นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)เปิดเผยถึงสถานการณ์หมอกควันจากไฟป่าบนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซียที่พัดปกคลุมในพื้นที่หลายจังหวัดของภาคใต้ว่า สถานการณ์หมอกควันเริ่มดีขึ้น โดยปริมาณฝุ่นละอองลดลงกว่าวันที่ผ่านมา คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลาง เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมพื้นที่ภาคใต้มีกำลังแรงขึ้นและมีฝนตกในพื้นที่ ทำให้หมอกควันเบาบางลง
ทั้งนี้ จากการประสานข้อมูลคุณภาพอากาศกับกรมควบคุมมลพิษ ณ วันที่ 25 ต.ค.พบว่า พื้นที่ภาคใต้มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) มีค่าระหว่าง 58-87 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งลดลงกว่าวันที่ผ่านมา โดยสงขลา มีปริมาณละอองสูงสุด ค่า PM10 87 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ภูเก็ต มีค่า PM10 81 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พังงา มีค่าค่า PM10 77 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ยะลา มีค่า PM10 61 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สตูล มี ค่าPM10 60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ปัตตานี มีค่า PM10 59 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และนราธิวาส มีค่า PM10 58 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
นายฉัตรชัย กล่าวว่า รัฐบาลห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคใต้ จึงได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประสานจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้เร่งแก้ไขปัญหาหมอกควันอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยดำเนินมาตรการคุมเข้มการเผา และขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเผาขยะ เศษวัสดุทางการเกษตรเพื่อมิให้สถานการณ์ หมอกควันวิกฤตมากขึ้น รวมถึงระดมรถดับเพลิงหอน้ำพร้อมบันไดสูง 35 เมตร เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็ว และชุดเผชิญเหตุสถานการณ์วิกฤต สนับสนุนการแก้ไขปัญหาสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคใต้ โดยฉีดพ่นน้ำเพิ่มความชื้นและลดปริมาณ หมอกควันฝุ่นละอองในอากาศ
นอกจากนี้ ได้ประสานกระทรวงสาธารณสุขจัดหาหน้ากากอนามัยแจกจ่ายให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงผลกระทบของหมอกควันต่อสุขภาพอนามัย เพื่อจะได้ป้องกันและดูแลตนเองอย่างถูกต้อง โดยให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน เพราะจะสูดดมฝุ่นละอองจำนวนมากเข้าสู่ร่างกาย อาจทำให้เจ็บป่วยได้ โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว หากเจ็บป่วยจะมีอาการรุนแรงกว่าปกติ รวมถึงใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือหน้ากากอนามัย ปิดปากและจมูก เพื่อป้องกันการสูดดมฝุ่นละออง เข้าสู่ร่างกาย
ทั้งนี้ จากการประสานข้อมูลคุณภาพอากาศกับกรมควบคุมมลพิษ ณ วันที่ 25 ต.ค.พบว่า พื้นที่ภาคใต้มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) มีค่าระหว่าง 58-87 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งลดลงกว่าวันที่ผ่านมา โดยสงขลา มีปริมาณละอองสูงสุด ค่า PM10 87 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ภูเก็ต มีค่า PM10 81 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พังงา มีค่าค่า PM10 77 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ยะลา มีค่า PM10 61 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สตูล มี ค่าPM10 60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ปัตตานี มีค่า PM10 59 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และนราธิวาส มีค่า PM10 58 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
นายฉัตรชัย กล่าวว่า รัฐบาลห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคใต้ จึงได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประสานจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้เร่งแก้ไขปัญหาหมอกควันอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยดำเนินมาตรการคุมเข้มการเผา และขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเผาขยะ เศษวัสดุทางการเกษตรเพื่อมิให้สถานการณ์ หมอกควันวิกฤตมากขึ้น รวมถึงระดมรถดับเพลิงหอน้ำพร้อมบันไดสูง 35 เมตร เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็ว และชุดเผชิญเหตุสถานการณ์วิกฤต สนับสนุนการแก้ไขปัญหาสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคใต้ โดยฉีดพ่นน้ำเพิ่มความชื้นและลดปริมาณ หมอกควันฝุ่นละอองในอากาศ
นอกจากนี้ ได้ประสานกระทรวงสาธารณสุขจัดหาหน้ากากอนามัยแจกจ่ายให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงผลกระทบของหมอกควันต่อสุขภาพอนามัย เพื่อจะได้ป้องกันและดูแลตนเองอย่างถูกต้อง โดยให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน เพราะจะสูดดมฝุ่นละอองจำนวนมากเข้าสู่ร่างกาย อาจทำให้เจ็บป่วยได้ โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว หากเจ็บป่วยจะมีอาการรุนแรงกว่าปกติ รวมถึงใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือหน้ากากอนามัย ปิดปากและจมูก เพื่อป้องกันการสูดดมฝุ่นละออง เข้าสู่ร่างกาย