นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการเดินหน้าเพื่อร่วมมือกระชับการค้ากับประเทศต่าง ๆ มากขึ้น โดยระหว่างวันที่ 20-25 พฤศจิกายนนี้ จะนำภาคเอกชนไทยกว่า 50 ราย เดินทางไปเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการที่ประเทศอิหร่านเพื่อเปิดตลาดหลังจากที่มีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร และอยู่ระหว่างการฟื้นฟูประเทศ โดยเบื้องต้นจะหารือกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเหมืองแร่และการค้า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงถนนและพัฒนาเมือง รวมถึงหารือร่วมกับภาคเอกชนรายสำคัญ เช่น บริษัทน้ำมันแห่งชาติอิหร่าน และประธานหอการค้าอิหร่านถึงความร่วมมือในโครงการเมกะโปรเจกต์ การนำเข้าไก่สด เนื้อจากปศุสัตว์ รวมทั้งชิ้นส่วนยานยนต์ แฟชั่น สินค้าสุขภาพ และสปา
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ไทยมีนโยบายให้อิหร่านเป็นฮับสู่ตะวันออกกลางและซีไอเอส ขณะที่ไทยยินดีให้อิหร่านใช้ไทยเป็นศูนย์กลางสู่อาเซียน โดยไทยสนใจให้อิหร่านเป็นฐานการผลิตพลังงานเพื่อความมั่นคง โดยเฉพาะจะรื้อฟื้นโครงการที่อิหร่านเคยเสนอไทยให้ใช้บาร์เทอร์เทรดข้าวกับน้ำมัน รวมถึงอาจขยายไปถึงสินค้ายางพาราด้วย
สำหรับมูลค่าการค้าไทย-อิหร่านในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่า 258 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกไปอิหร่านมูลค่า 90 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากอิหร่านมูลค่า 167 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยสินค้าไทยที่มีศักยภาพในอิหร่าน ได้แก่ ข้าว ยางพารา อาหารฮาลาล ผักและผลไม้
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ไทยมีนโยบายให้อิหร่านเป็นฮับสู่ตะวันออกกลางและซีไอเอส ขณะที่ไทยยินดีให้อิหร่านใช้ไทยเป็นศูนย์กลางสู่อาเซียน โดยไทยสนใจให้อิหร่านเป็นฐานการผลิตพลังงานเพื่อความมั่นคง โดยเฉพาะจะรื้อฟื้นโครงการที่อิหร่านเคยเสนอไทยให้ใช้บาร์เทอร์เทรดข้าวกับน้ำมัน รวมถึงอาจขยายไปถึงสินค้ายางพาราด้วย
สำหรับมูลค่าการค้าไทย-อิหร่านในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่า 258 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกไปอิหร่านมูลค่า 90 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากอิหร่านมูลค่า 167 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยสินค้าไทยที่มีศักยภาพในอิหร่าน ได้แก่ ข้าว ยางพารา อาหารฮาลาล ผักและผลไม้
