สืบเนื่องจากกรณี บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน)ยุคนายอำพน กิตติอำพน อดีตประธานกรรมการบริษัทฯ ยื่นฟ้อง 326 ล้านบาท จากการชุมนุมขอโบนัส โดยมีนางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพฯขณะนั้นเป็นแกนนำ ทำให้วันนี้พนักงานการบินไทยออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องขอความเป็นธรรม
นางแจ่มศรี เปิดเผยว่า จะมีการจัดเสวนา ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ หลักสี่ ในหัวข้อ "ละเมิดสิทธิแรงงาน ฟ้อง 326 ล้าน การบินไทยได้อะไร" ในวันที่ 5 ตุลาคม เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป โดยสหภาพฯและพนักงานการบินไทยจะนัดกันแต่งชุดดำมาร่วมงานด้วย
ทั้งนี้จากการที่พนักงานชุมนุมเพื่อขอโบนัสและขอให้ปรับขึ้นเงินเดือนประจำปี ในอัตราร้อยละ 7.5 เมื่อเดือนมกราคม 2556 เนื่องมาจากอดีตประธานกรรมการบริษัทฯ นายอำพน กิตติอำพน ประกาศว่า บริษัทฯมีผลกำไรเป็นที่น่าพอใจ แม้ในช่วงเวลานั้นจะไม่มีกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ จึงเป็นเหตุทำให้พนักงานร้องขอค่าตอบแทน เรื่องนี้หากจะมองกันอย่างผิวเผิน ก็อาจจะมองเพียงว่า เป็นปัญหาความขัดแย้งภายใน พนักงานชุมนุมเป็นเรื่องชั่วร้าย เป็นผู้ร้ายทำลายภาพลักษณ์ แต่ไม่มองไกลไปว่าการชุมนุมของพนักงานระดับล่าง ได้สะท้อนแง่มุมอะไรบ้างที่เป็นปัญหาจริงๆ ในองค์กร
“ จำได้ว่า ในคืนวันที่ 19 มกราคม 2556 แทบจะต้องกราบขอร้องให้พนักงานยุติการชุมนุม พนักงานยืนยันไม่ยอม ต้องใช้ความเป็นผู้หญิง ความเป็นมิตร ใช้สารพัดวาทะศิลป์กว่าที่จะยอมกันได้ เพราะสิ่งที่พนักงานยังไม่ได้ในคืนนั้น คือ การลาออกของอดีตประธานกรรมการบริษัทฯ ด้วยคำสัญญาว่า จะพยายามทำให้สำเร็จ พนักงานจึงยุติการชุมนุม”นางแจ่มศรีกล่าว
นางแจ่มศรี กล่าวต่อว่า เมื่อมีการฟ้องร้องเป็นคดี เรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องภายในอีกต่อไป องค์กรแรงงานทั้งในประเทศและต่างประเทศต่างให้ความสนใจและเห็นว่าเรื่องนี้เป็นการละเมิดสิทธิแรงงาน และอาจเป็นการจงใจเจตนาทำลายสหภาพแรงงานฯ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยตรวจสอบและถ่วงดุล ช่วยปกป้องผลประโยชน์ในรัฐวิสาหกิจ สหภาพแรงงานฯจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องช่วยกันรักษาไว้ ยิ่งรัฐวิสาหกิจบางแห่งที่มีชื่อเสียงด้านทุจริตคอรัปชั่น ไร้ธรรมาภิบาล ผู้บริหารขาดคุณธรรมและจริยธรรม การทำให้สหภาพแรงงานฯอ่อนแอจึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นกังวลอย่างยิ่งสำหรับคนรักชาติ
นางแจ่มศรี เปิดเผยว่า จะมีการจัดเสวนา ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ หลักสี่ ในหัวข้อ "ละเมิดสิทธิแรงงาน ฟ้อง 326 ล้าน การบินไทยได้อะไร" ในวันที่ 5 ตุลาคม เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป โดยสหภาพฯและพนักงานการบินไทยจะนัดกันแต่งชุดดำมาร่วมงานด้วย
ทั้งนี้จากการที่พนักงานชุมนุมเพื่อขอโบนัสและขอให้ปรับขึ้นเงินเดือนประจำปี ในอัตราร้อยละ 7.5 เมื่อเดือนมกราคม 2556 เนื่องมาจากอดีตประธานกรรมการบริษัทฯ นายอำพน กิตติอำพน ประกาศว่า บริษัทฯมีผลกำไรเป็นที่น่าพอใจ แม้ในช่วงเวลานั้นจะไม่มีกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ จึงเป็นเหตุทำให้พนักงานร้องขอค่าตอบแทน เรื่องนี้หากจะมองกันอย่างผิวเผิน ก็อาจจะมองเพียงว่า เป็นปัญหาความขัดแย้งภายใน พนักงานชุมนุมเป็นเรื่องชั่วร้าย เป็นผู้ร้ายทำลายภาพลักษณ์ แต่ไม่มองไกลไปว่าการชุมนุมของพนักงานระดับล่าง ได้สะท้อนแง่มุมอะไรบ้างที่เป็นปัญหาจริงๆ ในองค์กร
“ จำได้ว่า ในคืนวันที่ 19 มกราคม 2556 แทบจะต้องกราบขอร้องให้พนักงานยุติการชุมนุม พนักงานยืนยันไม่ยอม ต้องใช้ความเป็นผู้หญิง ความเป็นมิตร ใช้สารพัดวาทะศิลป์กว่าที่จะยอมกันได้ เพราะสิ่งที่พนักงานยังไม่ได้ในคืนนั้น คือ การลาออกของอดีตประธานกรรมการบริษัทฯ ด้วยคำสัญญาว่า จะพยายามทำให้สำเร็จ พนักงานจึงยุติการชุมนุม”นางแจ่มศรีกล่าว
นางแจ่มศรี กล่าวต่อว่า เมื่อมีการฟ้องร้องเป็นคดี เรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องภายในอีกต่อไป องค์กรแรงงานทั้งในประเทศและต่างประเทศต่างให้ความสนใจและเห็นว่าเรื่องนี้เป็นการละเมิดสิทธิแรงงาน และอาจเป็นการจงใจเจตนาทำลายสหภาพแรงงานฯ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยตรวจสอบและถ่วงดุล ช่วยปกป้องผลประโยชน์ในรัฐวิสาหกิจ สหภาพแรงงานฯจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องช่วยกันรักษาไว้ ยิ่งรัฐวิสาหกิจบางแห่งที่มีชื่อเสียงด้านทุจริตคอรัปชั่น ไร้ธรรมาภิบาล ผู้บริหารขาดคุณธรรมและจริยธรรม การทำให้สหภาพแรงงานฯอ่อนแอจึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นกังวลอย่างยิ่งสำหรับคนรักชาติ