พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป) เปิดเผยว่า ทางกองปราบปรามได้รับสำนวนคดีการเสียชีวิตของ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อายุ 50 ปี นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้านใหม่แล้ว เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยขั้นตอนดำเนินการจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ 1 ชุด ซึ่งคดีอุบัติเหตุนี้จะเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ ตั้งแต่การหาจุดเริ่มต้นของรถ จุดเกิดเหตุว่า เริ่มจากจุดใด โดยจะประสาน บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ประเทศไทย จำกัด เข้าร่วมตรวจสอบรถคันเกิดเหตุด้วย ซึ่งทุกขั้นตอนจะต้องเป็นหลักทางวิทยาศาสตร์ และสามารถหาข้อสรุปได้ โดยสำนวนหลายร้อยหน้า ที่ทางพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาลทำไปแล้ว จะนำมาประกอบการพิจารณาด้วย และขอยืนยันว่า จนถึงขณะนี้ทางกองปราบปราม ยังไม่ได้มีการสรุปการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ ส่วนกรณีที่ญาติร้องขอให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ให้เข้าร่วมตรวจสอบการเสียชีวิตด้วยนั้น ยืนยันว่า ในส่วนของกองปราบสามารถดำเนินการเองได้ สำหรับกรณีการโอนหุ้น เบื้องต้นยังไม่มีการออกหมายจับบุคคลใดเพิ่มเติมอีก
ส่วนกรณี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อขอคัดค้านการโอนคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ จากทาง สน.อุดมสุข มาให้กับทาง บก.ป.ดำเนินการแทนนั้นว่า การดำเนินการของทาง บก.ป.ยังคงเป็นไปตามขั้นตอนปกติ เนื่องจากยังไม่มีคำสั่งใดๆ จากผู้บังคับบัญชาสั่งการลงมา หรือให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นพิเศษ จึงไม่มีปัญหาอุปสรรคหรือรู้สึกหนักใจแต่อย่างใด
ส่วนกรณี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อขอคัดค้านการโอนคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ จากทาง สน.อุดมสุข มาให้กับทาง บก.ป.ดำเนินการแทนนั้นว่า การดำเนินการของทาง บก.ป.ยังคงเป็นไปตามขั้นตอนปกติ เนื่องจากยังไม่มีคำสั่งใดๆ จากผู้บังคับบัญชาสั่งการลงมา หรือให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นพิเศษ จึงไม่มีปัญหาอุปสรรคหรือรู้สึกหนักใจแต่อย่างใด