัสดีครับ เป็นห่วงพี่น้องจริง ๆ นะ ด้วยความรักจากใจผม รัฐบาล และ คสช. ก็คิดถึงกันและกัน เป็นกำลังใจให้กันนะ สวัสดีครับ
นอกจากนี้ เราได้มีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการกำหนดแนวทางการเสริมสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นความยั่งยืน และเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม โดยให้ความสำคัญกับการเจริญเติบโตที่มีคุณภาพ มาจากความเข้มแข็งของชุมชน ที่สามารถจะเข้าถึงการพัฒนาได้อย่างเท่าเทียมกัน รวมทั้งสังคมที่มีคุณธรรม และธรรมาภิบาล ซึ่งทั้งหมดนั้น สอดคล้องกับนโยบายของไทยที่มุ่งมั่นในการดำเนินการปฏิรูปต่างๆ เช่น การสนับสนุนการมีส่วนร่วมของวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมต่อระบบเศรษฐกิจ การพัฒนาสังคมอย่างมีสมดุล และมีส่วนร่วม โดยเราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทั้งในประเทศ และมิตรประเทศด้วยกัน รวมทั้งส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างมีนวัตกรรม หรือเศรษฐกิจดิจิทัล ระหว่างวันที่ 21-22 พฤศจิกายน จะเป็นการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 27 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ที่จะเป็นการทบทวนการทำงานของอาเซียน ตลอดกว่า 40 ปี ที่ผ่านมา ก่อนการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 นี้ คาดว่าจะมีการแสดงวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ปี 2568 เพื่อกำหนดทิศทางอนาคตในการพัฒนาของอาเซียนต่อไปในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยจะมีการจัดทำแผนการทำงานของอาเซียน ทั้งในด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนด้านวัฒนธรรมด้วย ระหว่างปี 2559 - 2568 ที่เราจะมุ่งเน้นความร่วมมือระหว่างประชาคมอาเซียน มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ช่วงนี้เราเริ่มจะมีข่าวดีเกี่ยวกับเศรษฐกิจ การลงทุน ในหลายเรื่อง มีนักลงทุนจากหลายบริษัทให้ความเชื่อมั่น และพร้อมจะเพิ่มการลงทุนในประเทศไทย เช่น บริษัทฮอนด้า ที่ได้เข้ามาลงทุนการทดสอบรถยนต์ครบวงจรใน จ.ปราจีนบุรี มูลค่ากว่า 1,700 ล้านบาท ซึ่งถือว่า เป็นสนามทดสอบรถยนต์ฮอนด้าแห่งที่ 2 ที่อยู่นอกประเทศญี่ปุ่น
นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีเป้าหมายในการส่งเสริมและพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยจะมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขึ้นมารองรับ ซึ่งการลงทุนในหลายๆด้านนั้น ก็พร้อมที่จะลงทุนทันที บางเรื่องก็อยู่ในระหว่างการเจรจา ทั้งนี้ การลงทุนของภาครัฐเอง ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เช่น รถไฟ รถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ ถนน ก็กำลังเร่งดำเนินการอยู่ทุกโครงการ โดยจะเปิดให้เป็นการลงทุนร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชน หรือที่เรียกว่า PPP และจะเห็นการลงทุนทั้งหมดเป็นรูปธรรมภายในกลางปีหน้า
สำหรับกระทรวงคมนาคม ได้สรุปสถานะโครงการสำคัญต่าง ๆ ของรัฐบาล ดังนี้ ทางถนน สายพัทยา-มาบตาพุด ระยะทาง 32 กิโลเมตร อยู่ระหว่างการประกวดราคา คาดว่าจะมีการลงนามในสัญญาภายในเดือนมกราคม ปีหน้า และจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2562 สายบางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร อยู่ระหว่างการปรับปรุงรายงาน EIA เพื่อลดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน โดยจะสามารถเริ่มประกวดราคาได้ในเดือนธันวาคม ปีนี้ โดยจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างเดือนเมษายน ปีหน้า และเปิดให้บริการได้ในปี 2562 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กิโลเมตร อยู่ระหว่างการปรับปรุงรายงาน EIA เช่นเดียวกัน โดยจะเริ่มประกวดราคาได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 เริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือนมิถุนายน และเปิดให้บริการได้ในปี 2562
สำหรับสายบางปะอิน กับสายบางใหญ่ จะดำเนินโครงการผ่าน PPP ฟาสต์แทร็ก เรื่องการรางโครงการพัฒนาระบบการขนส่งทางรถไฟระหว่างเมือง ภายใต้ความร่วมมือกับต่างประเทศ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการก่อสร้างทางรถไฟขนาดทางมาตรฐานกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนในช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ -แก่งคอย และระยะที่3 แก่งคอย-นครราชสีมา คาดว่าจะสามารถสรุปจำนวนสถานี สัดส่วน แนวเส้นทางเดิม และเส้นทางใหม่ เพื่อใช้ในการออกแบบได้แล้วเสร็จ และสามารถเริ่มก่อสร้างได้ภายในเดือนธันวาคม
ส่วนช่วงที่ 2 แก่งคอย-มาบตาพุด อยู่ระหว่างเร่งรัดดำเนินการ สำหรับโครงการภายใต้กรอบความร่วมมือในการพัฒนาระบบทางรถไฟของไทย กับรัฐบาลญี่ปุ่น เส้นทางกาญจนบุรี-กรุงเทพฯ- อรัญประเทศ และกาญจนบุรี-กรุงเทพฯ -แหลมฉบัง โดยกำหนดให้มีการลงนามในเอ็มโอซีในเร็วๆ นี้ ส่วนเส้นทางกรุงเทพฯ -เชียงใหม่ ฝ่ายญี่ปุ่นได้ส่งผู้เชี่ยวชาญมาทำการสำรวจ และจัดทำรายงานความเหมาะสม คาดว่าจะสามารถนำเสนอ ครม. เพื่อเห็นชอบในโครงการได้ในเดือนมิถุนายน 2559 นะครับ
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยในตอนนี้กำลังฟื้นตัว ความเชื่อมั่นสำคัญที่สุดนะครับ ความเชื่อมั่นเมื่อเพิ่มมากขึ้น ดัชนีตัวเลขต่างๆ จะดีขึ้น จากการแถลงตัวเลขของสภาพัฒน์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คาดการณ์ไว้ว่า จีดีพีปีนี้ไว้ที่ 2.9% ซึ่งน่าจะโตได้มากกว่านี้ เนื่องจากยังมีเม็ดเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจออกไปอีก โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นผลของเม็ดเงินในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ภาคการท่องเที่ยวก็น่ายินดีนะครับ ดีขึ้นตามลำดับ พี่น้องประชาชน ประเทศจะพัฒนาไปได้ ภาครัฐ เอกชน และประชาชนต้องร่วมมือกัน การดำเนินมาตรการใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการค้าการลงทุน หรืออื่นๆ ประชารัฐ ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การพัฒนานั้นยั่งยืน เช่น การช่วยเหลือเอสเอ็มอีผ่านการพัฒนาสินค้าให้เป็นที่ยอมรับ ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันสร้างความเข้มแข็ง ให้มีการพัฒนานวัตกรรม มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ดูความต้องการของตลาด มีการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีความแตกต่างกัน เป็นการใช้วัสดุและดีไซน์ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ไม่ใช่ผลิตสินค้าที่เหมือนกัน แต่ความต้องการของตลาดจำกัด มันอาจทำให้เกิดปัญหาการขายต้องดูตลาดต่อไปนะครับ
ส่วนนี้ ภาครัฐและเอกชน สามารถร่วมมือกันพัฒนาให้เกิดความเข้มแข็ง ซึ่งนโยบายนี้ จะเริ่มเห็นผลที่ชัดเจนขึ้น และจะมีการขับเคลื่อนต่อเนื่อง
สำหรับเรื่องการเมืองนั้น ผมทราบดีว่า ทุกคนล้วนตั้งใจดี ที่จะช่วยกันเขียนกติกาการบริหารประเทศระยะต่อไป ไม่ว่าจะเป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ สปท. ซึ่งอยู่ในกระบวนการทั้งสิ้น ในขั้นตอนการร่างและนำเสนอ ก็อยากให้พี่น้องประชาชนรับฟัง วิเคราะห์ข้อดีข้อเสียต่างๆ และอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าเวลานี้ เป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน มีปัญหามากมายที่ทุกคนต้องรับรู้ด้วยกัน เราจะต้องนำไปสู่การปฏิรูปให้ได้ นำประเทศชาติให้ปลอดภัย เพราะฉะนั้น การนำเสนอกฎเกณฑ์ต่างๆ นั้น ทางรัฐบาลเอง หรือ คสช. พร้อมจะรับฟังนะครับ ว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง และข้อสำคัญคือประชาชนนั้น จะยอมรับได้หรือไม่ ถ้าหากว่ากฎเกณฑ์ที่ร่างมานั้นไม่มีอะไรที่จะทำให้ประเทศปลอดภัย ก็จะทำให้ประเทศกลับมาเป็นแบบเดิม ความขัดแย้ง ปัญหา การเจริญเติบโต ความยากจน มันก็ทำให้ปัญหาไม่มีวันสิ้นสุด อันนี้เราควรช่วยกัน ช่วยกันดูหน่อย ทุกภาคส่วนเลย ไม่ใช่ว่ารัฐบาลทำนี่ทำโน่นแล้วก็มีปัญหาติดขัดไปทั้งหมด เพราะหลายๆคนอาจจะไม่เข้าใจปัญหาในเชิงโครงสร้าง ในเชิงบริหารราชการแผ่นดิน ว่ามีปัญหาอยู่ตรงไหน วันนี้ผมก็พยายามจะมาพูดให้ท่านฟัง ก็อดทนกันหน่อยแล้วกัน เพราะผมต้องพยายามพูดให้ท่านเข้าใจให้ได้ ท่านก็ต้องพยายามอดทนฟังผมหน่อยแล้วกัน จะได้รู้ว่าเราต้องแก้ปัญหาอะไรบ้าง เราจะต้องมีกฎเกณฑ์อย่างไรที่จะเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เราต้องการในอนาคต เมื่อพร้อมเต็มที่แล้ว เราก็ค่อยๆปรับเปลี่ยนให้เข้ากับความเป็นไปในห้วงเวลานั้นๆ ทำอย่างไร ไอ้การปฏิรูป หรือปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขในระยะเวลาอันสั้นสักช่วงหนึ่งได้ไหม เหล่านี้เป็นเรื่องที่กำลังพิจารณากันอยู่ทั้งสิ้น ทั้งหมดนี้ความมุ่งหมายก็เพื่อประชาชนทั้งสิ้น ประชาชนเป็นศูนย์กลาง ฉะนั้นสิ่งที่ผมเป็นกังวลก็คือการสร้างการรับรู้ การเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร การพูดคุยกับพี่น้องประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ และการที่จะอาจจะมีคนไม่หวังดีมาพูดบิดเบือนอะไรต่างๆทำให้ความเข้าใจเหล่านั้นมันผิดเพี้ยนไป อันนี้เป็นปัญหาสำคัญของรัฐบาล
สำหรับการทำงานของทั้ง กรธ. ,สปท. ,สนช. ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเร่งด่วน หรือดำเนินการระยะสั้น หรือระยะยาว ที่นำสู่การพัฒนาและปฏิรูปประเทศ จะต้องอยู่บนพื้นฐานของการบริหารราชการแผ่นดินที่เหมาะสม ที่เรียกว่าธรรมาภิบาล ที่ผ่านมานั้นรัฐบาลได้ดำเนินการวางรากฐานไปแล้ว คือการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ การแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องของปลายเหตุนะเรื่องการทุจริต เพราะไม่รู้ว่าต้นเหตุมันอยู่ตรงไหน และจะทำอย่างไร เพราะมันเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ประชาสังคมทั้งหมด ถ้าเรามุ่งเน้นแก้คอร์รัปชัน เราก็ไม่ได้แก้ตรงสาเหตุหรือต้นเหตุแห่งปัญหา มันเกี่ยวพันกันในหลายส่วนด้วยกัน ถ้าเราร่วมมือกันในช่วงนี้ แล้วตกลงกันได้ว่าเราจะใช้เวลาสักระยะหนึ่งในการเปลี่ยนผ่านเรื่องเหล่านี้ให้มันเกิดความยั่งยืนเกิดขึ้นในอนาคต ในการที่จะมีรัฐบาลต่อไป มันก็จะทำให้ประเทศเราเจริญก้าวหน้า ไม่วนเวียนกลับไปสู่ความขัดแย้งเดิม ๆ หรือปัญหาเดิม ๆ หรือการเจริญเติบโตที่ไม่เท่าเทียมกัน
สำหรับการทำงานของข้าราชการที่ผมถือว่าเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน ผมก็จำเป็นที่ต้องมากำกับดูแลการทำงานของท่าน ในการที่จะนโยบายของรัฐบาล ท่านจะต้องนำไปสู่การปฏิบัติด้วยตัวท่านเอง ไปสู่ประชาชน หากเรามีนโยบายที่ดีประการใดก็ตาม แต่ข้าราชการไม่เข้าใจ ไม่สามารถสร้างการรับรู้ ทำความเข้าใจกับประชาชนได้ เพราะว่าทุกคนขาดเหมือนกันหมด ทุกคนขาดแคลน ทุกคนไม่มีรายได้ ทุกคนไม่มีอาชีพที่พอเพียงจะเลี้ยงดูครอบครัว เขาก็ไม่เข้าใจอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้ข้าราชการจะต้องเข้าใจในนโยบาย และอธิบายให้เขาได้ และทำอย่างไร การขับเคลื่อนจะเกิดขึ้นในลักษณะที่ว่าไม่ไปสร้างความขัดแย้ง ประชาชนก็จะเกิดปัญหาไปทั้งหมด เพราะว่าวันนี้เขาลำบากอยู่แล้ว ถ้าเราไปอธิบาย เขาไม่เข้าใจอีก สิ่งที่เราปรับเปลี่ยนทั้งหมดก็จะกลายเป็นการสร้างความขัดแย้งมากขึ้น เราก็จะไม่ได้รับความร่วมมือจากชุมชน ภาคเอกชน ภาควิชาการต่าง ๆ เหล่านี้ ก็ขัดแย้งกันไปหมด เพราะทุกคนต้องเข้าใจว่าปัญหามันอยู่ที่ไหน แล้วเราจะแก้ปัญหานั้นอย่างไร HOW TO DO ... ที่ผมพูดมาหลายครั้งแล้วนะ เสร็จแล้วในระหว่างที่กำลังทำอยู่มันก็มีปัญหาเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นท่านต้องสามารถที่จะอธิบายได้ด้วยเหตุและผลว่าทำไมถึงทำอย่างนี้ ทำอย่างนั้น ทำแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น ไม่อย่างนั้นพี่น้องประชาชนไม่เข้าใจ มันก็ขัดแย้งกันไปข้างล่าง แล้วท้ายที่สุดก็กลับมาที่ว่ารัฐบาลสั่งอะไรมาที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน อันนี้ผมว่ามันไม่ใช่ แล้วถ้าทำกันอย่างนี้ไม่มีวันสำเร็จ เพราะฉะนั้นข้าราชการ ผมจะได้มีการติดตามการทำงาน ประเมินการทำงานของท่านในทุกระดับ และข้อสำคัญก็คือการมีส่วนร่วมของประชาชน การทุจริตคอร์รัปชันจะต้องไม่เกิดขึ้น จะต้องถูกดำเนินคดี
สำหรับการร่วมมือในรูปแบบของการประชารัฐนั้น เราต้องการให้เกิดขึ้น ถ้าเราไม่เข้าใจกัน ขับเคลื่อนไม่ได้ หรือไม่ทำงานเชิงรุก ไม่มีวิสัยทัศน์ เพราะฉะนั้นข้าราชการทุกคนนั้นเท่ากับว่าเราทำหน้าที่ของเราไม่สมบูรณ์ ต้องมีการทำงานเชิงรุก แก้ปัญหาได้ มีวิสัยทัศน์ มีความตั้งใจนำพาประเทศ เพราะฉะนั้นวิธีการมันต้องมุ่งไปสู่วัตถุประสงค์ที่้ต้องการสุดท้าย ผลสัมฤทธิ์คือต้องการอะไร ต้องการให้ชาวบ้านมีอาชีพ มีรายได้ที่เพียงพอ ท่านต้องไปย้อนกลับไปดูปัญหามันอยู่ตรงไหน จากนั้นท่านก็ต้องดูในระหว่างทางที่้เดินมีปัญหาตรงไหน อย่างไร ก็แก้ปัญหา อย่าเอาสิ่งที่รัฐบาลพูดถึงหลักการลงไป เพราะท่านต้องนำไปสู่การปฏิบัติ ขอให้ทุกคนเข้าใจตรงนี้นะ เพราะฉะนั้นอย่างวันนี้ผมเจอปัญหาหลายปัญหา ไปตรวจเยี่ยมประชาชนอะไรต่าง ๆ โอเค ทุกคนทำงานเต็มที่ ช่วยกันหมด แต่ผมเกรงว่ามันจะกลับไปที่เก่า เพราะอะไร เพราะว่าเป็นการทำในรูปแบบเดิม ๆ เสียเป็นส่วนใหญ่ ผมเป็นห่วงตรงนี้เท่านั้นล่ะ ไหน ๆ เราก็ร่วมมือกันอยู่แล้ว ตั้งใจกันอยู่แล้ว แล้วมีเวลาจำกัดเท่านี้ ถ้าท่านไม่พัฒนาการทำงานของท่าน ไม่เพิ่มขีดความสามารถตัวเอง ไม่สร้างการเรียนรู้ของตัวเอง ข้าราชการก็จะไปนำเขาไม่ได้ ท่านต้องนำประชาชนเขา เราจะต้องยึดถือแบบอย่างการทำงาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นะครับ ทุกคนต้องทำให้ประชาชนเข้าใจ และคำนึงถึงส่วนรวม
ถ้าวันนี้ เราบอกว่า เราจะดูแลคนกลุ่มนี้ กลุ่มนั้นต่างๆ มันไม่ได้หรอก วันนี้ทำยังไงคนทั้งประเทศ 70 ล้านจะมีความสุข โดยเฉพาะ 70 ล้าน คนเกือบ 40 ล้านคนอยู่ภาคการเกษตร จะทำยังไง รายได้เขาไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้น คือหน้าที่ของรัฐบาลทุกรัฐบาล แต่มันเป็นสิ่งยากที่จะทำ แต่เราก็ไม่เคยท้อแท้นะ รัฐบาล คสช. เราทำเต็มที่ เราต้องมีความรับผิดชอบ ที่เราจะต้องขับเคลื่อนบริหารประเทศชาติต่อไป เพราะการใช้จ่ายเงินงบประมาณของรัฐ ซึ่งเรามีน้อย เพราะมันไม่ได้ มีการเพิ่มรายได้ให้ประเทศ เพราะถ้าเราไม่แก้โครงสร้าง ภาษีมันก็ไม่เกิดขึ้น การค้าขายถ้าไม่ปรับปลี่ยนรูปแบบใหม่ ไม่มีการพัฒนาไปสู่เทคโนโลยีนวัตกรรม รายได้ก็เท่าเดิม
ขณะเดียวกัน ต่างประเทศสูงขึ้นๆ ไปเรื่อยๆ ท้ายสุดก็เกษตรกรแย่กว่าเดิม วันนี้ ต้องทำใหม่ทั้งหมด ต้องใช้เวลา แต่เริ่มต้นวันนี้ ยังไม่สายไปหรอกนะครับ ถ้าเราทำด้วยความมีประสิทธิภาพโปร่งใส เป็นประโยชน์แท้จริง เจอปัญหาตรงไหน แก้ตรงนั้น อะไรแก้ไม่ได้ให้บอกผม แต่ไม่ใช่บอกทุกเรื่อง บางเรื่องท่านต้องคิดเองได้อยู่แล้ว ข้าราชการ ข้างล่างลงไป ผู้ว่า ถือเป็นกำลังหลักนะครับ วันนี้ผมมอบจะให้นายอำเภอเขามาร่วมด้วย จะต้องรับผิดชอบร่วมกับผู้ว่าฯ ไปด้วย เพราะพี่น้องประชาชนทุกคนรอการช่วยเหลือจากพวกเราอยู่นะครับ อย่าคำนึงถึงแต่เพียงเกษตรกรอย่างเดียวไม่ได้ เพราะต้องคำนึงถึงผู้มีรายได้น้อยทั้งหมด อาชีพอิสระ ค้าขาย ที่บางครั้งเขาก็ ทำอย่างนี้มานานแล้ว ซึ่งมันก็ผิดกฎหมายบ้างอะไรบ้าง ถ้าเราไม่แก้กฎหมายพวกนี้นะ ไม่แก้ไขเชิงโครงสร้างในการใช้กฎหมาย มันจะวุ่นวายอยู่อย่างนี้ แต่ทำยังไง คนเหล่านี้จะไม่เดือดร้อน นั่นแหละเป็นสิ่งที่ท่านต้องทำให้ผม และมาบอกผมจะเอายังไง จะให้แก้ตรงไหน ปัญหามันอยู่ที่ไหน กฎหมายมันเป็นยังไง ถ้าทุกคนไม่เริ่มต้นจากกฎหมายความถูกต้อง เพราะกฎหมายทำให้คนเท่าเทียม ทุกคนมีสิทธิเหมือนกันหมด แต่ต้องเคารพกฎหมาย อะไรทำได้ก็ทำให้ได้ ถ้าเอาตรงนี้มาว่าก่อน ถึงจะมาดูว่า คนยากคนจนจะทำกับเขายังไง จะดูแลเขาอย่างไรนะครับ เพราะฉะนั้นทุกคนต้องพัฒนาตัวเอง ไม่อย่างนั้นจะส่งผลกระทบโดยตรงกับประชาชน ท่านก็เดือดร้อน เพราะผมก็ต้องประเมินท่านทุกระดับลงไป ตั้งแต่ปลัดกระทรวงลงไป
ในเรื่องของการพัฒนาประเทศนั้น ในสัปดาห์ที่ผ่านมา วันที่ 12 พฤศจิกายน ทุกคนทราบอยู่แล้วผมไปที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เรามีโครงการมากมาย มีงบประมาณลงไป ก้อนใหญ่พอสมควรนะครับ มีความคืบหน้าไปมาก ตามแผน แต่จะมีปัญหาข้อขัดข้องที่ผมเคยกราบเรียนไปแล้วว่า ต้องไปดูในไส้ในด้วยนะครับว่า ประชาชนนั้นจะได้ประโยชน์อะไรจากตรงนั้นจริงๆ เพราะเป็นการขยายกิจการเขาบ้าง อะไรเขาบ้าง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการทำให้อาชีพที่เขาทำในครัวเรือนที่เขาทำในชุมชนเขา มันมีรายได้มากขึ้น แต่ผมอยากเห็นหลายๆ อย่างมันเป็นของเดิมๆ ซะส่วนใหญ่นะครับ
เพราะฉะนั้นผมอยากให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน เรื่องมาตรการที่ส่งเสริม ในเรื่องของวัสดุต้นทุน ในเรื่องของการสร้างเครือข่ายในการสร้างความเชื่อมโยง และการตลาด บางครั้งไม่จำเป็นต้องผลิตของอย่างเดียวกัน ในจังหวัดเดียวกัน ในพื้นที่เดียวกัน ผมยกตัวอย่างง่ายๆ ท่านทำผ้าขาวม้าเหมือนกันหมด มันขายใครได้ไม่มากนักหรอก แต่ถ้าท่านเอาผ้าขาวม้าไหมมาทำอย่างอื่นด้วย มาทำเป็นเครื่องประดับ ประดับบ้านอะไรบ้าง ทำกระเป๋าประกอบกับหนังอะไรซักอย่าง เหล่านี้ผมว่ามันขายได้หมด เพราะฉะนั้นทำแบบเดิมมันขายได้เท่านี้ ยิ่งทุนมากๆ ยิ่งเสียหายมาก ผมฝากข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และผมก็หวังอย่างยิ่งว่าในการตรวจเยี่ยมครั้งต่อไป ผมจะเห็นในสิ่งที่ดีขึ้นอย่างที่ผมบอกไปแล้ว แต่ที่ผ่านมานั้นอาจจะยังไม่รู้ ไม่เข้าใจ ผมก็ไม่โทษท่านหรอก แต่จากนี้ไป ผมพูดอย่างนี้แล้ว ข้าราชการต้องไปทำใหม่ ครั้งหน้าที่ผมไปตรวจเยี่ยมแต่ละพื้นที่ ถ้าร้านค้ามีสินค้าเหมือนกันทั้งหมดจะไม่ค่อยแฮปปี้นะ ไม่ค่อยมีความสุข แต่ถ้ารวมกลุ่ม อย่างน้อย เรื่องการเกษตร นี่เรื่องของสินค้าที่มีศักยภาพขึ้นมาแต่ละจังหวัดมาอยู่ในโซนนี้ มันก็จะเห็นข้อเปรียบเทียบระหว่างสินค้าเดียวกันในแต่ละพื้นที่ ว่ามันต่างกันตรงไหน ถ้าไม่ต่างกัน ท่านต้องทำให้ต่างกัน แล้วไม่จำเป็นต้องผลิตเหมือนกันหมด จะขายใคร พื้นที่นี้อาจจะเป็นเพาะปลูก หรือจัดหาเรื่องของวัสดุต้นทุนในการผลิต พื้นที่อีกอันเป็นเรื่องของการแปรรูป เพิ่มมูลค่า แต่เราก็ไปรวมการตลาดมา ถ้าในกลุ่มจังหวัด โดย กรอ.เขาก็มาช่วย แล้วก็งบประมาณยุทธศาสตร์จังหวัด อันนี้เราก็เพิ่มไปให้แล้วของผู้ว่าฯ ไปคิดแบบนี้ ผมก็คาดหวังว่าจะเห็นเรื่องแบบนี้โดยเร็ว ผมไม่อยากเห็นเรื่องเดิมๆ ก่อนผมเข้ามาก็ทำแบบนี้ วันนั้นก็ทำแต่เล็กหน่อย วันนี้ก็มีเงินมากขึ้น ก็ทำแบบเดิม ฉะนั้นสินค้าแบบเดิมก็ออกมามากขึ้น ตลาดมันก็เป็นปัญหา หลักการง่ายๆ คิดแบบนี้แล้วกัน
สำหรับการพูดคุยกับพี่น้องประชาชนโดยตรงนั้น ก็ได้คุยกับตัวแทนของทุกภาคส่วน ทุกกลุ่มผมเห็นแล้วเเววตาของเขา เขายังมีความหวัง ผมหวังยิ่งกว่าท่านอีก ผมก็หวังให้ทุกอย่างมันดีขึ้น ท่านก็หวังให้มีรายได้เพิ่มขึ้น หลายคนส่วนใหญ่เป็นการให้กำลังใจรัฐบาลทั้งสิ้น และพร้อมร่วมมือกันก้าวข้ามความขัดแย้ง หรือที่เรียกว่า กับดักตัวเอง และมาร่วมมือกันปฏิรูป
การปฏิรูปทำตั้งแต่วันนี้ ทำมาได้ตลอด ไม่ต้องรอ สปท.เขาทำเป็นแผนมาหรอก วันนี้ เราปฏิรูปอยู่แล้ว ถ้าท่านร่วมมือกับผมนะ ผมปฏิรูปอยู่ ท่านต้องเข้าใจตรงนี้ ถ้าเราปฏิรูปแล้ว ระยะแรกได้ ระยะต่อไปมันต่อไป รัฐบาลหน้า รัฐบาลไหนก็ทำเถอะครับ ยุทธศาสตร์ 20 ปี ก็ต้องกำหนดอยู่แล้ว ถ้าเรามองว่า เราพัฒนาประเทศ เพื่อประโยชน์ส่วนรวม เราต้องพัฒนาชุมชนให้ได้ก่อน ข้างล่าง เป็นประชารัฐให้ได้
การมีส่วนร่วมของคนในชุมชนวันนี้ ผมเห็นแล้ว เขามีการวางแผน การจับกลุ่ม มีความร่วมมือ แต่สิ่งประเด็นสำคัญของเขาคือ เขายังขาดคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ว่าทำยังไงดีขึ้น ไม่ใช่เพิ่มจำนวน กองทุนอย่างเดียว ไม่ได้ ต้องเปลี่ยนแนวคิดให้ได้ ต้องพัฒนาตัวเองด้วย เพราะเราไม่ได้อยู่กับเขาตลอดไป ข้าราชการเปลี่ยนไปเรื่อย นักการเมืองเปลี่ยนไปเรื่อย แต่ทำยังไง มันจะอยู่ติดกับชุมชนของเขา อยู่ติดกับชาวไร่ชาวนา หรือผู้ประกอบการค้าขนาดเล็ก เอสเอ็มอี ต่างๆ พัฒนาทั้งหมดเลย และที่ผ่านมา อาจน้อยไปบ้าง ประสิทธิภาพไม่เต็มที่
ส่วนการพัฒนาชุมชนตัวเอง เป็นส่วนสำคัญที่ประชาชนต้องมีส่วนร่วม และภาครัฐและเข้าไปสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นเงินทุน เรื่องการอำนวยความสะดวก การประกอบการ เหล่านี้ต้องร่วมมือกันทั้งสิ้น ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม เอ็นจีโอ กองทุนต่างๆ ทั้งกองทุน องค์กร มหาชน และกองทุนหมู่บ้าน ต้องผสมผสานกัน และทำร่วมกันให้เข้าใจว่า วันนี้ต้องสร้างความเข้มแข็ง และระหว่างการสร้างความเข้มแข็งต้องใช้เวลา เพราะฉะนั้น ระหว่างนี้ทำยังไงประชาชนจะไม่เดือดร้อน ต้องมีโครงการก่อสร้าง จ้างงานทำเหมือง ขุดลอกคูคลอง เจาะน้ำบาดาลของรัฐเอง หรือว่าการขุดลอกของประชาชนเอง การขุดบ่อน้ำบาดาล บ่อน้ำตื้นของประชาชนเองเหล่านี้ทั้งหมด และการเกษตรกรจะทำอย่างเดียวไม่ได้แหละ วันนี้จะต้องไปดูว่า วันนี้จะต้องไปดูว่า เอ๊ะน้ำมันน้อยลงใช่ไหม แม้กระทั่งในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา น้ำในเขื่อนก็มีปัญหา ลุ่มน้ำแม่กลองก็มีปัญหา พื้นที่ปลูกข้าวทั้งหมดจะมีปัญหาหมด
เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องมีอาชีพเสริม ทุกคนต้องมีหลายอาชีพพูดง่ายๆ เดิมอาชีพของเกษตรกรเรา ผมเห็นแล้วถ้าจะเลี้ยงสัตว์ก็เลี้ยงสัตว์ ถ้าจะปลูกพืชก็ปลูกพืช เสร็จแล้วพอหมดหน้าการทำเกษตรก็ไปรับจ้าง มันมีอยู่แค่นี้ ผมว่ามันต้องรองรับไปทั้งอาชีพใหม่ว่า มันจะต้องมีทั้งเกษตรกรรม ปศุสัตว์ เลี้ยงสัตว์ และมีทั้งการค้า ทั้งการเพิ่มมูลค่า และข้อสำคัญต้องมีอุตสาหกรรมที่เรียกว่า อาจจะเป็นเกษตรอุตสาหกรรม หรืออุตสาหกรรมที่ไม่ทำให้เกิดมลพิษ อุตสาหกรรมสีเขียวมันก็เกิดขึ้น ถ้าไม่เกิดขึ้นในชุมชนนั้น มันไปไม่ได้หรอก ผมยืนยันด้วยหลักการที่มนุษย์โลกเราเจริญเติบโตอยู่แล้ว ถ้าท่านไปดูมหาอำนาจทั้งหมดเขาเป็นประเทศอุตสาหกรรม แต่เราไม่ต้องการจะไปถึงตรงนั้น เพราะมันสร้างมลภาวะมากพอสมควร อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ขนาดหนัก มันจะมีเฉพาะในบางพื้นที่ได้เท่านั้นเอง แต่อุตสาหกรรมขนาดย่อมมันต้องเกิดขึ้นในทุกพื้นที่ เพื่อจะไปต่อยอด และใช้ระบบต้นทุนผลิตเป็นจำนวนมาก ข้าว ยางอะไรเหล่านี้ มันสำปะหลังทั้งหมด เพราะเราส่งประเทศอื่นต่อไปไม่ไหวแล้ว ราคามันตกไปทุกปีนะครับ
ดังนั้นต้องกลับมาดูว่า ประชาชนมีความพร้อมหรือไม่ เราต้องให้ความรู้เขาหรือเปล่า สอนแนวคิดเขาหรือไม่ ถ้าเขาคิดแต่เพียงว่า ปลูกข้าวๆ ใครมารับไปขายต่อ มันจะเป็นอยู่แบบนี้ ทำยังไงให้เขารู้ว่า กระบวนการผลิตแล้ว มันจะต้องไปสู่การขนส่ง การปรับปรุงคุณภาพ การทำให้ข้าวนั้นเป็นข้าวที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ไม่อย่างนั้นท่านก็ต้องถูกปรับลดราคาไปทั้งหมด ไปโรงสีราคาก็ลดลง เพราะฉะนั้นราคาที่ตั้งไว้ไม่ได้ตามนั้นหรอก เพราะว่ามันไม่มีคุณภาพไง อันนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องแก้ ข้าราชการก็ต้องลงไปดู จากนี้ไปผมจะพยายามเดินทางลงพื้นที่ให้บ่อยขึ้น ทั้งนี้ เพื่อจะพบปะเยี่ยมเยือนให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ผมเป็นห่วงจริงๆ นะครับ พี่น้องประชาชนที่รายได้น้อยทั้งหมด
สำหรับในเรื่องของการดำเนินงานของรัฐบาล เราจะทำทุกพื้นที่ เพราะเราไม่ได้มาจากการเมือง เพราะฉะนั้นเราจะทำอย่างไรให้คน 70 ล้าน มีความพึงพอใจ ทั้งระดับบน ระดับกลาง ระดับล่าง มีความพอเพียงตามหลักการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย ทำยังไงจะทำให้คนที่มีน้อยเขามีมากขึ้น มันจะได้ใช้มากขึ้น และมีกระบวนการทางภาษี มันก็เป็นรายได้ของรัฐเข้ามา เพิ่มรายได้ทั้งของประชาชน และประเทศด้วย รัฐบาลก็พยายามจะดำเนินการโดยยึดหลักของความเป็นจริงในปัจจุบัน
ปัจจุบันนี้หลายปัญหามันเกิดขึ้นโดยปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไขมาเป็นเวลานาน เช่น ระบบการจัดเก็บภาษีของเรายังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ไม่ได้หมายความว่าผมจะไปรีดภาษีใคร เพียงแต่ขอให้จัดเก็บให้มันถูกต้อง ให้มันครบถ้วน ใครควรจะเสียก็เสีย ขอให้ทุกคนที่เสียภาษีภูมิใจ ภูมิใจว่าได้ช่วยชาติด้วยการเสียภาษี ไม่ใช่พยายามจะหลีกเลี่ยง พยายามจะทำยังไงให้เสียน้อยลง ความภูมิใจมันไม่เกิดหรอกครับ ทั้งผู้ประกอบการทั้งหมด ผู้ผลิตทั้งหมด ที่ร่ำรวยทั้งหมด ต้องคำนึงถึงตรงนี้ ท่านจะช่วยชาติได้ก็ตรงนี้ล่ะ เสียภาษีให้มันเต็มเม็ดเต็มหน่วย คนจนที่ยังเสียไม่ได้ ก็ทำยังไงเขาจะมีรายได้มากขึ้น วันหน้าเขาจะได้มาเสียภาษีได้ ถ้าอย่างนี้เราได้เสียภาษีจากคนหลายสิบล้านคน ไม่ใช่ภาษีคนจำนวนหนึ่ง ต้องมาดูแลประเทศทั้งหมด มันเป็นไปไม่ได้ และสวัสดิการเราต้องดูแลคนรายได้น้อยอีก การศึกษา สาธารณูปโภค สาธารณสุข ทั้งหมดมันใช้เงินรัฐบาลทั้งสิ้น มันไปไม่ไหวหรอก ทำยังไงจะสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเตรียมอนาคตให้ได้ รัฐบาลนั้นดูจากปัจจัยหลายส่วน และความเหมาะสมต่าง ๆ ในเรื่องของการจัดทำเรื่องภาษี วันนี้มันจะต้องปฏิรูปในการจัดเก็บ เรื่องการประเมินราคาต่างๆ มันก็ต้องเป็นไปตามกลไกของตลาดในปัจจุบัน เพราะไม่ได้เปลี่ยนมานานแล้ว เพราะเปลี่ยนไม่ได้ เพราะรัฐบาลถ้ามาจากการเลือกตั้งก็ทำไม่ได้หรอก มันเสียคะแนนเสียง เสียอะไรก็แล้วแต่ แต่ผมไม่ได้ทำให้ท่านต้องมารักผม แต่ให้ท่านรู้ว่าผมรักท่านยังไงก็แล้วกัน เพราะฉะนั้นการรักใครก็ตาม อย่าทำให้คนเสียนิสัย ก็คือต้องสอนให้เขาเรียนรู้ ให้เขาเข้มแข็ง ระหว่างนี้อะไรที่ยังเอาจากเขาไม่ได้ ก็ส่งเสริมให้เข้มแข็ง แล้วค่อยวันหน้า ไม่ใช่ทุกคนต้องไปเอาของเขาหมด เพื่อมาให้เข้าระบบภาษีให้ได้ทั้งหมด มันไม่ได้อยู่แล้ว ขอเพียงแค่ขึ้นทะเบียนไว้เท่านั้นเอง มีรายได้มาก/น้อย ก็ว่าตามนั้น วันหน้าท่านแข็งแรงขึ้น มันก็จะรู้ว่ามีคนอยู่ตรงนั้นเท่าไร มีเกษตรกรเท่าไร อาชีพค้าปลีก ค้าส่ง รับจ้าง มีเท่าไร มันก็จะได้จัดสรรงบประมาณได้เหมาะสมไง ไม่อย่างนั้นก็มีปัญหาอยู่แบบนี้ตลอด เพราะงบประมาณเราน้อย ถ้าเมื่อไรเรารวย เข้มแข็ง ประเทศไทยมีรายได้มากขึ้น รับรองท่านสบายทุกคน แต่ต้องเป็นรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลนะ
ขณะที่ที่ผ่านมานั้น ผมยังไม่มีการอนุมัติการปรับขึ้นอัตราภาษีแต่อย่างใด อย่าให้ใครให้ข้อมูลบิดเบือนนะ แต่ผมอธิบายให้ท่านเข้าใจว่าระบบภาษีเราเป็นอย่างไร เราไม่ได้เปลี่ยนแปลงมาเท่าไร การจัดเก็บเป็นอย่างไร วันหน้ามันควรจะเป็นยังไง ข้ามอันนี้ไปก่อนแล้วกัน แต่วันนี้ขออย่างเดียวว่า ปี 59 การเสียภาษีของสถานประกอบการทั้งหมดต้องเป็นไปตามอัตรา กรุณาอย่าหลีกเลี่้ยง หรือทุจริตในเรื่องนี้โดยเด็ดขาด ทั้งเจ้าหน้าที่ด้วย ทั้งเอกชน ทั้งอะไรต่าง ๆ ที่มีผลการประกอบการ ขอให้เสียภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วยนะ ถ้าไม่อย่างนั้นผมจะตรวจสอบภาษีย้อนหลัง ถ้ามีข้อสงสัยบริษัทใดก็แล้วแต่ ผมช่วยไม่ได้นะ และผมก็ยืนยันว่า เงินภาษีที่เก็บไปนั้น เราพยายามจะใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุดในการพัฒนาประเทศ เพราะผมเองไม่ได้มุ่งหวังรายได้หรืออะไรจากท่านเลย จากงบประมาณแผ่นดินเลย เพราะมันทำอย่างนั้นไม่ได้ มันไม่ถูกต้อง การพัฒนาทุกโครงการของรัฐบาลนี้จะต้องมีความโปร่งใสและเป็นธรรม ผมก็ฝากไว้อีกนั่นล่ะ ก็ต้องฝากข้าราชการด้วย ข้าราชการก็ต้อง ... หลายคน หลายส่วน อาจจะมีความคิดเดิม ๆ ก็ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมท่าน ไม่งั้นท่านก็เจริญเติบโตก้าวหน้าไปไม่ได้ เพราะว่าท่านทำร้ายประเทศของท่าน
สำหรับการประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่ผ่านมานั้น ต้องขอขอบคุณ กสทช. กระทรวงไอซีที รวมถึงภาคธุรกิจ เอกชน นักวิชาการทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ทำให้เกิดการประมูล และมีการแข่งขันอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม มีรายได้มากพอสมควร ตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อมูลว่าทุจริต ก็เป็นตัวอย่างที่ดี ในการที่จะดำเนินการโครงการต่างๆของรัฐ แต่ทั้งนี้ก็ต้องฝากให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องตระหนักว่าประชาชน เป็นนโยบายของผมอยู่แล้วว่าจะต้องได้รับประโยชน์สูงสุด จากอัตราค่าบริการ แม้ว่ามูลค่าในการประมูลจะสูงกว่าที่คาดการไว้มากก็ตาม แต่ภาระจะต้องไม่ตกอยู่กับประชาชนเด็ดขาด อันนี้ผมประกาศไว้อยู่แล้ว สมเหตุสมผล ไม่สร้างภาระ ก็เห็นประกาศมาแล้วต้องถูกไปกว่าเดิม มีหลายคนไปบิดเบือนอยู่ ว่าเดี๋ยวมันต้องแพงขึ้น เพราะว่าประมูลมากขึ้น เดี๋ยวจะผลักภาระให้ประชาชน ก็ผมสั่งว่าไม่ให้ผลักภาระไง ฉะนั้นรู้สึกว่าในทีโออาร์ในการประมูลมีเขียนไว้แล้ว ว่าจะต้องไม่ทำให้ราคาค่าบริการแพงขึ้นกว่าเดิม ต้องถูกกว่าเดิม และท่านประธานก็ชี้แจงมาแล้ว ก็ให้เป็นไปตามนั้น ก็ขอขอบคุณ เราจะต้องปฏิรูปไปสู่การแข่งขันที่เป็นธรรม โดยเฉพาะเรื่องของการเดินหน้าประเทศไปในลักษณะเศรษฐกิจดิจิตัล ก็ขอให้ดำเนินการต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ ก็ขอร้องพวกรัฐวิสาหกิจ หรือสหภาพต่างๆ ต้องเอาประโยชน์โดยรวมมาก่อน แล้วท่านก็ได้เอง แต่ถ้าท่านขัดขวางทุกอัน มันก็ไปไมได้ มันก็ล้มทั้งหมด พอล้มทั้งหมดท่านก็ไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้ แล้วจะอยู่กันอย่างไร รัฐบาลก็ไม่มีเงินมาอุดหนุนอีกแล้ว ผมพยายามจะพูดให้ท่านเข้าใจวงจรของเขา ว่ามันเชื่อมโยงอะไรกันบ้าง
อีกเรื่อง ในการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี อันนี้ผมกราบเรียนว่า มาตรการทางภาษี เป็นมาตรการที่ทุกประเทศในโลกเขาทำกัน ในเรื่องของธุรกิจที่จะส่งเสริมการลงทุน หรือจะทำให้เกิดธุรกิจที่มีการเชื่อมโยง เกิดธุรกิจต่อเนื่อง มันต้องทำ แล้วเป็นสิ่งที่รัฐบาลปกติ ถ้ามันไม่เกิดการลงทุนใหม่ๆเกิดขึ้นมา ภาษีก็เก็บไม่ได้อยู่แล้วไง วันนี้เราก็จะมีมาตรการสร้างแรงจูงใจที่จะต้องสร้างแรงจูงใจที่จะต้องแข่งขันกับต่างประเทศ เขาแข่งกันทุกประเทศ อาเซียนก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นในปัจจุบัน เราก็ต้องปรับบ้าง แล้วถ้าปรับมา เขามาลงทุนในประเทศเรา ก็จะมีรายได้ภาษีในช่วงต่อไปมากขึ้น ถ้าไม่ทำอะไรเลย ไม่ให้เขาเลย เขาก็ไม่มา เมื่อไม่มามันเก็บภาษีไม่ได้อยู่แล้ว ไม่ได้เสียหายอะไรเลย อย่าให้ใครเขามาบิดเบือนว่า เราไปตามใจเอื้อประโยชน์ให้กับนักลงทุนรายใหญ่ เพราะสิ่งนั้นมันเป็นการขับเคลื่อนประเทศไง ถ้าเขามาทำได้ ภาษีกลับมาที่รัฐ ต่อไปธุรกิจเชื่อมโยงมันก็เกิดขึ้นในภาคการผลิต วัตถุต้นทุนในประเทศมันก็ดีขึ้น พี่น้องเกษตรกรก็ดีขึ้น
เพราะฉะนั้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจมันมาทั้งใหญ่ กลาง เล็ก เอสเอ็มอี วันนี้ไมโครเอสเอ็มอีที่เขาพูดกันอีก มันคือร้านค้าปลีกค้าส่งอะไรทั้งหมด โชห่วยด้วยทั้งนั้น ถ้าท่านขึ้นทะเบียนมันก็รู้ว่า มีกี่แห่งมีกี่ที่ ไม่ต้องกลัวนะครับ เดี๋ยวเราคอยสอนให้ในเรื่องของการจัดทำภาษี ระบบภาษีสอนให้ การทำบัญชีทุกคนกลัวหมด เพราะไม่เคยทำ แต่ทุกคนอยากได้เงินทุนไปขยายการประกอบการ บางอย่างมันไม่ควรจะทำ ไม่มีศักยภาพเพียงพอ ก็ไปเปลี่ยนอย่างอื่น แล้วมาจดทะเบียน รัฐบาลจะแนะนำให้ วันนี้ถ้าสังเกตเห็นผมจัดการในด้านตลาด อะไรก็แล้วตลาดคลองผดุงก็เป็นเรื่องของการแมชชิ่งทั้งทุน ทั้งผู้ประกอบการ ภาคอุตสาหกรรม และการดีไซน์ต่างๆ เราจะให้ความรู้ และสร้างวงจรขึ้นมาใหม่ ทำให้มันมีผลผลิตโดยรวม รายได้สูงขึ้น ผมไม่อยากให้ทุกคนมองว่า รัฐจะเสียดายเรื่องนู้นเรื่องนี้ เพราะมันช่วงเวลาแห่งการปฏิรูป เวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง ถ้าท่านเข้าใจว่า เหล่านี้มันเป็นเรื่องของอนาคตด้วย มันจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นนะครับ
ต่อไปเป็นเรื่องของการที่เราให้สิทธิการลงทุน ผมมีการประชุมบีโอไออีกครั้งหนึ่ง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกี่ยวกับเรื่องที่สร้างความเข้าใจกับภาคเอกชน นักลงทุนต่างๆ ว่า ไอ้คำว่าเศรษฐกิจพิเศษ คำว่าคลัสเตอร์มันคืออยู่ในกลุ่มเดียวกันนั่นแหละ คือเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนปีนี้ 6 แห่ง ปีหน้าอีก 5 แห่ง และอีก 6 แห่งนั้นไม่ว่าจะอยู่พื้นที่ใดก็ตามที่ประกาศออกไปแล้ว มันมีทั้งพื้นที่ชายแดนด้วยอะไรด้วย ที่อยู่ในคลัสเตอร์ตรงนี้แหละ มันมีตั้ง 6-7 กิจกรรมมั้ง แต่ละพื้นที่ก็แตกต่างกันออกไป ลักษณะเป็นความเชื่อมโยงกันแล้วกัน
เพราะฉะนั้น อย่าสับสน อันแรกที่ไม่อยากให้สับสนคือ เขตเศรษฐกิจพิเศษ เดิมใช้เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน จริงแล้วมัน ถ้ามันอยู่ ใกล้ชายแดน ก็อยู่ตรงนี้อยู่แล้ว อย่าเอาเรื่องการค้าชายแดนมา คนละอันกัน การค้าชายแดนทำของมันอยู่แล้ว ช่องทางจุดผ่านแดนชั่วคราว ถาวร มีหมดอยู่แล้ว แต่ตรงนี้ เราต้องการส่งเสริมกิจกรรมที่เราต้องการ เพราะเรามีศักยภาพ และมุ่งเน้นว่าการเจริญเติบโตในภูมิภาคแถบนั้น หรือจังหวัดกลุ่มนั้น
เพราะฉะนั้น อันแรกคือเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่เป็นคลัสเตอร์ หรือ ซูเปอร์คลัสเตอร์ นะครับ มันอาจอยู่ในพื้นที่ใด ทั้งในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษก็ได้ หรือจะอยู่ในพื้นที่ที่มันสามารถมีการสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ดีเพียงพอ ไฟฟ้า ประปาถึง มันก็นักลงทุนจะมีความต้องการไปสร้างตรงนั้นก็มาติดต่อรัฐบาล รัฐบาลจะหาทางสนับสนุนให้เกิดขึ้นให้ได้ เช่น เมืองการศึกษา หรือการวิจัยพัฒนา เหล่านี้เราต้องสร้างทั้งหมด
อันที่สองแล้วนะ เขตเศรษฐกิจพิเศษ คลัสเตอร์ หรือ ซูเปอร์คลัสเตอร์ และอีกอันคือการค้าชายแดน ใช่ไหม ทุกอย่างแตกต่างกันหมดนะ แต่ถ้ามันไม่เข้าอันนี้ มันจะเข้าบีโอไอ บีโอไอตรงไหนก็ได้ ที่มันสามารถลงทุนได้ มันมีทั้งนิคมอุตสาหกรรม นิคมเอกชน วันนี้มีหลายแห่งอยู่แล้ว มันมีหลายอย่าง ถ้าไม่เข้าใจกัน ก็ไปกันไม่ได้ แต่ละอันมีความแตกต่างกัน ทั้งภาษี นิติบุคคล ทั้งการลงทุนในปี 58 59 และเริ่มก่อสร้างมีสินค้าออกมา ตั้งแต่ปี 50 เราจะให้เป็นพิเศษ เพราะรัฐบาลนี้ยังอยู่ ถ้าท่านเริ่มอย่างนี้ได้ ก็ไปได้ ขอให้ช่วยกันนะครับ ภาคเอกชนต้องร่วมด้วย ประชารัฐนะ
เรื่องการศึกษา การส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่ วันนี้ เรามาดูกันว่า อุตสาหกรรมเก่ามันเพียงพอไหม กว่า 30 ปีมาแล้ว การลงทุนบีโอไอสมัยก่อน มันเริ่มล้าสมัย มันต้องเปลี่ยนเครื่องจักร เครื่องไม้เครื่องมือปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตเพื่อจะไปแข่งขันกับเขา อันนี้ต้องทำใหม่ ของเก่าก็โอเค แต่ก็ต้องทำให้ดีขึ้น ทันสมัยมากขึ้น เปลี่ยนเครื่องจักรให้ดีขึ้น รัฐบาลก็ไปดูเรื่องภาษี เครื่องจักรอะไรอีก แต่อุตสาหกรรมใหม่ที่เราต้องส่งเสริมในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมาที่เราไม่เคยเปลี่ยนมาเลย เราต้องเปลี่ยนใหม่ ให้มีการขยายตัวอุตสาหกรรมใหม่ๆเกิดขึ้น เพราะมันน้อยมากที่ผ่านมา 10 ปี และเงินลงทุนที่เข้ามาก็ลดลงทุกปี เขาก็ย้ายฐานการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้านหมด ฉะนั้นประเทศไทยต้องพัฒนาเพิ่ม เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นำไปสู่การเป็นฐานการผลิตใหม่ที่ทันต่อความต้องการของโลก และเชื่อมโยง อาเซียนด้วยกันผมไม่ได้หวังว่าไทยจะต้องร่ำรวยที่สุด แต่อาเซียนอื่นๆ เขาต้องไม่เท่าเรา ผมว่าถ้ายกไปทั้งหมด อาเซียนรวมกันได้มหาศาล เพราะเราเป็นทั้งฐานการผลิต เป็นทั้งตลาดในตัวไปด้วย ฉะนั้นผมถึงได้วางแนวทางการลงทุนว่า ต่อไปนี้จะเป็นการลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่าไปสู่อนาคต สร้างความสมดุลในภาคอุตสาหกรรมในเรื่องของคน สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและการกระจุกตัวของกลุ่มอุตสาหกรรม ทำให้เกิดการกระจายลงทุนไปทุกภูมิภาค รัฐบาลก็วางเป้าหมาย จากเดิมต่อยอดที่มีอยู่แล้ว เช่น การยานยนต์สมัยใหม่ อิเล็กทรอนิกซ์อัจฉริยะ การท่องเที่ยว และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การเกษตรเทคโนโลยีชีวภาพ การแปรรูปอาหาร โดยจะมีการพัฒนาเชื่อมโยงไปสู่การเพิ่มบทบาทของอุตสาหกรรมเพื่ออนาคต เช่น หุ่นยนต์เพื่อการอุตสาหกรรม การแพทย์ครบวงจร การขนส่งและการบิน เชื้อเพลิง และเคมีชีวภาพ และดิจิตัล ซึ่งหากเราสามารถจะพัฒนาต่อยอดเดิม และไปตามเป้าหมายเหล่านี้ได้ ผมคิดว่าจะช่วยทำให้มีเม็ดเงินลงทุนและรายได้เข้าประเทศในอนาคตเพิ่มขึ้นอีกมากมาย อาจจะไม่ทันรัฐบาลผมหรอก แต่รัฐบาลหน้าเต็มที่เลยถ้ามันเกิดขึ้นได้จริง เขาจะได้มีเงินในการพัฒนาประเทศ นักการเมืองเข้ามาที่มีคุณภาพเข้ามา รัฐบาลมีธรรมาภิบาล มันก็ไปได้หมด มันจะได้ไม่กลับมาสู่วังวนเก่าๆ แก้ไขปัญหาเรื่องสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม กฎหมายต่างๆให้มันทันสมัยเป็นสากล มีมาตรการการเงิน การคลังรองรับ จะต้องไม่เสียหาย แต่ระยะยาวโดยวันนี้มีทั้งบีโอไอ มีทั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ มีไดซูเปอร์คลัสเตอร์ อย่าลืมเศรษฐกิจชุมชน เอสเอ็มอี ที่มันเป็นเครือข่ายของสิ่งต่างๆเหล่านี้ ถ้าท่านทำได้นะ เราก็จะมีเครือข่ายที่จะสร้างรายได้ให้กับภาพรวมของประเทศเราด้วย ประชาชนก็มีส่วนตรงนั้นด้วย ไม่ใช่นักลงทุนได้อย่างเดียว คนรวยได้อย่างเดียว เพราะไม่ทำอย่างที่ผมว่าไง มันก็ถึงเป็นอย่างเดิม ขอให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบกันต่อไป ข้าราชการต้องรู้ ไม่งั้นอธิบายให้เข้าใจไมได้ สับสนกันหมด มันคืออะไร เพราะผมถามบางทีเข้ามาขอผมภาคเอกชนมาถามผมเรื่องนี้ว่า อย่างไรครับตกลง ผมสั่งมาตั้งปีหนึ่งแล้ว กฎหมายเขาทำมาแล้ว เขาแก้มาแล้ว แต่ทำไมมันไม่เกิดการลงทุน เพราะเขาไม่เข้าใจไง เพราะฉะนั้นการให้ข้อมูลข่าวสารสำคัญทั้งในประเทศ และต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศวันนี้ก็ต้องปรับท่าที ปรับการทำงานอย่างที่ผมว่า ซึ่งทำไปแล้ว วันนี้สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่ผมเห็นว่า เป็นความจำเป็น ผมได้สั่งการมานานแล้วแหละ วันนี้ก็ดีใจได้เปิดตัวโครงการ Gov Channel ศูนย์กลางบริการภาครัฐสำหรับประชาชน วัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์กลางในการเข้าถึงข้อมูล และบริการอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐของหน่วยงานต่างๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต การเข้าถึงการบริการสาธารณะของประชาชนทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกท้องถิ่นอย่างทั่วถึงเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อจะเข้าถึงการบริหารที่จำเป็น การใช้งานเหล่านี้ถูกออกแบบให้ง่ายต่อการใช้นะครับ มีทั้งในโทรศัพท์ และในตู้ อันนี้ลองไปศึกษาดูนะครับ ใช้ประโยชน์ให้ได้ วัตถุประสงค์เพื่อ 1.เพื่อการบูรณาการของข้าราชการข้างกระทรวง ข้างหน่วยงาน ในกิจกรรมอันเดียวกัน ต้องดูข้อมูลซึ่งกันและกัน จะบอกว่าทำของตัวเอง แต่มันมีผลกระทบคนอื่น
เพราะฉะนั้นข้อมูลเหล่านี้มันจะได้ไปแชร์กันอยู่ ท่านจะได้มาปรับการทำงาน นี่แหละเขาเรียกว่า บูรณาการ แผนงานจะได้ไม่ทับซ้อน ไม่เกิดการรั่วไหล และในส่วนของประชาชนก็ต้องเรียนรู้ ถ้าเราให้ความรู้กับเขา เรื่องนี้ เรื่องการค้าการลงทุน ความรู้ หรือว่าเกษตรกรรู้เรื่องน้ำ เรื่องดิน เรื่องการพัฒนา เรื่องที่มันมีปราชญ์ชาวบ้านทำสำเร็จมาแล้ว ลองเปิดเข้าไปดูนะครับ ถ้าคิดว่าต้องการอะไรเพิ่มเติมมากกว่านี้กรุณาบอกรัฐบาลมา แจ้งมาที่ผม มาที่สำนักนายกฯ ก็ได้ หรือมาทางศูนย์ดำรงธรรม แต่จะเน้นอยากให้ทบทวนลองใช้ดูก่อนนะครับ ตามลิงก์ด้านล่าง
สัปดาห์หน้านะครับ วันที่ 25 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันสมเด็จพระมหาธีราชเจ้า ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยการร่วมบริจาคทุนทรัพย์กับมูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สำหรับจัดซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยในโครงการก่อสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งเป็นอาคารรักษาพยาบาลผู้ป่วยด้านเวชศาสตร์ฉุกเฉิน และอุบัติเหตุครบวงจร ซึ่งจะสามารถรองรับผู้ป่วยวิกฤตให้การรักษาได้ทันท่วงที ลดการสูญเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพี่น้องประชาชนผู้ใจบุญนะครับ สามารถร่วมบริจาคได้ที่มูลนิธิ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
นอกจากนี้ องค์การสหประชาชาติ ได้ประกาศให้วันที่ 25 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นวันขจัดความรุนแรงต่อสตรีสากล ทั้งนี้ ประเทศไทยกำหนดให้เดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นเดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี มีการติดเข็มกลัดริบบิ้นสีขาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สากล แสดงออกถึงการไม่ยอมรับ ไม่นิ่งเฉย ไม่กระทำความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ตลอดจนความรุนแรงในความครอบครัว ผมขอให้รวมถึงผู้สูงอายุ และคนพิการด้วยนะครับ เด็กๆ ทั้งหมด จะต้องไม่ได้รับการกดขี่ข่มเหง วันนี้ ยังมีอยู่ ต้องลดให้ได้โดยเร็ว ผมขอให้ทุกคน ทุกหน่วยงาน และสังคมไทย ตระหนักถึงเรื่องความรุนแรง หลายคนอาจเคยชิน เพราะบ้านเราขัดแย้งมานาน มันจะทำให้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา ต่อความเชื่อมั่น จากสากลด้วย เด็กเป็นอนาคตของชาติ สตรีก็เป็นผู้อ่อนแอ ถึงแม้หลายคนจะบอกว่าสตรีเข้มแข็งก็ตาม แต่ก็ยังเป็นเพศอ่อนแอ เพศอ่อนแอในเชิงพฤตินัยนะ แต่ในทางจริงๆ อาจเข้มแข็งกว่าหนุ่มบางคนด้วยซ้ำ ผมชื่นชมนะ คนเข้มแข็ง ผู้ชายที่เข้มแข็งและชอบรังแกผู้หญิงและเด็ก ผมถือว่าไม่ใช่ผู้ชายนะ แล้วเราจะทำยังไงถึงจะยุติความรุนแรงได้ การละเมิดการทารุณ ทั้งร่างกายและจิตใจ การเอารัดเอาเปรียบ สามารถแจ้งได้ที่ OSCC One Stop Service Center หรือ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐ เพื่อประชาชน สายด่วน 1111 หรือ ศูนย์ดำรงธรรม สายด่วน 1567 นะครับ
สุดท้ายนี้ ช่วงนี้ มีการระบาดของไข้เลือดออก ผมสั่งการให้กระทรวงสาธารณสุข ให้สาธารณสุขจังหวัด จัดทำสำรวม รณรงค์ให้ประชาชน ได้ช่วยทำลายแหล่งลูกน้ำยุงลายทุก 7 วัน นะครับ ทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน โรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก หรือที่สาธารณะทั่วไป ขอให้โรงพยาบาลทุกแห่ง เข้มงวดการตรวจรักษาโรคไข้เลือดออก วิเคราะห์วินิจฉัยโรคให้ถูก ให้ยาถูกต้อง เพราะบางทีมาแล้วอาการหนัก เพราะได้รับการรักษาขั้นต้นไม่ตรงกับโรคที่เป็นมา ทุกโรคนะ วันนี้ ผมได้ให้กระทรวงสาธารณสุขไปพัฒนาการเรื่องวินิจฉัยโรคของแพทย์ พยาบาลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ว่าทำยังไงมันจะไม่ทำให้เกิดความสูญเสีย ผมไม่ได้โทษหมอ พยาบาลนะ เพียงแต่บางครั้งการวินิจฉัยโรคมันยาก มันขึ้นกับคนไข้ด้วย ถ้าสามารถรู้ด้วยตัวเองก่อนว่าอาการมันจะเป็นอะไร คล้าย ๆ อะไร ต้องสร้างการรับรู้ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนตื่นตระหนกไปทั้งหมด เป็นนิดเป็นหน่อย แต่ส่วนใหญ่คนเรามักจะเชื่อมั่นตัวเองว่าแข็งแรง ออกกำลังกาย เสร็จแล้วพอเป็นอะไรก็ซื้อยากินกันเอง อันตราย มันทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตโดยไม่จำเป็น ก็อยากให้ดูแลพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด ข้าราชการทุกคนต้องเรียนรู้ว่าจะแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไร ยุงลาย นอนไม่ให้ยุงกัด รู้ตัวว่าป่วย ไม่สบาย ก็ปรึกษาแพทย์ ไปหาหมอถ้าอาการมันหนัก เพราะหลายอย่างบางทีมันแก้ไขไม่ทัน ไม่ใช่เฉพาะไข้เลือดออก เพราะบางทีเราไม่รู้ตัว และเราแข็งแรง พอเชื้อโรคเข้าไปในตัวไปสะสมมาก ๆ พอมากแล้วรักษาไม่ทัน ต้องรู้ว่าอาการระยะแรกเป็นยังไง ในแต่ละโรค แค่นั้นพอแล้ว แล้วก็ไปหาหมอซะ วันนี้ถ้าหากใครพบ หรือใครสงสัย ก็ให้ไปพบแพทย์ ไปพบสำนักงานสาธารณสุข เราก็มีกระบวนการในการที่จะดูแลรักษาภายใน 24 ชั่วโมง อยู่แล้ว ขอให้ดูแลสุขภาพกันด้วยนะ ขอบคุณนะครับ สวัสดีครับ เป็นห่วงพี่น้องจริง ๆ นะ ด้วยความรักจากใจผม รัฐบาล และ คสช. ก็คิดถึงกันและกัน เป็นกำลังใจให้กันนะ สวัสดีครับ