ชาวบ้านชุมชนศรีปทุม ซอยศรีปทุม หมู่ 19 ถนนพหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ประมาณ 100 คนเข้าปิดล้อมเจ้าหน้าที่จากบริษัท กรีนทาวน์ กรีนทาวน์ เรียลเอสเตท นำรถแบ็กโฮเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของสำนักสงฆ์ภายในชุมชนศรีปทุม หลังจากบริษัทมีเอกสารแสดงว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินตามที่ตั้งดังกล่าว สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านจนเกิดการปะทะกันอย่างดุเดือด เนื่องจากกลุ่มชาวบ้านต้องการให้ทางบริษัทหยุดการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างจนกว่าจะมีคำสั่งจากศาลให้รื้อถอน ทำให้เจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจเข้าควบคุมสถานการณ์และเจรจาหาข้อยุติ โดยข้อสรุปในเบื้องต้นคือขอให้ทางบริษัทนำเครื่องจักรใหญ่ และกำลังคนออกไปจากพื้นที่สำนักสงฆ์ก่อน ทำให้ชาวบ้านในชุมชนยินยอมและหยุดการปะทะ พร้อมทั้งแยกย้ายกันไป โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
ชาวบ้านชุมชนศรีปทุมรายหนึ่ง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางชาวบ้านได้มาจับจองอาศัยอยู่กันมานานกว่า 10 ปี โดยมีคนติดต่อกันมา และมีการซื้อขาย จับจองกันในราคา 500-2,000 บาท ระยะหลังมีชาวบ้านเข้ามาอาศัยอีก ทำให้มีการซื้อขายที่กัน แต่เมื่อมีทางบริษัทเข้ามาแจ้งว่า เป็นเจ้าของที่ เพราะถือว่าอาศัยอยู่กันมานานแล้ว แต่การฟ้องร้องเรื่องการรื้อถอนยังไม่เสร็จสิ้น ทำให้ชาวบ้านไม่ยินยอมออกไปจากพื้นที่ดังกล่าว
ด้านนายชัยโรจน์ สนธิชัยเกียรติ ตัวแทนบริษัท กล่าวว่า ชาวชุมชนศรีปทุมกว่า 400 หลังคาเรือน มีข้อพิพาทกัน ระหว่างบริษัทหลังจากที่ทางบริษัทได้ไถ่ถอนที่ดินจำนวน 177 ไร่ โดยทางบริษัทได้ติดประกาศไว้ที่ปากทางเข้าว่าบริษัทมีสิทธิ์อันชอบธรรมภายใต้กรอบของกฏหมายถูกต้อง ขอให้ชาวบ้านมาลงทะเบียน และเข้าเจรจาเรื่องค่ารื้อถอน ภายในวันที่ 31 ส.ค.นี้ จากนั้นจะดำเนินการนำเครื่องจักรเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในที่ดินของบริษัท
กระทั่งเมื่อจะเข้ามารื้อถอนสำนักสงฆ์ ทั้งที่ทางพระสงฆ์ที่สำนักสงฆ์ยินยอมคืนพื้นที่ให้แล้ว และมีการจ่ายค่ารื้อถอนให้พระสงฆ์ไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนวัสดุที่สามารถใช้ได้หลังจากการรื้อถอนจะส่งไปให้กับทางพระสงฆ์ แต่เมื่อนำกำลังคนเข้ามารื้อถอน ทางชาวบ้านกลับไม่ยินยอมให้รื้อ และเกิดการปะทะกันจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจมาช่วยควบคุมสถานการณ์
ชาวบ้านชุมชนศรีปทุมรายหนึ่ง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางชาวบ้านได้มาจับจองอาศัยอยู่กันมานานกว่า 10 ปี โดยมีคนติดต่อกันมา และมีการซื้อขาย จับจองกันในราคา 500-2,000 บาท ระยะหลังมีชาวบ้านเข้ามาอาศัยอีก ทำให้มีการซื้อขายที่กัน แต่เมื่อมีทางบริษัทเข้ามาแจ้งว่า เป็นเจ้าของที่ เพราะถือว่าอาศัยอยู่กันมานานแล้ว แต่การฟ้องร้องเรื่องการรื้อถอนยังไม่เสร็จสิ้น ทำให้ชาวบ้านไม่ยินยอมออกไปจากพื้นที่ดังกล่าว
ด้านนายชัยโรจน์ สนธิชัยเกียรติ ตัวแทนบริษัท กล่าวว่า ชาวชุมชนศรีปทุมกว่า 400 หลังคาเรือน มีข้อพิพาทกัน ระหว่างบริษัทหลังจากที่ทางบริษัทได้ไถ่ถอนที่ดินจำนวน 177 ไร่ โดยทางบริษัทได้ติดประกาศไว้ที่ปากทางเข้าว่าบริษัทมีสิทธิ์อันชอบธรรมภายใต้กรอบของกฏหมายถูกต้อง ขอให้ชาวบ้านมาลงทะเบียน และเข้าเจรจาเรื่องค่ารื้อถอน ภายในวันที่ 31 ส.ค.นี้ จากนั้นจะดำเนินการนำเครื่องจักรเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในที่ดินของบริษัท
กระทั่งเมื่อจะเข้ามารื้อถอนสำนักสงฆ์ ทั้งที่ทางพระสงฆ์ที่สำนักสงฆ์ยินยอมคืนพื้นที่ให้แล้ว และมีการจ่ายค่ารื้อถอนให้พระสงฆ์ไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนวัสดุที่สามารถใช้ได้หลังจากการรื้อถอนจะส่งไปให้กับทางพระสงฆ์ แต่เมื่อนำกำลังคนเข้ามารื้อถอน ทางชาวบ้านกลับไม่ยินยอมให้รื้อ และเกิดการปะทะกันจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจมาช่วยควบคุมสถานการณ์
