นายนิพนธ์ วิชัยรัตน รักษาผู้อำนวยการสวนสัตว์ เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในการผสมเทียมแม่แพนด้า หลินฮุ่ย เป็นวันที่ 84 หลินฮุ่ย มีพัฒนาการเพิ่มขึ้นให้เห็นหลังจากเมื่อวานนี้พบสัญญาณชีพการเต้นของกล้ามเนื้อ สร้างความตื้นเต้น และเห็นโครงสร้างของร่างกายกระดูกให้เห็นจนทำให้แน่ชัดว่า เป็นลูกแพนด้าอย่างแน่นอน สำหรับเช้าวันนี้หลินฮุ่ย เริ่มมีการแสดงพฤติกรรมของการกินหน่อไม้มากขึ้น ไม่เหมือนช่วงก่อนผสมพันธุ์
อย่างไรก็ตาม สังเกตได้ว่าใกล้เข้าสู่การตกลูกแล้วนอนเพิ่มขึ้นเป็นเช้าแรกนี้ให้เห็นกินอาหารเสร็จแล้วขึ้นไปนอนหลับบริเวณจุดเดิมใกล้ปากทางเข้าออกคอกกัก แบบสบายใจ แต่นอนจากเดิมทุกครั้ง 10 -20 นาที จะตื้นขึ้นมาเดินวน แต่ครั้งนี้กินแล้วนอนนานเกือบ 2 ชั่วโมง พอถึงช่วงให้อาหารก็ลงมากินโดยเน้นกินหน่อไม้เป็นหลัก คาดการณ์จะเป็นระยะเวลาของการเก็บพลังงานของแม่ เพื่อเตรียมรอคลอดแล้วเพราะเป็นระยะใกล้เกิดหลินปิง ที่กินมากแล้วนอนมากขึ้น อาจจะใกล้เคียงระยะตกหลินปิงที่ 97 วัน ทีมงานพี่เลี้ยงเฝ้าติดตามตั้งแต่ 00.00 - 08.00 น. หลินอุ่ยนอนหลับเที่ยง คืนจนถึง 05.28 น. จึงตื่นขึ้นมานั่งกินไผ่ใช้เวลา 1.45 ชั่วโมง และเริ่มกลับไปนอนนอีกครั้งจนถึง 07.13 น. แสดงให้กินมากขึ้น และนอนมากขึ้น การขับถ่ายปกติ และมีน้ำหนักตัวถึง 124.5 กิโลกรัม
นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า ในระยะนี้ ต้องให้ทีมพี่เลี้ยงเฝ้าติดตามแม่หลินฮุ่ย อย่างใกล้ชิด โดยผ่านกล้องวีดีโอวงจรปิด เมื่อมีพฤติกรรมอาการเปลี่ยนแปลง ที่จะคลอดจะต้องดำเนินการโดยทีมสัตวแพทย์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม สังเกตได้ว่าใกล้เข้าสู่การตกลูกแล้วนอนเพิ่มขึ้นเป็นเช้าแรกนี้ให้เห็นกินอาหารเสร็จแล้วขึ้นไปนอนหลับบริเวณจุดเดิมใกล้ปากทางเข้าออกคอกกัก แบบสบายใจ แต่นอนจากเดิมทุกครั้ง 10 -20 นาที จะตื้นขึ้นมาเดินวน แต่ครั้งนี้กินแล้วนอนนานเกือบ 2 ชั่วโมง พอถึงช่วงให้อาหารก็ลงมากินโดยเน้นกินหน่อไม้เป็นหลัก คาดการณ์จะเป็นระยะเวลาของการเก็บพลังงานของแม่ เพื่อเตรียมรอคลอดแล้วเพราะเป็นระยะใกล้เกิดหลินปิง ที่กินมากแล้วนอนมากขึ้น อาจจะใกล้เคียงระยะตกหลินปิงที่ 97 วัน ทีมงานพี่เลี้ยงเฝ้าติดตามตั้งแต่ 00.00 - 08.00 น. หลินอุ่ยนอนหลับเที่ยง คืนจนถึง 05.28 น. จึงตื่นขึ้นมานั่งกินไผ่ใช้เวลา 1.45 ชั่วโมง และเริ่มกลับไปนอนนอีกครั้งจนถึง 07.13 น. แสดงให้กินมากขึ้น และนอนมากขึ้น การขับถ่ายปกติ และมีน้ำหนักตัวถึง 124.5 กิโลกรัม
นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า ในระยะนี้ ต้องให้ทีมพี่เลี้ยงเฝ้าติดตามแม่หลินฮุ่ย อย่างใกล้ชิด โดยผ่านกล้องวีดีโอวงจรปิด เมื่อมีพฤติกรรมอาการเปลี่ยนแปลง ที่จะคลอดจะต้องดำเนินการโดยทีมสัตวแพทย์ต่อไป