กษัตริย์ซัลมานแห่งซาอุดีอาระเบีย สั่งลงโทษซาอุดี บินลาดิน กรุ๊ป เมื่อวันอังคาร(15ก.ย.) ต่ออุบัติเหตุเครนก่อสร้างล้มลงทับแกรนด์มัสยิดของนครเมกกะ ไม่กี่วันก่อนหน้าพิธีฮัจญ์ โดยสั่งห้ามครอบครัวผู้บริหารเดินทางออกนอกประเทศ รวมถึงจะถูกกีดกันการโครงการสาธารณะใหม่ๆจนกว่ากระบวนการทางกฎหมายจะสิ้นสุด
คณะกรรมการสืบสวนสรุปว่าบริษัทแห่งนี้ ซึ่งเป็นของครอบครัวนายอุซามะห์ บินลาดิน อดีตแกนนำอัลกออิดะห์ผู้ล่วงลับ ต้องรับผิดชอบบางส่วนต่อโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นท่ามกลางพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเมื่อวันศุกร์(11ก.ย.) คร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 107 ศพและได้รับบาดเจ็บเกือบ 400 คน
สำนักข่าวซาอุดีเพรส สื่อแห่งรัฐ รายงานว่าบริษัทไม่เคารพมาตรฐานความปลอดภัย ณ บริเวณก่อสร้าง ดังนั้นเหล่าคณะผู้บริหารถูกห้ามออกนอกประเทศจนกว่าเสร็จสิ้นกระบวนการทางกฎหมายที่มีต่อบริษัท นอกจากนี้ในช่วงเวลาเดียวกัน ทางบริษัทจะถูกกีดกันจากโครงการสาธารณะใหม่ๆด้วย
บริษัทแห่งนี้กำลังดำเนินโครงการขนาดยักษ์ 4 ปี ขยายเนื้อที่ของมัสยิดอีก 400,000 ตารางเมตร เพื่อให้สามารถรองรับนักแสวงบุญได้สูงสุด 2.2 ล้านคน และด้วยเหตุนี้มัสยิดจึงรายล้อมไปด้วยเครนจำนวนมาก
คณะกรรมการสืบสวนสรุปว่าบริษัทแห่งนี้ ซึ่งเป็นของครอบครัวนายอุซามะห์ บินลาดิน อดีตแกนนำอัลกออิดะห์ผู้ล่วงลับ ต้องรับผิดชอบบางส่วนต่อโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นท่ามกลางพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเมื่อวันศุกร์(11ก.ย.) คร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 107 ศพและได้รับบาดเจ็บเกือบ 400 คน
สำนักข่าวซาอุดีเพรส สื่อแห่งรัฐ รายงานว่าบริษัทไม่เคารพมาตรฐานความปลอดภัย ณ บริเวณก่อสร้าง ดังนั้นเหล่าคณะผู้บริหารถูกห้ามออกนอกประเทศจนกว่าเสร็จสิ้นกระบวนการทางกฎหมายที่มีต่อบริษัท นอกจากนี้ในช่วงเวลาเดียวกัน ทางบริษัทจะถูกกีดกันจากโครงการสาธารณะใหม่ๆด้วย
บริษัทแห่งนี้กำลังดำเนินโครงการขนาดยักษ์ 4 ปี ขยายเนื้อที่ของมัสยิดอีก 400,000 ตารางเมตร เพื่อให้สามารถรองรับนักแสวงบุญได้สูงสุด 2.2 ล้านคน และด้วยเหตุนี้มัสยิดจึงรายล้อมไปด้วยเครนจำนวนมาก