นายอูริค ซาเกา ผู้อำนวยการธนาคารโลก สำนักงานประเทศไทย หรือ เวิลด์แบงก์ เปิดเผยรายงานอันดับความยาก-ง่าย ในการประกอบธุรกิจในประเทศต่างๆ ทั่วโลก หรือ Doing Business 2016 ว่า ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความสะดวกในการประกอบธุรกิจ อันดับที่ 49 จาก 189 ประเทศทั่วโลก ลดลงจากปีที่ผ่านมาจากอันดับที่ 46 เนื่องจากการปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์การวัดผลใหม่ของเวิลด์แบงก์ แต่ไทยมีระดับคะแนนเพิ่มขึ้น จาก 71.33 คะแนน เป็น 71.42 คะแนน ส่งผลให้ไทยอยู่อันดับที่ 3 ของอาเซียน รองจากมาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่ได้คะแนนเป็นอันดับที่ 1 ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 10 ปี
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาถือว่าไทยมีความใส่ใจการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะการปรับลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง รวมทั้งการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือร้อยละ 20 เป็นการถาวร และการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับธุรกิจเงินร่วมลงทุนและภาษีเงินปันผล ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดีสำหรับการประกอบธุรกิจในไทยเป็นอย่างมาก
ผู้อำนวยการธนาคารโลก สำนักงานประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยมีโอกาสที่จะปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ เกี่ยวกับการค้า การลงทุน อาทิ การปฏิรูประบบราชการอย่างมีบูรณาการ การบริหารการใช้ที่ดินให้มีประสิทธิภาพ และพัฒนาเทคโนโลยีบนพื้นฐานข้อมูลที่ทันสมัย รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้ภาคเอกชน ด้วยการลดอุปสรรคการประกอบธุรกิจให้ลดลง ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยให้เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาถือว่าไทยมีความใส่ใจการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะการปรับลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง รวมทั้งการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือร้อยละ 20 เป็นการถาวร และการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับธุรกิจเงินร่วมลงทุนและภาษีเงินปันผล ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดีสำหรับการประกอบธุรกิจในไทยเป็นอย่างมาก
ผู้อำนวยการธนาคารโลก สำนักงานประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยมีโอกาสที่จะปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ เกี่ยวกับการค้า การลงทุน อาทิ การปฏิรูประบบราชการอย่างมีบูรณาการ การบริหารการใช้ที่ดินให้มีประสิทธิภาพ และพัฒนาเทคโนโลยีบนพื้นฐานข้อมูลที่ทันสมัย รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้ภาคเอกชน ด้วยการลดอุปสรรคการประกอบธุรกิจให้ลดลง ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยให้เพิ่มมากขึ้น