xs
xsm
sm
md
lg

ทองคำร่วง ดาวโจนส์เด้งรับสัญญาณเฟดขึ้นดบ. น้ำมันปิดบวก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชัดเจนว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์-COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 8.20 ดอลลาร์ หรือ 0.71% ปิดที่ 1,145.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำร่วงลงเนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ

ทั้งนี้ ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังจากนางเยลเลนแถลงครั้งล่าสุดว่า เฟดมีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ตราบใดที่ภาวะเงินเฟ้อยังคงมีเสถียรภาพ และเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะหนุนการจ้างงาน

การส่งสัญญาณที่ชัดเจนของนางเยลเลนในครั้งนี้ ทำให้ความไม่แน่นอนในตลาดลดลงและยังบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐด้วย ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนลดความต้องการทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) โดยตลาดปรับตัวขึ้นขานรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดในไตรมาส 2 นอกจากนี้ การที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ ยังช่วยลดความไม่แน่นอนในตลาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,314.67 จุด เพิ่มขึ้น 113.35 จุด หรือ +0.70% ดัชนี แนสแด็ก ปิดที่ 4,686.50 จุด ลดลง 47.98 จุด หรือ -1.01% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,931.34 จุด ลดลง 0.90 จุด หรือ -0.05%

ส่วนตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงทั้งสิ้น 0.4% ขณะที่เอสแอนด์พี 500 ปรับลง 1.4% และแนสแด็ก ลดลง 2.9%

ดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า จีดีพีขั้นสุดท้ายสำหรับช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ขยายตัว 3.9% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 3.7% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 3.7% บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งขณะเข้าสู่ช่วงไตรมาส 3

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากที่นางเยลเลนแถลงว่า เฟดมีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ตราบใดที่ภาวะเงินเฟ้อยังคงมีเสถียรภาพ และเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะหนุนการจ้างงาน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) หลังจากมีรายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐปรับตัวลดลง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไป

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 79 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 45.7 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 48.6 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนหลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการข้อมูลด้านพลังงานของสหรัฐ ระบุว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐปรับตัวลดลง 4 แห่ง สู่ระดับ 640 แห่งในสัปดาห์นี้ ทำสถิติปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4

ขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 ก.ย. ลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 454 ล้านบาร์เรล ซึ่งปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน ลดลง 462,000 บาร์เรล สู่ระดับ 54 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ EIA คาดการณ์ว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบโดยเฉลี่ยของสหรัฐในปี 2558 จะอยู่ที่ 9.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และจะลดลงสู่ระดับ 8.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปี 2559
กำลังโหลดความคิดเห็น