นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 2558 มีโอกาสขยายตัวร้อยละ 3.1 โดยปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจโลก ตัวเลขการส่งออกทั้งปีซึ่งขณะนี้มีโอกาสติดลบร้อยละ 4.8 อัตราเงินเฟ้อทั้งปีจะติดลบร้อยละ 0.6
สำหรับปัจจัยบวกสำหรับเศรษฐกิจปี 2558 ประกอบด้วย การเมืองที่มีเสถียรภาพ ท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มขยายตัวที่ดี และที่สำคัญมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ออกมาล่าสุด โดยเชื่อว่าการใช้เม็ดเงินผ่านโครงการสำคัญทั้งกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองและโครงการลงทุนขนาดเล็กที่ใช้เงินไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งโครงการเหล่านี้จะทำให้เม็ดเงินไหลไปสู่เศรษฐกิจโดยเร็ว จากเม็ดเงิน 130,000 ล้านบาท เพิ่มเป็น 2 เท่า เป็น 260,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเหล่านี้อาจไม่ส่งผลชัดเจนในปี 2558 เนื่องจากโครงการต่าง ๆ อาจมีการเบิกจ่ายเงินจริงเดือนพฤศจิกายนถึงสิ้นปี แต่เม็ดเงินเหล่านี้จะส่งผลชัดเจนไตรมาส 1 ปี 2559 ส่วนปัจจัยลบปี 2558 ยังเป็นเรื่องเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวไม่ชัดเจน ปัญหาภัยแล้งที่มียาวนาน และราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ รวมถึงเศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มชะลอตัว
ส่วนปี 2559 หอการค้าไทยเชื่อว่าปัจจัยบวกในเรื่องเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจจะเริ่มมีผลชัดเจน สถานการณ์การเมืองในประเทศที่มีเสถียรภาพ การท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง โครงการลงทุนภาครัฐที่เห็นผลชัดเจนมากขึ้น เมื่อเทียบกับปี 2558 ดังนั้น ปี 2559 เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้มากกว่าร้อยละ 4 หรือร้อยละ 4.2 โดยเชื่อว่าการส่งออกทั้งปีจะปรับตัวดีขึ้นขยายตัวประมาณร้อยละ 5.3 อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 1.4
สำหรับปัจจัยบวกสำหรับเศรษฐกิจปี 2558 ประกอบด้วย การเมืองที่มีเสถียรภาพ ท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มขยายตัวที่ดี และที่สำคัญมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ออกมาล่าสุด โดยเชื่อว่าการใช้เม็ดเงินผ่านโครงการสำคัญทั้งกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองและโครงการลงทุนขนาดเล็กที่ใช้เงินไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งโครงการเหล่านี้จะทำให้เม็ดเงินไหลไปสู่เศรษฐกิจโดยเร็ว จากเม็ดเงิน 130,000 ล้านบาท เพิ่มเป็น 2 เท่า เป็น 260,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเหล่านี้อาจไม่ส่งผลชัดเจนในปี 2558 เนื่องจากโครงการต่าง ๆ อาจมีการเบิกจ่ายเงินจริงเดือนพฤศจิกายนถึงสิ้นปี แต่เม็ดเงินเหล่านี้จะส่งผลชัดเจนไตรมาส 1 ปี 2559 ส่วนปัจจัยลบปี 2558 ยังเป็นเรื่องเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวไม่ชัดเจน ปัญหาภัยแล้งที่มียาวนาน และราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ รวมถึงเศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มชะลอตัว
ส่วนปี 2559 หอการค้าไทยเชื่อว่าปัจจัยบวกในเรื่องเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจจะเริ่มมีผลชัดเจน สถานการณ์การเมืองในประเทศที่มีเสถียรภาพ การท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง โครงการลงทุนภาครัฐที่เห็นผลชัดเจนมากขึ้น เมื่อเทียบกับปี 2558 ดังนั้น ปี 2559 เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้มากกว่าร้อยละ 4 หรือร้อยละ 4.2 โดยเชื่อว่าการส่งออกทั้งปีจะปรับตัวดีขึ้นขยายตัวประมาณร้อยละ 5.3 อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 1.4
