รายงานข่าวแจ้งว่า ถนนเลียบแม่น้ำน้อยในพื้นที่หมู่ 13 ต.โพสังโฆ อำเภอค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี เกิดการทรุดตัวอย่างรุนแรง จนถนนเสียหายบางจุดเป็นหลุมลึกกว่า 1 เมตร จนชาวบ้าน ไม่กล้าใช้รถยนต์สัญจรผ่าน การสำรวจตลอดแนวแม่น้ำน้อย ในอำเภอค่ายบางระจัน พบว่าพื้นที่ต.โพสังโฆ มีตลิ่งทรุดตัว 4 จุด และต.ท่าข้าม 4 จุด ชาวบ้านเริ่มกังวลว่า หากตลิ่งทรุดตัวอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้บ้านเรือนเสียหาย เหมือนที่เกิดขึ้นในอำเภอท่าช้าง จึงเริ่มขนย้ายสิ่งของและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ใกล้แนวตลิ่งทรุด
นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการอย่างเร่งด่วนให้กรมโยธาธิการและผังเมืองส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจความเสียหาย จากกรณีตลิ่งริมแม่น้ำน้อย อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี ทรุดตัวอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนพังเสียหายหลายหลัง และถนนทรุดตัวเป็นทางยาวไม่สามารถสัญจรได้ โดยวันนี้ (31 ต.ค.) นายสมชาย เมธวัฒน์ธรากุล รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง พร้อมด้วยทีมวิศวกร ได้ลงพื้นที่เทศบาลตำบลถอนสมอ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ ร่วมกับนายกเทศบาลตำบลถอนสมอและคณะสมาชิกเทศบาลตำบลฯ แล้ว
ทั้งนี้ สาเหตุคาดว่าเกิดจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง และระดับน้ำในแม่น้ำน้อยลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเบื้องต้น ทางเทศบาลตำบลถอนสมอจะนำเข็มสั้นมาลง พร้อมทั้งลงดินและปรับสภาพผิวการจราจรให้สามารถใช้งานได้ แต่ไม่ควรให้รถที่มีน้ำหนักมากสัญจร เพราะน้ำหนักของรถจะเป็นตัวเร่งให้เกิดการสไลด์ของตลิ่งมากยิ่งขึ้น การดำเนินการขั้นต่อไป ทางกรมฯ จะเปลี่ยนแปลงงบประมาณปี 2559 มาก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งที่มีการพังทลายอย่างวิกฤตโดยเร่งด่วน
สำหรับแผนระยะยาวนั้น ในพื้นที่แม่น้ำน้อยซึ่งมีความยาวประมาณ145 กิโลเมตร ตั้งแต่จังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง จนถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่า ในจังหวัดสิงห์บุรี มีการพังทลายของตลิ่งฯอย่างรุนแรง ทางกรมฯ มีข้อมูลและแผนจัดลำดับความสำคัญของการป้องกันตลิ่งฯ อยู่แล้ว ซึ่งกรมฯ จะเก็บข้อมูลความเสียหายของตลิ่งเพิ่มเติมให้ครอบคลุมพื้นที่เพื่อบรรจุในแผนงบประมาณต่อไป
นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการอย่างเร่งด่วนให้กรมโยธาธิการและผังเมืองส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจความเสียหาย จากกรณีตลิ่งริมแม่น้ำน้อย อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี ทรุดตัวอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนพังเสียหายหลายหลัง และถนนทรุดตัวเป็นทางยาวไม่สามารถสัญจรได้ โดยวันนี้ (31 ต.ค.) นายสมชาย เมธวัฒน์ธรากุล รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง พร้อมด้วยทีมวิศวกร ได้ลงพื้นที่เทศบาลตำบลถอนสมอ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ ร่วมกับนายกเทศบาลตำบลถอนสมอและคณะสมาชิกเทศบาลตำบลฯ แล้ว
ทั้งนี้ สาเหตุคาดว่าเกิดจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง และระดับน้ำในแม่น้ำน้อยลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเบื้องต้น ทางเทศบาลตำบลถอนสมอจะนำเข็มสั้นมาลง พร้อมทั้งลงดินและปรับสภาพผิวการจราจรให้สามารถใช้งานได้ แต่ไม่ควรให้รถที่มีน้ำหนักมากสัญจร เพราะน้ำหนักของรถจะเป็นตัวเร่งให้เกิดการสไลด์ของตลิ่งมากยิ่งขึ้น การดำเนินการขั้นต่อไป ทางกรมฯ จะเปลี่ยนแปลงงบประมาณปี 2559 มาก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งที่มีการพังทลายอย่างวิกฤตโดยเร่งด่วน
สำหรับแผนระยะยาวนั้น ในพื้นที่แม่น้ำน้อยซึ่งมีความยาวประมาณ145 กิโลเมตร ตั้งแต่จังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง จนถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่า ในจังหวัดสิงห์บุรี มีการพังทลายของตลิ่งฯอย่างรุนแรง ทางกรมฯ มีข้อมูลและแผนจัดลำดับความสำคัญของการป้องกันตลิ่งฯ อยู่แล้ว ซึ่งกรมฯ จะเก็บข้อมูลความเสียหายของตลิ่งเพิ่มเติมให้ครอบคลุมพื้นที่เพื่อบรรจุในแผนงบประมาณต่อไป