พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม 2558 โดยกล่าวเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศให้ร่วมสมัครเป็นสมาชิกของกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อความมั่นคงในอนาคต
"รัฐบาลต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับพี่น้องชาวไทยทุกกลุ่มที่ยังประสบปัญหาปากท้อง โดยรัฐบาลนี้ได้เดินหน้ากองทุนการออมแห่งชาติ ซึ่งจะเปิดรับสมัครสมาชิกใหม่ของกองทุนฯ ในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อดูแลพี่น้องประชาชน ช่วงอายุ 15–60 ปี ราว 30 ล้านคน ซึ่งประกอบอาชีพอิสระ
ที่ไม่อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญของรัฐ หรือกองทุนเอกชนที่มีนายจ้างจ่ายสมทบ เช่น เกษตรกร ค้าขายรับจ้างทั่วไป คนขับรถแท็กซี่ แม่บ้าน สถาปนิก แพทย์ ทนายความ ลูกจ้างรายวัน ลูกจ้างชั่วคราว นักการเมือง นักการเมืองท้องถิ่น นักเรียน นิสิต นักศึกษา เป็นต้น รวมทั้งผู้ที่อยู่ในวัยเกษียณ แต่ยังไม่มีระบบใดๆ รองรับด้วย โดยนโยบายของรัฐบาล โดยรัฐจะช่วยจ่ายเงินสมทบให้ส่วนหนึ่ง และเมื่อผู้ออมมีอายุครบ 60 ปี จะได้รับเงินบำนาญเป็นรายเดือนตลอดชีพถือเป็นการสร้างหลักประกันให้กับชีวิต ในยามที่ไม่มีรายได้ประจำ
นับเป็นส่วนหนึ่งของการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามสอบถามข้อมูล เงินสะสมเงินสมทบจากภาครัฐ อัตราผลตอบแทนต่างๆ และสมัครเข้าร่วมกองทุนฯ ได้ที่ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทุกสาขาทั่วประเทศ"
"รัฐบาลต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับพี่น้องชาวไทยทุกกลุ่มที่ยังประสบปัญหาปากท้อง โดยรัฐบาลนี้ได้เดินหน้ากองทุนการออมแห่งชาติ ซึ่งจะเปิดรับสมัครสมาชิกใหม่ของกองทุนฯ ในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อดูแลพี่น้องประชาชน ช่วงอายุ 15–60 ปี ราว 30 ล้านคน ซึ่งประกอบอาชีพอิสระ
ที่ไม่อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญของรัฐ หรือกองทุนเอกชนที่มีนายจ้างจ่ายสมทบ เช่น เกษตรกร ค้าขายรับจ้างทั่วไป คนขับรถแท็กซี่ แม่บ้าน สถาปนิก แพทย์ ทนายความ ลูกจ้างรายวัน ลูกจ้างชั่วคราว นักการเมือง นักการเมืองท้องถิ่น นักเรียน นิสิต นักศึกษา เป็นต้น รวมทั้งผู้ที่อยู่ในวัยเกษียณ แต่ยังไม่มีระบบใดๆ รองรับด้วย โดยนโยบายของรัฐบาล โดยรัฐจะช่วยจ่ายเงินสมทบให้ส่วนหนึ่ง และเมื่อผู้ออมมีอายุครบ 60 ปี จะได้รับเงินบำนาญเป็นรายเดือนตลอดชีพถือเป็นการสร้างหลักประกันให้กับชีวิต ในยามที่ไม่มีรายได้ประจำ
นับเป็นส่วนหนึ่งของการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามสอบถามข้อมูล เงินสะสมเงินสมทบจากภาครัฐ อัตราผลตอบแทนต่างๆ และสมัครเข้าร่วมกองทุนฯ ได้ที่ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทุกสาขาทั่วประเทศ"