ความคืบหน้าคดีระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร หลังมีการจับกุมผู้ต้องหาเป็นชายชาวต่างชาติได้ที่ย่านหนองจอก พร้อมของกลาง
ที่กองบัญชาการตำรวจสันติบาล มีการประชุมชุดสืบสวน ซึ่งพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การเรียกประชุมชุดทีมสืบสวนวันนี้ เพื่อวางแผนการทำงาน พร้อมเน้นย้ำนโยบายในการสืบสวนสอบสวน เพื่อขยายผลหาผู้เข้าร่วมขบวนการ โดยขอไม่เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ พร้อมเชิญคนขับรถแท็กซี่ที่น่าจะมีส่วนเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ มาสอบปากคำในฐานะพยาน โดยคนขับรถแท็กซี่ยังให้การสับสนวกวน และยังไม่ได้มีการสอบปากคำลงรายละเอียดเชิงลึกว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร
ขณะที่การสอบปากคำผู้ต้องหาชาวต่างชาติที่จับได้ การดำเนินการตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของทหาร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเชิญล่ามที่สามารถพูดภาษาตุรกีได้และอีกหนึ่งภาษาซึ่งยังไม่ได้ระบุว่าภาษาใดเพื่อมาร่วมทีมสอบสวน
ทั้งนี้ จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาที่ควบคุมได้ เป็นบุคคลสำคัญในขบวนการระเบิด แต่ยังไม่ทราบว่าทำหน้าที่อะไร ขณะที่การตรวจค้นห้องพัก พบอุปกรณ์วัตถุประกอบระเบิดเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าขบวนการดังกล่าวจะเตรียมไว้สำหรับการก่อเหตุระเบิดอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน จากการตรวจค้นเบื้องต้น เจ้าหน้าที่พบหนังสือเดินทางในห้องพักกว่า 250 เล่ม เป็นหนังสือเดินทางปลอมทั้งหมด มี 10 กว่าเล่มที่ใช้ไปแล้ว จึงทำให้ตำรวจไม่สามารถยืนยันสัญชาติของผู้ต้องหาได้ พร้อมกันนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเพื่อค้นหาหลักฐานเพิ่มเติม ในบริเวณห้องพักของผู้ต้องหา ส่วนจะมีการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการสอบปากคำผู้ต้องหา
ส่วนกระแสข่าวที่คาดว่า ขบวนการนี้เตรียมก่่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายอีกครั้ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบมีความเป็นไปได้สูง แต่ในประเทศไทยยังไม่เคยมี ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องทำการตรวจสอบชิ้นส่วนอย่างละเอียดอีกครั้ง
ที่กองบัญชาการตำรวจสันติบาล มีการประชุมชุดสืบสวน ซึ่งพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การเรียกประชุมชุดทีมสืบสวนวันนี้ เพื่อวางแผนการทำงาน พร้อมเน้นย้ำนโยบายในการสืบสวนสอบสวน เพื่อขยายผลหาผู้เข้าร่วมขบวนการ โดยขอไม่เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ พร้อมเชิญคนขับรถแท็กซี่ที่น่าจะมีส่วนเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ มาสอบปากคำในฐานะพยาน โดยคนขับรถแท็กซี่ยังให้การสับสนวกวน และยังไม่ได้มีการสอบปากคำลงรายละเอียดเชิงลึกว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร
ขณะที่การสอบปากคำผู้ต้องหาชาวต่างชาติที่จับได้ การดำเนินการตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของทหาร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเชิญล่ามที่สามารถพูดภาษาตุรกีได้และอีกหนึ่งภาษาซึ่งยังไม่ได้ระบุว่าภาษาใดเพื่อมาร่วมทีมสอบสวน
ทั้งนี้ จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาที่ควบคุมได้ เป็นบุคคลสำคัญในขบวนการระเบิด แต่ยังไม่ทราบว่าทำหน้าที่อะไร ขณะที่การตรวจค้นห้องพัก พบอุปกรณ์วัตถุประกอบระเบิดเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าขบวนการดังกล่าวจะเตรียมไว้สำหรับการก่อเหตุระเบิดอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน จากการตรวจค้นเบื้องต้น เจ้าหน้าที่พบหนังสือเดินทางในห้องพักกว่า 250 เล่ม เป็นหนังสือเดินทางปลอมทั้งหมด มี 10 กว่าเล่มที่ใช้ไปแล้ว จึงทำให้ตำรวจไม่สามารถยืนยันสัญชาติของผู้ต้องหาได้ พร้อมกันนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเพื่อค้นหาหลักฐานเพิ่มเติม ในบริเวณห้องพักของผู้ต้องหา ส่วนจะมีการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการสอบปากคำผู้ต้องหา
ส่วนกระแสข่าวที่คาดว่า ขบวนการนี้เตรียมก่่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายอีกครั้ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบมีความเป็นไปได้สูง แต่ในประเทศไทยยังไม่เคยมี ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องทำการตรวจสอบชิ้นส่วนอย่างละเอียดอีกครั้ง