กลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนในซีเรีย (Syrian Observatory for Human Rights) อ้างในวันพุธ(21 ต.ค.) ว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ราย ในนั้นมีเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์รวมอยู่ด้วย จากเหตุเครื่องบินรบรัสเซียโจมตีใส่โรงพยาบาลสนามแห่งหนึ่ง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย
รามี อับเดล ราห์มาน ผู้อำนวยการศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรีย ซึ่งมีฐานบัญชาการที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ บอกกับเอเอฟพีว่า "มีผู้เสียชีวิต 13 รายในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย ถล่มคลินิกสนามแห่งหนึ่งในเมืองซาร์มินเมื่อวันอังคาร(20 ต.ค.) ในนั้นรวมถึงนักกายภาพบำบัด 1 ราย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 1 คนและสมาชิกหน่วยป้องกันพลเรือน"
คลินิกแห่งนี้ดำเนินการโดยสมาคมการแพทย์ซีเรีย-อเมริกา(SAMS) และทางเจ้าหน้าที่ของสมาคมแห่งนี้ยืนยันกับเอเอฟพีผ่านอีเมล์ว่าการโจมตีดังกล่าวก่อความเสียหายแก่โรงพยาบาลสนามของพวกเขาอย่างร้ายแรง
"เมื่อวานนี้ ตอนเวลา 13.00น. โรงพยาบาลสนามของ SAMS ใกล้เมืองซาร์มิน จังหวัดอิดลิบ ถูกโจมตี" เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวบอก "รายงานเบื้องต้นจากภาคสนามระบุว่าเราสูญเสียเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลไป 2 คน ได้แก่นักกายภาพบำบัด 1 คน และพยาบาล 1 คน"
เจ้าหน้าที่หญิงรายนี้ของ SAMS ไม่ได้เจาะจงโดยตรงว่าการโจมตีทางอากาศดังกล่าวเป็นฝีมือของเครื่องบินรัสเซีย แต่ทางผู้อำนวยการศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียฟันธงว่ามอสโกอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้
รามี อับเดล ราห์มาน ผู้อำนวยการศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรีย ซึ่งมีฐานบัญชาการที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ บอกกับเอเอฟพีว่า "มีผู้เสียชีวิต 13 รายในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย ถล่มคลินิกสนามแห่งหนึ่งในเมืองซาร์มินเมื่อวันอังคาร(20 ต.ค.) ในนั้นรวมถึงนักกายภาพบำบัด 1 ราย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 1 คนและสมาชิกหน่วยป้องกันพลเรือน"
คลินิกแห่งนี้ดำเนินการโดยสมาคมการแพทย์ซีเรีย-อเมริกา(SAMS) และทางเจ้าหน้าที่ของสมาคมแห่งนี้ยืนยันกับเอเอฟพีผ่านอีเมล์ว่าการโจมตีดังกล่าวก่อความเสียหายแก่โรงพยาบาลสนามของพวกเขาอย่างร้ายแรง
"เมื่อวานนี้ ตอนเวลา 13.00น. โรงพยาบาลสนามของ SAMS ใกล้เมืองซาร์มิน จังหวัดอิดลิบ ถูกโจมตี" เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวบอก "รายงานเบื้องต้นจากภาคสนามระบุว่าเราสูญเสียเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลไป 2 คน ได้แก่นักกายภาพบำบัด 1 คน และพยาบาล 1 คน"
เจ้าหน้าที่หญิงรายนี้ของ SAMS ไม่ได้เจาะจงโดยตรงว่าการโจมตีทางอากาศดังกล่าวเป็นฝีมือของเครื่องบินรัสเซีย แต่ทางผู้อำนวยการศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียฟันธงว่ามอสโกอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้