นายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีพรรคการเมืองที่ยังดำเนินการอยู่ 73 พรรค มีสาขาพรรค 380 สาขา และมีสมาชิกพรรคการเมือง จำนวน 5,127,196 ราย ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีการห้ามไม่ให้พรรคการเมืองดำเนินการประชุมหรือดำเนินกิจการใดๆ ในทางการเมือง และการดำเนินการเพื่อการจัดตั้งหรือจดทะเบียนพรรคการเมือง ให้ระงับไว้เป็นการชั่วคราว ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 57/2557 ส่วนการดำเนินการเกี่ยวกับกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง คณะกรรมการกองทุนฯ ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมได้พิจารณางบประมาณรายจ่ายของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 และได้รับทราบข้อมูลจากกรมสรรพากรว่ามีการแสดงเจตนาบริจาคเงินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้แก่พรรคการเมือง ประจำปีภาษี 2557 รวมทั้งสิ้นจำนวน 73 พรรค ผู้บริจาคภาษีจำนวน 113,877 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 11,387,700 บาท
ทั้งนี้ เมื่อกองทุนฯ ได้รับเงินดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว จะดำเนินการจัดส่งให้แก่พรรคการเมืองตามวงเงินที่ได้รับการบริจาคภาษีเงินได้ของแต่ละพรรคการเมืองต่อไป
นายธีรวัฒน์ กล่าวอีกว่า ยอดบริจาคภาษีให้กับพรรคการเมืองประจำปีภาษี 2557 ลดลงจากปีภาษีที่แล้ว โดยมียอดรวมผู้บริจาคภาษี 2556 ที่มีผู้บริจาคจำนวน 183,270 ราย ยอดเงินรวม 18,327,000 บาท ลดลงจำนวน 69,393 ราย คิดเป็นยอดเงินที่ลดลง 6,939,300 บาท ที่ประชุมกองทุนฯ จึงมอบหมายให้สำนักงาน กกต.เตรียมแนวทางในการรณรงค์และการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้เสียภาษีเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนพรรคการเมืองที่ชื่นชอบ ผ่านการบริจาคภาษี เพื่อร่วมส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างพรรคการเมืองให้มีความมั่นคงเข้มแข็ง และให้เป็นสถาบันทางการเมืองตามวิถีทางประชาธิปไตยอีกด้วย
ทั้งนี้ เมื่อกองทุนฯ ได้รับเงินดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว จะดำเนินการจัดส่งให้แก่พรรคการเมืองตามวงเงินที่ได้รับการบริจาคภาษีเงินได้ของแต่ละพรรคการเมืองต่อไป
นายธีรวัฒน์ กล่าวอีกว่า ยอดบริจาคภาษีให้กับพรรคการเมืองประจำปีภาษี 2557 ลดลงจากปีภาษีที่แล้ว โดยมียอดรวมผู้บริจาคภาษี 2556 ที่มีผู้บริจาคจำนวน 183,270 ราย ยอดเงินรวม 18,327,000 บาท ลดลงจำนวน 69,393 ราย คิดเป็นยอดเงินที่ลดลง 6,939,300 บาท ที่ประชุมกองทุนฯ จึงมอบหมายให้สำนักงาน กกต.เตรียมแนวทางในการรณรงค์และการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้เสียภาษีเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนพรรคการเมืองที่ชื่นชอบ ผ่านการบริจาคภาษี เพื่อร่วมส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างพรรคการเมืองให้มีความมั่นคงเข้มแข็ง และให้เป็นสถาบันทางการเมืองตามวิถีทางประชาธิปไตยอีกด้วย
