นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เปิดเผยว่า ผลการประมูลใบอนุญาตคลื่น 1800 MHz หรือ 4G ที่รวมรายได้เข้ารัฐกว่า 80,000 ล้านบาท อายุสัมปทาน 18 ปี หรือเฉลี่ยต้นทุนประมาณ 3,000 กว่าล้านบาทต่อปี ถือว่าไม่สูงจนเกินไป และไม่มีผลให้ทั้งทรู และเอไอเอส จะต้องเพิ่มทุน หรือกระทบต่อการทำธุรกิจ แต่ยอมรับว่า อาจทำให้กำไรของบริษัทลดลงบ้าง เนื่องจากราคาประมูลสูงกว่าที่คาดไว้
ทั้งนี้ การที่ผู้ชนะการประมูลเป็นผู้ประกอบการรายได้ ทำให้ตลาดคลายความกังวล เพราะยังไม่มีคู่แข่งรายที่ 4 เข้ามาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาการประมูลคลื่น 900 MHz ที่จะมีขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ ว่าจะมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาร่วมด้วยหรือไม่ ซึ่งจะเป็นการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น
เช่นเดียวกับนายพิชัย เลิศสุพงษ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ธนชาติ กล่าวว่า ต้องจับตาการประมูลคลื่น 900 MHz อย่างใกล้ชิด เพราะหากมีรายใหม่เข้ามาเพิ่ม การแข่งขันก็จะเข้มข้นมากขึ้น โดยหากอยู่ภายใต้สมมติฐานราคาไม่เกิน 35,000 ล้านบาท คาดว่าอาจจะต้องปรับลดประมาณการผลประกอบการของหุ้นกลุ่มสื่อสารลงภายใน 2-3 ปี จากความสามารถในการทำกำไรที่ลดลง
ทั้งนี้ การที่ผู้ชนะการประมูลเป็นผู้ประกอบการรายได้ ทำให้ตลาดคลายความกังวล เพราะยังไม่มีคู่แข่งรายที่ 4 เข้ามาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาการประมูลคลื่น 900 MHz ที่จะมีขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ ว่าจะมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาร่วมด้วยหรือไม่ ซึ่งจะเป็นการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น
เช่นเดียวกับนายพิชัย เลิศสุพงษ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ธนชาติ กล่าวว่า ต้องจับตาการประมูลคลื่น 900 MHz อย่างใกล้ชิด เพราะหากมีรายใหม่เข้ามาเพิ่ม การแข่งขันก็จะเข้มข้นมากขึ้น โดยหากอยู่ภายใต้สมมติฐานราคาไม่เกิน 35,000 ล้านบาท คาดว่าอาจจะต้องปรับลดประมาณการผลประกอบการของหุ้นกลุ่มสื่อสารลงภายใน 2-3 ปี จากความสามารถในการทำกำไรที่ลดลง