พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวาณิช โฆษกกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยภายหลังประชุมการจัดทำร่างประชามติร่วมกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า ที่ประชุมวางกรอบเวลาคร่าวๆ ว่า หากร่างรัฐธรรมนูญผ่านความเห็นชอบจากสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในวันที่ 6 กันยายนนี้ ก็จะเริ่มขั้นตอนการจัดทำร่างประชามติได้เลยในวันที่ 7 กันยายน
โดย กกต.จะเริ่มดำเนินการจัดพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญ 17 ล้านเล่ม ให้กับประชาชนน คาดว่าภายในสิ้นเดือนกันยายนจะแล้วเสร็จ จากนั้น กกต.จะนำร่างรัฐธรรมนูญที่จัดพิมพ์ไปแจกจ่ายให้ประชาชนได้ ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน ใช้เวลาส่งให้ประชาชนผ่านไปรษณีย์ภายใน 15 วัน หากเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ จะจ่ายให้ประชาชนมากกว่าร้อยละ 80 และจะสามารถกำหนดวันลงประชามติได้ ซึ่งเบื้องต้นกำหนดไว้ประมาณวันที่ 10,17,24 มกราคม 2559
พล.อ.เลิศรัตน์ เปิดเผยว่า สำหรับคำถามการทำประชามติ กำหนดไว้ 2 คำถาม คือ รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ และ คำถามที่คณะรัฐมนตรีเลือกจาก สปช.หรือ สนช. 1 คำถาม หรืออาจไม่เลือกเลยก็ได้ และหากมีคำถามที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง จะจัดพิมพ์เอกสารเพิ่มเติมชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจในที่มาของคำถาม แทรกไปในสาระสำคัญ
อย่างไรก็ตาม หาก สปช.ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 6 กันยายนนี้ ก็เป็นหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีที่จะตั้งกรรมาธิการขึ้นใหม่ 21 คน และมีเวลายกร่างรัฐธรรมนูญ 6 เดือน และร่างรัฐธรรนูญจะสามารถเริ่มทำประชามติได้ทันทีภายใน 4 เดือน ซึ่งเป็นเวลาที่ไม่แตกต่างกันมาก
โดย กกต.จะเริ่มดำเนินการจัดพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญ 17 ล้านเล่ม ให้กับประชาชนน คาดว่าภายในสิ้นเดือนกันยายนจะแล้วเสร็จ จากนั้น กกต.จะนำร่างรัฐธรรมนูญที่จัดพิมพ์ไปแจกจ่ายให้ประชาชนได้ ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน ใช้เวลาส่งให้ประชาชนผ่านไปรษณีย์ภายใน 15 วัน หากเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ จะจ่ายให้ประชาชนมากกว่าร้อยละ 80 และจะสามารถกำหนดวันลงประชามติได้ ซึ่งเบื้องต้นกำหนดไว้ประมาณวันที่ 10,17,24 มกราคม 2559
พล.อ.เลิศรัตน์ เปิดเผยว่า สำหรับคำถามการทำประชามติ กำหนดไว้ 2 คำถาม คือ รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ และ คำถามที่คณะรัฐมนตรีเลือกจาก สปช.หรือ สนช. 1 คำถาม หรืออาจไม่เลือกเลยก็ได้ และหากมีคำถามที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง จะจัดพิมพ์เอกสารเพิ่มเติมชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจในที่มาของคำถาม แทรกไปในสาระสำคัญ
อย่างไรก็ตาม หาก สปช.ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 6 กันยายนนี้ ก็เป็นหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีที่จะตั้งกรรมาธิการขึ้นใหม่ 21 คน และมีเวลายกร่างรัฐธรรมนูญ 6 เดือน และร่างรัฐธรรนูญจะสามารถเริ่มทำประชามติได้ทันทีภายใน 4 เดือน ซึ่งเป็นเวลาที่ไม่แตกต่างกันมาก