รายงานข่าวความคืบหน้าคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ที่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หลังจากพนักงานสอบสวนขออนุมัติศาลทหารฝากขังผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ “หมอหยอง” หมอดูชื่อดัง และนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรือ “อาท ชัตเตอร์มหาเทพ” เลขานุการของนายสุริยัน และ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือ “สารวัตรเอี๊ยด” สารวัตร กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(สว.กก.1 บก.ปอท.)ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้แบ่งชุดทำงานลงพื้นที่ตรวจสอบทรัพย์สินตามที่พักของผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย โดยอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบทรัพย์สินที่ตรวจยึดมาได้
รายงานข่าวแจ้งว่า ในส่วนของ พ.ต.ต.ปรากรม เจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ในคอนโดมิเนียม ลาเมซอง 24 ซ.พหลโยธิน 24 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ซึ่งเป็นที่พักของ พ.ต.ต.ปรากรม ประกอบด้วย รถตู้ยี่ห้อโฟล์คสวาเกน รุ่นคาราเวล สีขาว ทะเบียน ฮพ 2 กรุงเทพมหานคร , รถเบนซ์ 3 คัน , รถยนต์โตโยต้า 2 คัน และมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ รวมทั้งอาวุธปืน วิทยุสื่อสาร ตลอดจนทรัพย์สินอื่นๆหลายรายการ ประกอบด้วย เงินสด พระเครื่อง ทองคำ และนาฬิกา เป็นต้น
ทั้งนี้ พระเครื่องที่ตรวจพบและยึดมานั้นส่วนใหญ่เป็นพระเครื่องในกลุ่มพระเบญจภาคี โดยพบว่ามีพระสมเด็จวัดระฆัง 2 องศ์ , พระสมเด็จนางพญา รวมถึงพระเครื่องมีชื่อราคาแพงหลายรายการ ซึ่งของกลางทั้งหมดของ พ.ต.ต.ปรากรม ที่ยึดได้นั้นจะนำไปตรวจสอบหาความเชื่อมโยง ที่มาที่ไปว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ ส่วนของอาวุธปืนของ พ.ต.ต.ปรากรม ที่ตรวจยึดมาได้นั้นจะนำไปยิงทดสอบเพื่อเก็บประวัติว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอื่นๆหรือไม่ เช่นเดียวกับทรัพย์สินมีค่าอื่นๆที่อยู่ระหว่างตรวจสอบที่มาที่ไปว่าได้มาจากการกระทำความผิดหรือไม่เช่นกัน
ส่วนการตรวจยึดทรัพย์สินของนายสุริยัน และนายจิรวงศ์ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบและตรวจยึดมาได้แล้วบางส่วน หลังจากเข้าตรวจสอบภายในบ้านเลขที่ 127/35 พหลโยธินปาร์ค คอนโดมิเนียม ซ.พหลโยธิน 14 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท ซึ่งหลังจากนี้จะตรวจสอบเช่นเดียวกับกรณีของ พ.ต.ต.ปรากรม โดยทรัพย์สินต่างๆที่ได้ตรวจยึดมาได้นั้น เบื้องต้นถูกเก็บรักษาไว้ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ด้านการยึด และอายัดทรัพย์สินผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย มีรายงานจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ว่า ปปง.ยังไม่ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเข้าไปใช้อำนาจ ปปง. ยึด และอายัดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด หากได้รับการประสานก็ต้องพิจารณาว่าเข้าความผิดมูลฐานกฎหมาย ปปง.หรือไม่ด้วย
สำหรับการควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ที่ถูกส่งตัวไปควบคุมอยู่ที่เรือนจำชั่วคราวภายในกองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 (พัน.ร.มทบ.11) นั้น ทางเรือนจำทำหน้าที่ในการดูแลภาพรวมทั่วไป และเรื่องอาหารการกินตามระเบียบราชทัณฑ์ ส่วนการควบคุมดูแลเป็นหน้าที่ของ “ผู้คุมพิเศษ” ที่มีทั้งทหารและผู้คุมจากเรือนจำ ซึ่งเป็นผู้คุมพิเศษที่ได้รับการแต่งตั้งชุดเดิม ไม่ได้เพิ่มจำนวนจากชุดที่ควบคุมผู้ต้องขังคดีระเบิดราชประสงค์ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทหารเป็นหลัก
รายงานข่าวแจ้งว่า ในส่วนของ พ.ต.ต.ปรากรม เจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ในคอนโดมิเนียม ลาเมซอง 24 ซ.พหลโยธิน 24 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ซึ่งเป็นที่พักของ พ.ต.ต.ปรากรม ประกอบด้วย รถตู้ยี่ห้อโฟล์คสวาเกน รุ่นคาราเวล สีขาว ทะเบียน ฮพ 2 กรุงเทพมหานคร , รถเบนซ์ 3 คัน , รถยนต์โตโยต้า 2 คัน และมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ รวมทั้งอาวุธปืน วิทยุสื่อสาร ตลอดจนทรัพย์สินอื่นๆหลายรายการ ประกอบด้วย เงินสด พระเครื่อง ทองคำ และนาฬิกา เป็นต้น
ทั้งนี้ พระเครื่องที่ตรวจพบและยึดมานั้นส่วนใหญ่เป็นพระเครื่องในกลุ่มพระเบญจภาคี โดยพบว่ามีพระสมเด็จวัดระฆัง 2 องศ์ , พระสมเด็จนางพญา รวมถึงพระเครื่องมีชื่อราคาแพงหลายรายการ ซึ่งของกลางทั้งหมดของ พ.ต.ต.ปรากรม ที่ยึดได้นั้นจะนำไปตรวจสอบหาความเชื่อมโยง ที่มาที่ไปว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ ส่วนของอาวุธปืนของ พ.ต.ต.ปรากรม ที่ตรวจยึดมาได้นั้นจะนำไปยิงทดสอบเพื่อเก็บประวัติว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอื่นๆหรือไม่ เช่นเดียวกับทรัพย์สินมีค่าอื่นๆที่อยู่ระหว่างตรวจสอบที่มาที่ไปว่าได้มาจากการกระทำความผิดหรือไม่เช่นกัน
ส่วนการตรวจยึดทรัพย์สินของนายสุริยัน และนายจิรวงศ์ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบและตรวจยึดมาได้แล้วบางส่วน หลังจากเข้าตรวจสอบภายในบ้านเลขที่ 127/35 พหลโยธินปาร์ค คอนโดมิเนียม ซ.พหลโยธิน 14 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท ซึ่งหลังจากนี้จะตรวจสอบเช่นเดียวกับกรณีของ พ.ต.ต.ปรากรม โดยทรัพย์สินต่างๆที่ได้ตรวจยึดมาได้นั้น เบื้องต้นถูกเก็บรักษาไว้ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ด้านการยึด และอายัดทรัพย์สินผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย มีรายงานจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ว่า ปปง.ยังไม่ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเข้าไปใช้อำนาจ ปปง. ยึด และอายัดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด หากได้รับการประสานก็ต้องพิจารณาว่าเข้าความผิดมูลฐานกฎหมาย ปปง.หรือไม่ด้วย
สำหรับการควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ที่ถูกส่งตัวไปควบคุมอยู่ที่เรือนจำชั่วคราวภายในกองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 (พัน.ร.มทบ.11) นั้น ทางเรือนจำทำหน้าที่ในการดูแลภาพรวมทั่วไป และเรื่องอาหารการกินตามระเบียบราชทัณฑ์ ส่วนการควบคุมดูแลเป็นหน้าที่ของ “ผู้คุมพิเศษ” ที่มีทั้งทหารและผู้คุมจากเรือนจำ ซึ่งเป็นผู้คุมพิเศษที่ได้รับการแต่งตั้งชุดเดิม ไม่ได้เพิ่มจำนวนจากชุดที่ควบคุมผู้ต้องขังคดีระเบิดราชประสงค์ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทหารเป็นหลัก
