สธ. มอบ สสจ. หารือโรงเรียนในพื้นที่เผชิญหมอกควัน ประเมินการหยุดเรียนหากส่งผลกระทบสุขภาพ
นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงมาตรการหยุดเรียนในพื้นที่ประสบปัญหาหมอกควันภาคใต้ ว่า การพิจารณาว่าโรงเรียนจะหยุดเรียนหรือไม่นั้น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) และโรงเรียนในพื้นที่นั้น ๆ จะพิจารณาร่วมกันว่าปริมาณหมอกควันสูงกว่าระดับมาตรฐาน คือ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และระดับใดจะส่งผลต่อสุขภาพบ้าง โดยเฉพาะเด็กเล็ก ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยง ไม่แพ้ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีปัญหาโรคเรื้อรังต่าง ๆ ทั้งโรคหัวใจ หรือแม้กระทั่งผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ รวมไปถึงผื่นคันตามผิวหนัง ทั้งหมดจัดเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การป้องกันเป็นสิ่งสำคัญ โดยประชาชนในพื้นที่ประสบภัย หากไม่จำเป็นควรอยู่แต่ในอาคารบ้านพัก แต่ถ้าต้องออกนอกอาคารควรมีหน้ากากอนามัยป้องกัน
“ขณะนี้ในพื้นที่ประสบภัยได้แจ้งมาทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ขอหน้ากากอนามัยจำนวน 9 แสนชิ้น โดย สธ. ได้จัดส่งประมาณ 6 แสนชิ้น นอกนั้นกำลังทยอยดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้มีข่าวว่าอาจมีผู้ประกอบการบางรายฉวยโอกาสในการจำหน่ายหน้ากากอนามัยราคาแพง สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนนั้น ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ประชาชนสามารถทำหน้ากากอนามัยเองได้ หรือใช้ผ้าชุบน้ำปิดจมูกและปาก เมื่ออยู่ในบริเวณที่มีหมอกควัน เป็นต้น ซึ่งทาง สธ. จะประสานองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ในการจัดซื้อ และจัดส่งหน้ากากอนามัยให้ครบทุกพื้นที่ประสบภัยโดยเร็ว” ปลัด สธ. กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงมาตรการหยุดเรียนในพื้นที่ประสบปัญหาหมอกควันภาคใต้ ว่า การพิจารณาว่าโรงเรียนจะหยุดเรียนหรือไม่นั้น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) และโรงเรียนในพื้นที่นั้น ๆ จะพิจารณาร่วมกันว่าปริมาณหมอกควันสูงกว่าระดับมาตรฐาน คือ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และระดับใดจะส่งผลต่อสุขภาพบ้าง โดยเฉพาะเด็กเล็ก ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยง ไม่แพ้ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีปัญหาโรคเรื้อรังต่าง ๆ ทั้งโรคหัวใจ หรือแม้กระทั่งผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ รวมไปถึงผื่นคันตามผิวหนัง ทั้งหมดจัดเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การป้องกันเป็นสิ่งสำคัญ โดยประชาชนในพื้นที่ประสบภัย หากไม่จำเป็นควรอยู่แต่ในอาคารบ้านพัก แต่ถ้าต้องออกนอกอาคารควรมีหน้ากากอนามัยป้องกัน
“ขณะนี้ในพื้นที่ประสบภัยได้แจ้งมาทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ขอหน้ากากอนามัยจำนวน 9 แสนชิ้น โดย สธ. ได้จัดส่งประมาณ 6 แสนชิ้น นอกนั้นกำลังทยอยดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้มีข่าวว่าอาจมีผู้ประกอบการบางรายฉวยโอกาสในการจำหน่ายหน้ากากอนามัยราคาแพง สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนนั้น ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ประชาชนสามารถทำหน้ากากอนามัยเองได้ หรือใช้ผ้าชุบน้ำปิดจมูกและปาก เมื่ออยู่ในบริเวณที่มีหมอกควัน เป็นต้น ซึ่งทาง สธ. จะประสานองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ในการจัดซื้อ และจัดส่งหน้ากากอนามัยให้ครบทุกพื้นที่ประสบภัยโดยเร็ว” ปลัด สธ. กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่