xs
xsm
sm
md
lg

ทองคำร่วง น้ำมันทะยาน กลุ่มพลังงานหนุนหุ้นสหรัฐฯ ขึ้นต่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้

สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์-COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 21.8 ดอลลาร์ หรือ 1.92% ปิดที่ระดับ 1,114.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำร่วงลงหลังจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดย Dollar Index ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆนั้น ปรับขึ้น 0.36% สู่ระดับ 97.26 เมื่อคืนนี้ โดยการแข็งค่าของดอลลาร์จะส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจ

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้ หลังจากที่ประชุมเฟดครั้งล่าสุดระบุว่า เฟดจะพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนธ.ค.

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า บริษัทกลั่นน้ำมันในสหรัฐได้ชะลอการผลิตลงในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค. นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลงในสัปดาห์ที่แล้ว

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 1.76 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 47.90 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.75 ดอลลาร์ หรือ 3.6% ปิดที่ 50.54 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า บริษัทกลั่นน้ำมันในสหรัฐได้ชะลอการผลิตน้ำมันดิบลงในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค. เพื่อซ่อมบำรุงโรงกลั่นในช่วงที่อุปสงค์เชื้อเพลิงอยู่ในระดับต่ำ

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันรอบอ่าวอาหรับประกาศชะลอการปิดซ่อมบำรุงบ่อน้ำมันไปจนถึงปีหน้า โดยมีเป้าหมายที่จะลดต้นทุน

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากราคาคาสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งรวมถึงน้ำมันและโลหะปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายและจับตาผลประกอบการบริษัทเอกชน หลังจากบริษัทอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (AIG) เปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,918.15 จุด เพิ่มขึ้น 89.39 จุด หรือ +0.50% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 5,145.13 จุด เพิ่มขึ้น 17.98 จุด หรือ +0.35% ดัชนีเอสแอนด์พี 500, ปิดที่ 2,109.79 จุด เพิ่มขึ้น 5.74 จุด หรือ +0.27%

หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้น หลังจากราคาน้ำมันดิบและโลหะปรับตัวสูงขึ้น โดยหุ้นเชฟรอน คอร์ป และหุ้นเอ็กซอน โมบิล ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 1.8% หุ้นไดมอนด์ ออฟชอร์ ดริลลิง และหุ้นคอนโซล เอนเนอร์จี ดีดตัวขึ้นกว่า 4.8% ขณะที่หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน ทะยานขึ้น 5%

หุ้นไมโครซอฟท์ หุ้นวีซา อิงค์ และหุ้นแอปเปิล ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1.1% ซึ่งช่วยหนุนดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของไมโครซอฟท์ และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล โดยทั้งสองบริษัทได้เปิดเผยผลประกอบการไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า กิจกรรมภาคธุรกิจในนครนิวยอร์กดีดตัวขึ้นในเดือนต.ค. หลังจากร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีในเดือนก.ย.

ทั้งนี้ รายงานของ ISM ระบุว่า ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กพุ่งขึ้นสู่ระดับ 65.8 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. หลังจากร่วงแตะระดับ 44.5 ในเดือนก.ย. ขณะอยู่ที่ 51.1 ในเดือนส.ค.

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายและจับตาดูผลประกอบการบริษัทเอกชนอย่างใกล้ชิด หลังจากบริษัท AIG เปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาดการณ์ในไตรมาส 3

ขณะที่ธนาคารยูบีเอส ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ เปิดเผยกำไรสุทธิในไตรมาส 3 มูลค่า 2.1 พันล้านฟรังค์ หรือ 2.13 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวน้อยกว่าการคาดการณ์ของตลาด ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้หุ้นยูบีเอสปิดตลาดร่วงลง 5.8% เมื่อคืนนี้

นักลงทุนจับตาดูถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้ ซึ่งรวมถึงนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด นายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟด และนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ เพื่อจับสัญญาณเรื่องแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ADP จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนต.ค., และสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคการบริการเดือนต.ค.ในวันนี้

สำหรับในวันพรุ่งนี้ ทางการสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และประสิทธิภาพการผลิต-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเบื้องต้นในไตรมาส 3/2558 ส่วนวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค. และสินเชื่อผู้บริโภคเดือนก.ย.
กำลังโหลดความคิดเห็น