จากเหตุการณ์ชาวบ้านบุกเผารถทั้งของราชการและของตำรวจ แถมทำลายอาคาร สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต เสียหายยับ สาเหตุเพราะไม่พอใจที่ตำรวจขับรถยนต์สายตรวจไล่จับกุมรถ จยย.และเกิดเฉี่ยวชนกันเป็นเหตุให้นายปฐมวัฒน์ ปะณะรักษ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 4 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต คนขี่ กับนายโด่ง (นามสมมติ) อายุ 17 ปีเสียชีวิตทั้งคู่และยังพบยาบ้า 50 เม็ดในกระเป๋าของผู้เสียชีวิตด้วย หลังเกิดเหตุจลาจลพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอออกหมายจับแกนนำที่ก่อเหตุทั้ง 9 คน และล่าสุดมีกระแสข่าวออกมามีการเสนอออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 33 คนนั้น
ต่อมาวันที่ 17 ต.ค. ตั้งแต่เช้ามีกระแสข่าวสั่งโยกย้าย ผวจ.ภูเก็ต ออกนอกพื้นที่ เนื่องจากไม่สามารถจัดการหรือแก้ไขปัญหาการชุมนุมประท้วงที่หน้า สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ต่อเนื่องไปถึงวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมาจนเป็นเหตุให้บานปลายมีการเผารถ ทำลายทรัพย์สินของทางราชการเสียหายตลอดจนมีการรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจนได้รับบาดเจ็บหลายสิบนาย ขณะที่ผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องนี้จากนายจำเริญ ทิพยพงศ์ธาดา ผวจ.ภูเก็ตกล่าวว่า ยังไม่ทราบข้อมูลเรื่องนี้ต้องขอตรวจสอบก่อนว่าเป็นความจริงหรือไม่ ที่ผ่านมาตนทำตามหน้าที่อย่างเต็มที่ ไม่กังวลว่าจะมีคำสั่งย้ายแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงกระแสข่าวการออกหมายจับผู้ร่วมกระทำความผิดเกี่ยวกับการปิดล้อมเผาทำลายทรัพย์สินของทางราชการเพิ่มเติมอีก 33 ราย นอกเหนือจากที่ พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต ระบุก่อนหน้านี้ว่าจะมีการเสนอต่อศาลจังหวัดภูเก็ตพิจารณาอนุมัติออกหมายจับผู้ร่วมชุมนุมดังกล่าวเพียง 9 คนว่า ประเด็นนี้นายตำรวจที่เกี่ยวข้องในคดีต่างออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง แม้กระทั่ง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.ยังให้การปฏิเสธเกี่ยวกับการออกหมายจับ 33 คนเช่นกัน และจากการสอบถามพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบในคดียืนยันตอนนี้อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุดและละเอียดที่สุด โดยสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์และผู้เสียหายไปแล้วหลายสิบปาก
ส่วนกรณีของผู้ป่วยที่เดินทางมากับรถพยาบาลจาก รพ.กระบี่ ในวันเกิดเหตุเพื่อจะมารักษาตัวที่ รพ.กรุงเทพภูเก็ต แต่ถูกผู้ชุมนุมปิดล้อมโรงพักและปิดถนนทำให้รถพยาบาลไม่สามารถพาผู้ป่วยไปถึงมือหมอได้ทันเวลาจนเป็นเหตุให้ผู้ป่วยคนดังกล่าวเสียชีวิต เกี่ยวกับเรื่องนี้ญาติของผู้ป่วยเปิดเผยว่าจะรอให้เสร็จจากการฌาปนกิจศพในวันที่ 19 ต.ค.นี้ ก่อน จากนั้นจะเดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.ถลาง เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เป็นชนวนเหตุทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต แต่เบื้องต้นได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว
ต่อมาวันที่ 17 ต.ค. ตั้งแต่เช้ามีกระแสข่าวสั่งโยกย้าย ผวจ.ภูเก็ต ออกนอกพื้นที่ เนื่องจากไม่สามารถจัดการหรือแก้ไขปัญหาการชุมนุมประท้วงที่หน้า สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ต่อเนื่องไปถึงวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมาจนเป็นเหตุให้บานปลายมีการเผารถ ทำลายทรัพย์สินของทางราชการเสียหายตลอดจนมีการรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจนได้รับบาดเจ็บหลายสิบนาย ขณะที่ผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องนี้จากนายจำเริญ ทิพยพงศ์ธาดา ผวจ.ภูเก็ตกล่าวว่า ยังไม่ทราบข้อมูลเรื่องนี้ต้องขอตรวจสอบก่อนว่าเป็นความจริงหรือไม่ ที่ผ่านมาตนทำตามหน้าที่อย่างเต็มที่ ไม่กังวลว่าจะมีคำสั่งย้ายแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงกระแสข่าวการออกหมายจับผู้ร่วมกระทำความผิดเกี่ยวกับการปิดล้อมเผาทำลายทรัพย์สินของทางราชการเพิ่มเติมอีก 33 ราย นอกเหนือจากที่ พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต ระบุก่อนหน้านี้ว่าจะมีการเสนอต่อศาลจังหวัดภูเก็ตพิจารณาอนุมัติออกหมายจับผู้ร่วมชุมนุมดังกล่าวเพียง 9 คนว่า ประเด็นนี้นายตำรวจที่เกี่ยวข้องในคดีต่างออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง แม้กระทั่ง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.ยังให้การปฏิเสธเกี่ยวกับการออกหมายจับ 33 คนเช่นกัน และจากการสอบถามพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบในคดียืนยันตอนนี้อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุดและละเอียดที่สุด โดยสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์และผู้เสียหายไปแล้วหลายสิบปาก
ส่วนกรณีของผู้ป่วยที่เดินทางมากับรถพยาบาลจาก รพ.กระบี่ ในวันเกิดเหตุเพื่อจะมารักษาตัวที่ รพ.กรุงเทพภูเก็ต แต่ถูกผู้ชุมนุมปิดล้อมโรงพักและปิดถนนทำให้รถพยาบาลไม่สามารถพาผู้ป่วยไปถึงมือหมอได้ทันเวลาจนเป็นเหตุให้ผู้ป่วยคนดังกล่าวเสียชีวิต เกี่ยวกับเรื่องนี้ญาติของผู้ป่วยเปิดเผยว่าจะรอให้เสร็จจากการฌาปนกิจศพในวันที่ 19 ต.ค.นี้ ก่อน จากนั้นจะเดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.ถลาง เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เป็นชนวนเหตุทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต แต่เบื้องต้นได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว