รายงานข่าวแจ้งว่า จากเหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ ทำให้อาคารรัฐสภาซึ่งเป็นที่ประชุมทั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยตรวจเข้มทั้งรถยนต์และบุคคลที่เข้า-ออกอาคารรัฐสภา และตรวจบัตรประจำตัวอย่างละเอียด โดยเมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.เดินตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัยรอบอาคารรัฐสภา พบว่ายังมีจุดบกพร่องอยู่ ทั้งเรื่องการแสดงผลการตรวจสอบใต้ท้องรถและจุดสแกนบุคคลเข้า-ออก 360 องศา ที่เพิ่งติดตั้งได้ไม่นาน จึงสั่งแก้ไขอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ใช้งานได้ภายใน 1 วัน รวมทั้งสั่งเพิ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาประจำในแต่ละจุด และยกระดับรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด
รายงานข่าวจากรัฐสภาเปิดเผยว่า เครื่องสแกนบุคคลเข้า-ออก 360 องศา ยี่ห้อ smith detection จัดซื้อตั้งแต่ปี 2556 ราคาสูงถึงเครื่องละ 16 ล้านบาท เป็นช่วงที่นายสุวิจักษณ์ นาควัชระชัย เป็นเลขาธิการสภา จัดซื้อมา 4 เครื่อง เป็นเงินกว่า 60 ล้านบาท แต่ขณะนี้ใช้งานได้เพียง 1 เครื่องเท่านั้น ส่วนอีก 3 เครื่องไม่สามารถใช้งานได้แล้ว โดยอ้างว่าระบบไฟไม่เสถียร และตั้งแต่ซื้อเครื่องดังกล่าวมาไม่เคยได้ใช้งาน เพราะสำนักรักษาความปลอดภัยไม่เคยจัดอบรมการใช้เครื่องนี้ รวมไปถึงบรรดาสมาชิกไม่ว่าจะเป็น ส.ส.-ส.ว.ขณะนั้น หรือ สปช. สนช.ก็รู้สึกว่าเป็นความยุ่งยากและเสียเวลา ทำให้เครื่องดังกล่าวไม่เคยใช้งานเลย
รายงานข่าวจากรัฐสภาเปิดเผยว่า เครื่องสแกนบุคคลเข้า-ออก 360 องศา ยี่ห้อ smith detection จัดซื้อตั้งแต่ปี 2556 ราคาสูงถึงเครื่องละ 16 ล้านบาท เป็นช่วงที่นายสุวิจักษณ์ นาควัชระชัย เป็นเลขาธิการสภา จัดซื้อมา 4 เครื่อง เป็นเงินกว่า 60 ล้านบาท แต่ขณะนี้ใช้งานได้เพียง 1 เครื่องเท่านั้น ส่วนอีก 3 เครื่องไม่สามารถใช้งานได้แล้ว โดยอ้างว่าระบบไฟไม่เสถียร และตั้งแต่ซื้อเครื่องดังกล่าวมาไม่เคยได้ใช้งาน เพราะสำนักรักษาความปลอดภัยไม่เคยจัดอบรมการใช้เครื่องนี้ รวมไปถึงบรรดาสมาชิกไม่ว่าจะเป็น ส.ส.-ส.ว.ขณะนั้น หรือ สปช. สนช.ก็รู้สึกว่าเป็นความยุ่งยากและเสียเวลา ทำให้เครื่องดังกล่าวไม่เคยใช้งานเลย