นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า แนวทางความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และเอกชนที่จะเดินหน้าผลักดันสุดยอดแฟรนไชส์ไทยสู่ตลาดโลก Excellent Thai Franchise จะสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคธุรกิจและเศรษฐกิจไทยอย่างมาก
ดังนั้นกระทรวงพาณิชย์ได้ต่อยอดให้เกิดการขยายธุรกิจ และยกระดับสู่มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการ เชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจสู่ตลาดโลก โดยธุรกิจแฟรนไชส์ไทยถือเป็นการเริ่มต้นและขยายธุรกิจ ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 2 แสนล้านบาท หรือร้อยละ 9 ของมูลค่าการค้าปลีกส่งไทย และยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์และเอกชนได้กำหนดเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจดังกล่าวไว้ 2 แนวทางหลัก ได้แก่ 1.ขยายประเภทของธุรกิจแฟรนไชส์ให้ครอบคลุมกลุ่มธุรกิจมากขึ้น เช่น Social Business และสร้างรูปแบบธุรกิจบริการใหม่ๆ 2.ขยายการส่งออกสู่กลุ่มประเทศต่างๆ ให้ครอบคลุมทุกทวีปทั่วโลก
ทั้งนี้การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ให้บรรลุเป้าหมาย และประสบความสำเร็จต้องเกิดจากความร่วมมืออย่างจริงจังของทั้ง 2 ฝ่าย และช่วงปลายปีนี้จะเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ดังนั้นตลาดอาเซียนเป็นตลาดที่มีโอกาสเป้าหมายสูงที่จะขยายธุรกิจแฟรนไชส์ไทยมีศักยภาพและมีคุณภาพ
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ยังได้กำหนดแผนผลักดันธุรกิจแฟรนไชส์ไทยสู่ตลาดโลกใน 3 ปี (ปี 2559 – 2561) ไม่น้อยกว่า 300 ราย และสามารถขยายแฟรนไชส์ในต่างประเทศไม่น้อยกว่า 1,800 ราย ซึ่งจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ราว 6,300 ล้านบาท หากดูมูลค่าธุรกิจแฟรนไชส์ไทยขณะนี้มีทั้งสิ้น 1,519 ราย เป็นนิติบุคคล 1,230 ราย และบุคคลธรรมดา 289 ราย แบ่งเป็น หมวดค้าปลีก ร้อยละ 38 หมวดอาหารและเครื่องดื่ม ร้อยละ 28 หมวดธุรกิจบริการ ร้อยละ 23 หมวดการศึกษา ร้อยละ 6 และ หมวดความงาม สปา ร้อยละ 5 มีทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้นประมาณ 59,502 ล้านบาท และมีรายได้รวมทั้งสิ้นประมาณ 645,798 ล้านบาท
ดังนั้นกระทรวงพาณิชย์ได้ต่อยอดให้เกิดการขยายธุรกิจ และยกระดับสู่มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการ เชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจสู่ตลาดโลก โดยธุรกิจแฟรนไชส์ไทยถือเป็นการเริ่มต้นและขยายธุรกิจ ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 2 แสนล้านบาท หรือร้อยละ 9 ของมูลค่าการค้าปลีกส่งไทย และยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์และเอกชนได้กำหนดเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจดังกล่าวไว้ 2 แนวทางหลัก ได้แก่ 1.ขยายประเภทของธุรกิจแฟรนไชส์ให้ครอบคลุมกลุ่มธุรกิจมากขึ้น เช่น Social Business และสร้างรูปแบบธุรกิจบริการใหม่ๆ 2.ขยายการส่งออกสู่กลุ่มประเทศต่างๆ ให้ครอบคลุมทุกทวีปทั่วโลก
ทั้งนี้การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ให้บรรลุเป้าหมาย และประสบความสำเร็จต้องเกิดจากความร่วมมืออย่างจริงจังของทั้ง 2 ฝ่าย และช่วงปลายปีนี้จะเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ดังนั้นตลาดอาเซียนเป็นตลาดที่มีโอกาสเป้าหมายสูงที่จะขยายธุรกิจแฟรนไชส์ไทยมีศักยภาพและมีคุณภาพ
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ยังได้กำหนดแผนผลักดันธุรกิจแฟรนไชส์ไทยสู่ตลาดโลกใน 3 ปี (ปี 2559 – 2561) ไม่น้อยกว่า 300 ราย และสามารถขยายแฟรนไชส์ในต่างประเทศไม่น้อยกว่า 1,800 ราย ซึ่งจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ราว 6,300 ล้านบาท หากดูมูลค่าธุรกิจแฟรนไชส์ไทยขณะนี้มีทั้งสิ้น 1,519 ราย เป็นนิติบุคคล 1,230 ราย และบุคคลธรรมดา 289 ราย แบ่งเป็น หมวดค้าปลีก ร้อยละ 38 หมวดอาหารและเครื่องดื่ม ร้อยละ 28 หมวดธุรกิจบริการ ร้อยละ 23 หมวดการศึกษา ร้อยละ 6 และ หมวดความงาม สปา ร้อยละ 5 มีทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้นประมาณ 59,502 ล้านบาท และมีรายได้รวมทั้งสิ้นประมาณ 645,798 ล้านบาท
