พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รองผู้บังคับการกองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. แถลงผลการจับกุมตัว นายวินัย เฮงยศมาก ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ได้รายที่ 59 คดีแชร์ลูกโซ่ยูฟันสโตร์ จำกัด ในข้อหา ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันกระทำความผิดการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ถูกตำรวจสามารถจับกุมได้ บริเวณหน้าตู้กระจกขายโทรศัพท์ ของร้ายสมาร์ทโฟน ใน จ.บุรีรัมย์
โดย นายวินัย กล่าวอ้างว่า ที่ผ่านมาไม่รู้จักธุรกิจดังกล่าว แต่มีเพื่อนชวนไปร่วมฟังบรรยาย จึงร่วมลงทุนไปช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2557 จำนวน 350,000 บาท ต่อมาธุรกิจดังกล่าวมีผลกำไรจึงลงทุนเพิ่ม รวมเป็นเงิน 7 ล้านบาท
ทั้งนี้ ที่ผ่านตนได้เงินคืนจากธุรกิจดังกล่าวเป็นเงิน 5 แสนบาท และได้รับเงินก้อนสุดท้ายเมื่อปลายเดือนเมษายน ที่ผ่านมาเพียง 2 หมื่นบาท เท่านั้น และที่ตนไม่ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจในฐานะหนึ่งในผู้เสียหาย หรือเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่เนื่องจากแม่ต้องเข้ารับการผ่าตัดโรคหัวใจที่โรงพยาบาลและสถานะทางการเงินไม่คล่องตัวเหมือนเดิม จึงอยากใช้ชีวิตปกติและปล่อยให้เรื่องเงียบไปแต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ในที่สุด
ด้าน พ.ต.อ.อังกูร กล่าวว่า นายวินัย เป็นเจ้าของร้านขายโทรศัพท์มือถือ และเป็นแม่ข่ายยูฟันคนสำคัญใน จ.บุรีรัมย์ เป็นเครือข่ายโดยตรงของ น.ส.ณมนพรรณ์ ธาราบัณฑิต ที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ และจากการตรวจสอบพบว่า นายวินัย ได้โอนเงินให้ น.ส.ณมนพรรณ์ เป็น 1.7 ล้านบาท จำนวน 10 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 17 ล้านบาท และยังพบว่า นายวินัย มีดาวน์ไลน์ประมาณ 40 คน และมียอดลงทุนกว่า 40 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.อังกูร กล่าวว่า ขอให้ผู้กระทำผิดติดต่อเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่หากไม่เข้ามอบตัว และถูกจับกุมตัวได้ พนักงานสอบสวนจะไม่อนุญาตให้ประกันตัว
โดย นายวินัย กล่าวอ้างว่า ที่ผ่านมาไม่รู้จักธุรกิจดังกล่าว แต่มีเพื่อนชวนไปร่วมฟังบรรยาย จึงร่วมลงทุนไปช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2557 จำนวน 350,000 บาท ต่อมาธุรกิจดังกล่าวมีผลกำไรจึงลงทุนเพิ่ม รวมเป็นเงิน 7 ล้านบาท
ทั้งนี้ ที่ผ่านตนได้เงินคืนจากธุรกิจดังกล่าวเป็นเงิน 5 แสนบาท และได้รับเงินก้อนสุดท้ายเมื่อปลายเดือนเมษายน ที่ผ่านมาเพียง 2 หมื่นบาท เท่านั้น และที่ตนไม่ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจในฐานะหนึ่งในผู้เสียหาย หรือเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่เนื่องจากแม่ต้องเข้ารับการผ่าตัดโรคหัวใจที่โรงพยาบาลและสถานะทางการเงินไม่คล่องตัวเหมือนเดิม จึงอยากใช้ชีวิตปกติและปล่อยให้เรื่องเงียบไปแต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ในที่สุด
ด้าน พ.ต.อ.อังกูร กล่าวว่า นายวินัย เป็นเจ้าของร้านขายโทรศัพท์มือถือ และเป็นแม่ข่ายยูฟันคนสำคัญใน จ.บุรีรัมย์ เป็นเครือข่ายโดยตรงของ น.ส.ณมนพรรณ์ ธาราบัณฑิต ที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ และจากการตรวจสอบพบว่า นายวินัย ได้โอนเงินให้ น.ส.ณมนพรรณ์ เป็น 1.7 ล้านบาท จำนวน 10 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 17 ล้านบาท และยังพบว่า นายวินัย มีดาวน์ไลน์ประมาณ 40 คน และมียอดลงทุนกว่า 40 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.อังกูร กล่าวว่า ขอให้ผู้กระทำผิดติดต่อเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่หากไม่เข้ามอบตัว และถูกจับกุมตัวได้ พนักงานสอบสวนจะไม่อนุญาตให้ประกันตัว