พ.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการประสานกับทางการมาเลเชียล่าสุด ยอมรับว่า มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยพัวพันคดีระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทรได้จริง โดยเป็นชาวมาเลเชีย 2 คน และชาวปากีสถานอีก 1 คน ฐานลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดทั้งสองจุดหรือไม่ ซึ่งต้องมีพยานหลักฐานที่แน่ชัดว่า มีการกระทำผิดในไทย จึงเข้าสู่ขั้นตอนการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้
ทั้งนี้ มีข้อมูลว่า ทั้ง 3 คนนี้ไม่ใช่บุคคลที่ทางการไทยต้องการตัว แต่อาจเป็นกลุ่มคนที่พาผู้ต้องหาในคดีระเบิดหลบหนี ซึ่งต้องรอการสอบสวนจากทางการมาเลเซียอีกครั้ง และตำรวจไทย ยังคงติดตามการข่าวของชายเสื้อเหลืองและเสื้อฟ้า ที่ถูกออกหมายจับอย่างใกล้ชิด เนื่องจากคาดว่ายังเคลื่อนไหวอยู่บริเวณชายแดนไทย-มาเลเชีย
พ.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวถึงการติดตามตัว นายอาบูดูซาตาร์ อบูดูเระห์มาน หรือ อีซานว่า จากข้อมูลพบว่า นายอีซาน ใช้พาสปอร์ตเล่มเดียวกัน เดินทางออกจากประเทศบังกลาเทศ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ไปยังกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ก่อนไปยังเมืองอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ และมีปลายทางที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ซึ่งภายในสัปดาห์นี้ทางการไทยจะทำหนังสือไปยังสถานทูตตุรกี เพื่อขอเข้าพบและสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม
ทั้งนี้ มีข้อมูลว่า ทั้ง 3 คนนี้ไม่ใช่บุคคลที่ทางการไทยต้องการตัว แต่อาจเป็นกลุ่มคนที่พาผู้ต้องหาในคดีระเบิดหลบหนี ซึ่งต้องรอการสอบสวนจากทางการมาเลเซียอีกครั้ง และตำรวจไทย ยังคงติดตามการข่าวของชายเสื้อเหลืองและเสื้อฟ้า ที่ถูกออกหมายจับอย่างใกล้ชิด เนื่องจากคาดว่ายังเคลื่อนไหวอยู่บริเวณชายแดนไทย-มาเลเชีย
พ.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวถึงการติดตามตัว นายอาบูดูซาตาร์ อบูดูเระห์มาน หรือ อีซานว่า จากข้อมูลพบว่า นายอีซาน ใช้พาสปอร์ตเล่มเดียวกัน เดินทางออกจากประเทศบังกลาเทศ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ไปยังกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ก่อนไปยังเมืองอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ และมีปลายทางที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ซึ่งภายในสัปดาห์นี้ทางการไทยจะทำหนังสือไปยังสถานทูตตุรกี เพื่อขอเข้าพบและสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม