ก.พลังงานเผยราคาน้ำมันในไทยมีแนวโน้มทรงตัวและมีโอกาสลดลง

นายชวลิต พิชาลัย รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยทิศทางราคาน้ำมันปัจจุบันจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2558 มีโอกาสที่ราคาน้ำมันขายปลีกไทยอยู่ในระดับทรงตัว หากไม่มีกรณีฉุกเฉิน เช่น การเกิดสงครามในประเทศซีเรียอย่างรุนแรง คาดว่าราคาน้ำมันขายปลีกอาจยังมีโอกาสปรับตัวลดลงได้ ทั้งกลุ่มราคาน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ และน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงสำคัญภาคขนส่งและภาคอุตสาหกรรม ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจประเทศตามนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันน่าจะไม่มีราคาสูงมากนัก มาจากสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกที่มีผลกระทบต่อราคาขายปลีกของไทย โดยราคาน้ำมันดิบโดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบดูไบ จะมีราคาอยู่ระหว่างประมาณ 55 -60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และจากรายงานของทบวงพลังงานโลก ในเดือนกันยายน พบว่าข้อมูลการผลิตน้ำมันโลกยังอยู่ที่ระดับ 96.76 ล้านบาร์เรลต่อวัน เกินกว่าความต้องการใช้ ที่ระดับ 95.17 บาร์เรลต่อวัน รวมทั้งปัจจัยบวก หากอิหร่านสามารถส่งออกน้ำมันได้เพิ่มอีก หลังจากถูกคว่ำบาตร เชื่อว่าสถานการณ์โลกยังน่ามีแนวโน้มทรงตัวต่อไปอีกระยะ

นอกจากนี้ จากกรณีการเปรียบเทียบราคาน้ำมันขายปลีกของไทย และประเทศมาเลเซีย ทางโซเชียลมีเดีย และมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นราคาที่บริษัทน้ำมันของไทยเอาเปรียบผู้บริโภค กระทรวงพลังงาน ยืนยันว่า ราคาน้ำมันของมาเลเซียและไทย แม้จะมีพื้นฐานราคาตั้งต้นใกล้เคียงกัน แต่รัฐบาลมาเลเซียยังมีการอุดหนุนราคาขายปลีกจำหน่ายหน้าสถานีบริการ ขณะที่ไทยมีนโยบายแน่ชัดในการปรับโครงสร้างราคาเชื้อเพลิง และได้ทยอยยกเลิกการอุดหนุนราคาน้ำมันขายปลีก ตั้งแต่ปี 2557