พล.ต.อธิวัฒน์ สุ่นปาน ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทยูฟัน สโตร์ จำกัด และนางจิราภิมณช์ สุ่นปาน ภรรยา ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีแชร์ลูกโซ่บริษัทยูฟัน สโตร์ จำกัด ซึ่งเดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกา ได้เข้ามอบตัวต่อ พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หลังทั้งสองคนหลบหนีไปที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 เม.ย.58 ก่อนส่งลูกชายซึ่งเป็นทนายความ ทำหนังสือถึงตำรวจว่าจะเดินทางกลับจากประเทศสหรัฐอเมริกา และเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่
โดย พล.ต.อธิวัฒน์ เปิดเผยว่า นายอาทิตย์ ปานแก้ว ผู้ต้องหารายสำคัญอีก 1 คน ในคดีนี้ เป็นผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุนกับบริษัทยูฟัน และยืนยันว่าตัวเองไม่มีตำแหน่งและอำนาจบริหารในบริษัทยูฟัน เป็นเพียงที่ปรึกษาที่ได้รับความไว้วางใจเท่านั้น พร้อมได้รับค่าตอบแทนเป็นรายเดือน และยอมรับว่าเคยพูดคุยกับ นายแดเนียล เต ประธานบริษัทยูฟัน ของประเทศมาเลเซีย แต่ภายหลังตำรวจดำเนินคดีนี้ก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก
ทั้งนี้ พล.ต.อธิวัฒน์ อ้างว่า ตัวเองก็ถูกหลอกให้ร่วมลงทุนกับบริษัทยูฟันเช่นกัน พร้อมฝากถึงผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีให้เข้ามอบตัว โดยเชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจ และยืนยันว่าไม่เคยคิดหลบหนี แต่การเดินทางไปสหรัฐอเมริกาได้มีการวางแผนเดินทางไว้ล่วงหน้า แต่ขณะนี้มีความพร้อมจึงเดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ และปฎิเสธไม่ตอบคำถาม กรณีการปลอมแปลงยศเป็น พล.ท.
สำหรับ พล.ต.อธิวัฒน์ และนางจิราภิมณช์ ภรรยา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาลำดับที่ 81 และ 82 ถูกควบคุมตัว และเป็นผู้ต้องหารายสำคัญระดับต้นและเป็นที่ต้องการตัวของตำรวจ จากการสืบสวนพบว่า พล.ต.อธิวัฒน์ เป็นผู้บริหารระดับสูง มีอำนาจในการสั่งการบริษัทยูฟัน และเป็นตัวแทนบริษัท ในการลงนามหรือทำสัญญาต่างๆ เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ แก่ผู้ร่วมลงทุนกับบริษัทยูฟัน และจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.พบว่า พล.ต.อธิวัฒน์ และภรรยา มีการทำธุรกรรมรับโอนเงินกับบริษัทยูฟัน มีเงินหมุนเวียนกว่า 53 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว พล.ต.อธิวัฒน์ และภรรยา ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ.เพื่อดำเนินคดี ส่วนการพิจารณาให้ประกันตัวหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนเป็นผู้พิจารณา
โดย พล.ต.อธิวัฒน์ เปิดเผยว่า นายอาทิตย์ ปานแก้ว ผู้ต้องหารายสำคัญอีก 1 คน ในคดีนี้ เป็นผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุนกับบริษัทยูฟัน และยืนยันว่าตัวเองไม่มีตำแหน่งและอำนาจบริหารในบริษัทยูฟัน เป็นเพียงที่ปรึกษาที่ได้รับความไว้วางใจเท่านั้น พร้อมได้รับค่าตอบแทนเป็นรายเดือน และยอมรับว่าเคยพูดคุยกับ นายแดเนียล เต ประธานบริษัทยูฟัน ของประเทศมาเลเซีย แต่ภายหลังตำรวจดำเนินคดีนี้ก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก
ทั้งนี้ พล.ต.อธิวัฒน์ อ้างว่า ตัวเองก็ถูกหลอกให้ร่วมลงทุนกับบริษัทยูฟันเช่นกัน พร้อมฝากถึงผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีให้เข้ามอบตัว โดยเชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจ และยืนยันว่าไม่เคยคิดหลบหนี แต่การเดินทางไปสหรัฐอเมริกาได้มีการวางแผนเดินทางไว้ล่วงหน้า แต่ขณะนี้มีความพร้อมจึงเดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ และปฎิเสธไม่ตอบคำถาม กรณีการปลอมแปลงยศเป็น พล.ท.
สำหรับ พล.ต.อธิวัฒน์ และนางจิราภิมณช์ ภรรยา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาลำดับที่ 81 และ 82 ถูกควบคุมตัว และเป็นผู้ต้องหารายสำคัญระดับต้นและเป็นที่ต้องการตัวของตำรวจ จากการสืบสวนพบว่า พล.ต.อธิวัฒน์ เป็นผู้บริหารระดับสูง มีอำนาจในการสั่งการบริษัทยูฟัน และเป็นตัวแทนบริษัท ในการลงนามหรือทำสัญญาต่างๆ เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ แก่ผู้ร่วมลงทุนกับบริษัทยูฟัน และจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.พบว่า พล.ต.อธิวัฒน์ และภรรยา มีการทำธุรกรรมรับโอนเงินกับบริษัทยูฟัน มีเงินหมุนเวียนกว่า 53 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว พล.ต.อธิวัฒน์ และภรรยา ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ.เพื่อดำเนินคดี ส่วนการพิจารณาให้ประกันตัวหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนเป็นผู้พิจารณา