xs
xsm
sm
md
lg

คลังดึงเอกชนใช้ที่“ราชพัสดุ-รฟท.”สร้างบ้านไม่เกิน 5 แสนช่วยผู้มีรายได้น้อย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และตัวแทนผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ ร่วมประชุมหารือเตรียมความพร้อมมาตรการส่งเสริมการให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยของรัฐบาล โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จากการประชุมได้แนวทางในการช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ต้องการมีที่อยู่อาศัย โดยจะเชิญภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งที่ประชุมสั่งการให้สำรวจที่ดินราชพัสดุที่เชื่อมโยงกับชุมชนเมือง แนวทางที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ร่วมหุ้นกันทำธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) เพื่อตอบแทนสังคม (CSR) ในการสร้างที่อยู่อาศัย เพื่อขายผู้มีรายได้น้อยโดยไม่คิดผลกำไร บนที่ดินราชพัสดุ หรือที่ดินของการรถไฟ ซึ่งเชื่อว่าความร่วมมือจากภาคเอกชน จะทำให้การขยายตัวของบ้านสำหรับผู้มีรายได้น้อย ขยายตัวได้เร็วขึ้น

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการร่วมกันพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ที่มีรายได้ครอบครัวละไม่เกินเดือนละ 15,000 บาท โดยใช้ที่ดินราชพัสดุ และการรถไฟแห่งประเทศไทย ทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด ในราคาไม่เกินยูนิตละ 5-6 แสนบาท ในทำเลชุมชน และไม่ซ้ำซ้อนกับโครงการบ้านมั่นคง ของการเคหะแห่งชาติ โดยให้สมาคมอสังหาริมทรัพย์ 3 สมาคม ไปหารือกับสมาชิก เพื่อลงขันทุนประเดิมสำหรับดำเนินโครงการ ภายใต้ประกาศสนับสนุนธุรกิจเพื่อสังคม ซึ่งสามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนภาษีได้ คาดว่าจะมีความชัดเจนใน 1 เดือน

ด้านนายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า พร้อมให้ความร่วมมือภาครัฐ โดยอาจก่อสร้างลักษณะแฟลต มากกว่าที่อยู่แนวราบ แต่เสนอให้ผ่อนเงื่อนไขก่อสร้างอีไอเอ เช่น ที่จอดรถ และถังน้ำสำรอง เป็นต้น โดยที่ประชุม ไม่มีการขอความร่วมมือให้ลดราคาที่อยู่อาศัยในตลาด แต่เชื่อว่าผู้ประกอบการจะลดราคาขาย เพื่อเร่งระบายสต็อก หลังสามารถประหยัดต้นทุนการเงินส่วนค่าโอนและจดจำนอง ตามมาตรการรัฐ

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย ในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า นโยบายกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลจะช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะการสร้างความมั่นใจให้กับตลาดและการเข้าถึงสินเชื่อของประชาชน ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจในภาพรวมดีขึ้นตามไปด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น