น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาดแก่กลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ ว่า กระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะส่งเสริมและผลักดันให้เกษตรกรหันมาปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ เพื่อสนองความต้องการของตลาดที่มีเพิ่มมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศตั้งเป้าภายใน 3 ปี จะมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 20,000 ไร่ จากปัจจุบันที่ได้เริ่มโครงการไปแล้วและมีเกษตรกรได้ปลูกไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์5,000 ไร่ มีผลผลิตเพียง 1,500 ตัน ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ปัจจุบัน ข้าวไรซ์เบอร์รี่ของไทยมีตลาดภายในประเทศรองรับ และมีตลาดต่างประเทศ ทั้งจีน เยอรมนี อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ และสหรัฐฯ โดยราคาจำหน่ายสูงกว่าราคาข้าวหอมมะลิ หรือราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 50 บาท และหากส่งออกไปขายตลาดต่างประเทศ จะขายได้ถึงกิโลกรัมละ 200 บาท
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ จะร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดทำโซนนิ่งการเพาะปลูก เพราะการปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ต้องอาศัยพื้นที่ สภาพอากาศที่เหมาะสม โดยพื้นที่ที่เหมาะสมเบื้องต้น เช่น จังหวัดลำปาง อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก กำแพงเพชร นครราชสีมา บึงกาฬ มหาสารคาม ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด เพชรบูรณ์ และพิจิตร เป็นต้น ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะคัดเลือกเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ จัดอบรมให้ความรู้ในการเพาะปลูกการควบคุมคุณภาพ เพื่อให้ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์จริงๆ
ปัจจุบัน ข้าวไรซ์เบอร์รี่ของไทยมีตลาดภายในประเทศรองรับ และมีตลาดต่างประเทศ ทั้งจีน เยอรมนี อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ และสหรัฐฯ โดยราคาจำหน่ายสูงกว่าราคาข้าวหอมมะลิ หรือราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 50 บาท และหากส่งออกไปขายตลาดต่างประเทศ จะขายได้ถึงกิโลกรัมละ 200 บาท
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ จะร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดทำโซนนิ่งการเพาะปลูก เพราะการปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ต้องอาศัยพื้นที่ สภาพอากาศที่เหมาะสม โดยพื้นที่ที่เหมาะสมเบื้องต้น เช่น จังหวัดลำปาง อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก กำแพงเพชร นครราชสีมา บึงกาฬ มหาสารคาม ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด เพชรบูรณ์ และพิจิตร เป็นต้น ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะคัดเลือกเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ จัดอบรมให้ความรู้ในการเพาะปลูกการควบคุมคุณภาพ เพื่อให้ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์จริงๆ