นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงความคืบหน้าการรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำคลองโอ่งอ่าง หรือสะพานเหล็กว่า ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบริเวณที่มีคำสั่งให้รื้อแล้วจำนวน 88 ห้อง จาก 498 ห้อง แต่ยังได้รับรายงานว่า มีผู้ค้าบริเวณสะพานดำรงค์สถิตถึงสะพานภานุพันธุ์ที่ยังไม่ย้ายออกจากพื้นที่อีก 100 กว่าราย ซึ่งกทม.และคณะทำงานแก้ไขปัญหาผู้บุกรุกคลองโอ่งอ่างจะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำคลองให้แล้วเสร็จภายใน 15 พ.ย.นี้ เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ต่อไป
นายจักกพันธุ์ กล่าวต่อว่า ปัญหาขณะนี้คือ ผู้ค้าบริเวณสะพานเหล็กส่วนหนึ่งยังนำสินค้ามาลดราคาล้างสต๊อกก่อนย้ายไปขายที่ใหม่ ทำให้มีประชาชนเข้าไปในพื้นที่ซึ่งอยู่ระหว่างการรื้อถอนเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทำงานไม่ค่อยสะดวก เพราะนอกจากบริเวณดังกล่าวจะมีลักษณะแคบแล้ว เจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวังการทำงานไม่ให้กระทบต่อประชาชนด้วย กทม.อาจมีมาตรการกำหนดเขตพื้นที่ห้ามประชาชนเข้า เพื่อให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานได้สะดวกขึ้น และเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนที่เข้าไปในบริเวณดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เนื่องจากโครงสร้างของตลาดสะพานเหล็ก ผู้ค้าสร้างขึ้นเองซึ่งไม่มีความแข็งแรง และไม่ถูกต้องตามหลักการสร้างอาคาร นอกจากนี้ ระบบการเชื่อมต่อไฟฟ้าก็ไม่มีความปลอดภัย โดยระหว่างการรื้อถอนนั้นเกรงว่าประชาชนที่สัญจรไปมาอาจได้รับอันตรายด้วย
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าว กทม.จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายหลายฉบับ อาทิ ประกาศคณะปฏิวัติ พ.ร.บ.โบราณสถาน มติคณะรัฐมนตรี มติของคณะกรรมการเกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งหลังจากนี้ กทม.โดยสำนักผังเมือง จะพัฒนาทางเดินริมคลองโอ่งอ่างให้เป็นที่ระบายน้ำ ที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน
นายจักกพันธุ์ กล่าวต่อว่า ปัญหาขณะนี้คือ ผู้ค้าบริเวณสะพานเหล็กส่วนหนึ่งยังนำสินค้ามาลดราคาล้างสต๊อกก่อนย้ายไปขายที่ใหม่ ทำให้มีประชาชนเข้าไปในพื้นที่ซึ่งอยู่ระหว่างการรื้อถอนเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทำงานไม่ค่อยสะดวก เพราะนอกจากบริเวณดังกล่าวจะมีลักษณะแคบแล้ว เจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวังการทำงานไม่ให้กระทบต่อประชาชนด้วย กทม.อาจมีมาตรการกำหนดเขตพื้นที่ห้ามประชาชนเข้า เพื่อให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานได้สะดวกขึ้น และเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนที่เข้าไปในบริเวณดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เนื่องจากโครงสร้างของตลาดสะพานเหล็ก ผู้ค้าสร้างขึ้นเองซึ่งไม่มีความแข็งแรง และไม่ถูกต้องตามหลักการสร้างอาคาร นอกจากนี้ ระบบการเชื่อมต่อไฟฟ้าก็ไม่มีความปลอดภัย โดยระหว่างการรื้อถอนนั้นเกรงว่าประชาชนที่สัญจรไปมาอาจได้รับอันตรายด้วย
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าว กทม.จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายหลายฉบับ อาทิ ประกาศคณะปฏิวัติ พ.ร.บ.โบราณสถาน มติคณะรัฐมนตรี มติของคณะกรรมการเกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งหลังจากนี้ กทม.โดยสำนักผังเมือง จะพัฒนาทางเดินริมคลองโอ่งอ่างให้เป็นที่ระบายน้ำ ที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน