เมื่อวานนี้ (18 ต.ค.2558) กรมสอบสวนคดีพิเศษคาดว่าจะใช้เวลา 2 สัปดาห์ เพื่อสรุปว่าจะรับเรื่องผลกระทบเหมืองแร่ทองคำที่ จ.พิจิตร เป็นคดีพิเศษหรือไม่ หลังจากได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลด้านสุขภาพ และ สิ่งแวดล้อมของชาวชุมชนรอบเหมือง ส่วนการเจาะเลือดไปตรวจหาสารโลหะหนัก จะต้องขยายผลเพิ่มเติมให้ครบ 800 คน ภายในเดือนหน้า
สำหรับการตรวจเจาะเลือดชาวบ้านรอบเหมืองแร่ทองคำใช้เวลา 2 วัน โดย ทีมแพทย์จากกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ มหาวิทยาลัยรังสิต และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ขณะนี้ได้เจาะครบแล้ว จำนวน 506 คน ในจำนวนนี้ มีเด็ก 107 คน ซึ่งเป็นทั้งกลุ่มเก่า ที่เคยพบสารโลหะหนักเมื่อต้นปี 2558 กลุ่มใหม่ที่ไม่เคยตรวจและกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เพื่อหาค่าสารโลหะหนัก 3 ชนิด ได้แก่ ไซยาไนด์ แมงกานิส และสารหนูพร้อมเตรียมขยายการเจาะเพิ่ม ให้ครบประมาณ 800 คน ในปลายเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งเป็นการสุ่มจากจำนวนชาวบ้านที่มีกว่า 6,000 คน ใน 3 จังหวัด
ส่วนการเก็บตัวอย่างด้านสิ่งแวดล้อมพืช ดิน และ น้ำ เพื่อตรวจสอบสารปนเปื้อนนั้น คณะทำงาน 5 ฝ่าย จะลงพื้นที่เก็บตัวอย่างในอีกประมาณ 2 สัปดาห์โดยผลตรวจด้านสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม จะส่งต่อให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และ ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมหลายฝ่ายที่นายกรัฐมนตรี สั่งแต่งตั้ง มีกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นเจ้าภาพขณะที่ในช่วง 2 วันนี้ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ลงพื้นที่รอบเหมือง เพื่อพูดคุยกับชาวบ้านและดูสภาพแวดล้อมในชุมชน รวมทั้ง แปลงนาข้าว ที่ถูกซื้อจากบริษัทลูกของอัคราฯ เพื่อติดตามข้อมูลด้านเกษตรกรรมและวิถีชีวิตของชาวบ้าน ในจังหวัดพิจิตร และ เพชบูรณ์
นอกจากนี้ได้เก็บข้อมูลบริเวณใกล้กับบ่อกักเก็บกากแร่ เหมืองแร่ทองคำ ของ บริษัทอัครารีซอร์สเซส รวมถึง บริเวณวัด และ โรงเรียนร้างใน อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ซึ่งจากการประมวลข้อมูล คาดว่า จะเสนอเข้าที่ประชุม กรรมการคดีสอบสวนพิเศษได้ประมาณ 2 สัปดาห์ ว่าจะพิจารณาว่ารับเป็นคดีพิเศษ หรือไม่
ชาวบ้านที่เข้ารับการตรวจตั้งแต่เมื่อวานและวันนี้ อาศัยอยู่รอบเหมืองแร่ทองคำ 3 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร เพชรบูรณ์ และ พิษณุโลก หลายคน บอกว่า คาดหวังกับการทำงานและการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ และทีมแพทย์ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรมขณะที่ ตลอด 2 วันนี้ ตัวแทนบริษัทเหมืองแร่ทองคำ ส่งเจ้าหน้าที่มาสังเกตการณ์ แต่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมคณะทำงาน 5 ฝ่าย โดยแจ้งผ่านเลขานุการ กรรมการ 5 ฝ่าย ว่า ติดภารกิจอื่นซึ่งที่ประชุมกรรมการ 5 ฝ่ายเห็นว่า แม้ตัวแทนเหมืองจะไม่เข้าประชุม แต่ก็ไม่มีปัญหา เพราะยังมีอีก 4 ฝ่าย คือ ตัวแทนภาครัฐ นักวิชาการ ชาวบ้าน และ ฝ่ายทหาร เข้าร่วมและรับรองผลการเจาะเลือด ครั้งนี้
สำหรับการตรวจเจาะเลือดชาวบ้านรอบเหมืองแร่ทองคำใช้เวลา 2 วัน โดย ทีมแพทย์จากกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ มหาวิทยาลัยรังสิต และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ขณะนี้ได้เจาะครบแล้ว จำนวน 506 คน ในจำนวนนี้ มีเด็ก 107 คน ซึ่งเป็นทั้งกลุ่มเก่า ที่เคยพบสารโลหะหนักเมื่อต้นปี 2558 กลุ่มใหม่ที่ไม่เคยตรวจและกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เพื่อหาค่าสารโลหะหนัก 3 ชนิด ได้แก่ ไซยาไนด์ แมงกานิส และสารหนูพร้อมเตรียมขยายการเจาะเพิ่ม ให้ครบประมาณ 800 คน ในปลายเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งเป็นการสุ่มจากจำนวนชาวบ้านที่มีกว่า 6,000 คน ใน 3 จังหวัด
ส่วนการเก็บตัวอย่างด้านสิ่งแวดล้อมพืช ดิน และ น้ำ เพื่อตรวจสอบสารปนเปื้อนนั้น คณะทำงาน 5 ฝ่าย จะลงพื้นที่เก็บตัวอย่างในอีกประมาณ 2 สัปดาห์โดยผลตรวจด้านสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม จะส่งต่อให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และ ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมหลายฝ่ายที่นายกรัฐมนตรี สั่งแต่งตั้ง มีกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นเจ้าภาพขณะที่ในช่วง 2 วันนี้ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ลงพื้นที่รอบเหมือง เพื่อพูดคุยกับชาวบ้านและดูสภาพแวดล้อมในชุมชน รวมทั้ง แปลงนาข้าว ที่ถูกซื้อจากบริษัทลูกของอัคราฯ เพื่อติดตามข้อมูลด้านเกษตรกรรมและวิถีชีวิตของชาวบ้าน ในจังหวัดพิจิตร และ เพชบูรณ์
นอกจากนี้ได้เก็บข้อมูลบริเวณใกล้กับบ่อกักเก็บกากแร่ เหมืองแร่ทองคำ ของ บริษัทอัครารีซอร์สเซส รวมถึง บริเวณวัด และ โรงเรียนร้างใน อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ซึ่งจากการประมวลข้อมูล คาดว่า จะเสนอเข้าที่ประชุม กรรมการคดีสอบสวนพิเศษได้ประมาณ 2 สัปดาห์ ว่าจะพิจารณาว่ารับเป็นคดีพิเศษ หรือไม่
ชาวบ้านที่เข้ารับการตรวจตั้งแต่เมื่อวานและวันนี้ อาศัยอยู่รอบเหมืองแร่ทองคำ 3 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร เพชรบูรณ์ และ พิษณุโลก หลายคน บอกว่า คาดหวังกับการทำงานและการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ และทีมแพทย์ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรมขณะที่ ตลอด 2 วันนี้ ตัวแทนบริษัทเหมืองแร่ทองคำ ส่งเจ้าหน้าที่มาสังเกตการณ์ แต่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมคณะทำงาน 5 ฝ่าย โดยแจ้งผ่านเลขานุการ กรรมการ 5 ฝ่าย ว่า ติดภารกิจอื่นซึ่งที่ประชุมกรรมการ 5 ฝ่ายเห็นว่า แม้ตัวแทนเหมืองจะไม่เข้าประชุม แต่ก็ไม่มีปัญหา เพราะยังมีอีก 4 ฝ่าย คือ ตัวแทนภาครัฐ นักวิชาการ ชาวบ้าน และ ฝ่ายทหาร เข้าร่วมและรับรองผลการเจาะเลือด ครั้งนี้
