นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ในฐานะโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า จากการลงพื้นที่จังหวัดสงขลา นครปฐม อุดรธานี เพื่อสำรวจราคาสลากกินแบ่งรัฐบาล รับฟังความคิดเห็น และเก็บข้อมูลจากตัวแทนจำหน่าย และประชาชนผู้ซื้อสลาก ผู้ค้าส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือจำหน่ายสลากที่ราคาควบคุม 80 บาทต่อคู่ เพราะต้องการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล และเกรงว่า หากจำหน่ายเกินราคาที่กำหนดจะถูกจับกุม
ขณะเดียวกัน จากการลงพื้นที่พบว่า งวดประจำวันที่ 1 สิงหาคม 2558 ราคาสลากขายส่งมีการปรับตัวสูงขึ้นถึง 76 - 78 บาทต่อคู่ จากเดิมอยู่ที่คู่ละ 72 - 73 บาท ทำให้พ่อค้าแม่ค้าเร่มีกำไรลดลงจึงจำหน่ายสลากเกินราคา นอกจากนี้ ผู้ค้ารายย่อยต้องการให้มีการจัดสรรโควตาสลากฯ ให้มากขึ้น จากปัจจุบันจัดสรรที่ 5 เล่มต่อราย เป็น 10 เล่มต่อราย หรือจัดสรรให้ตามสัดส่วนที่จำหน่ายจริง เนื่องจากพบว่ามีผู้ค้าบางรายได้โควตาสลากแต่ไม่มีการจำหน่ายจริง และมีการนำสลากไปจำหน่ายต่อในราคาแพง
อย่างไรก็ตาม สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะนำข้อมูลที่ได้เข้าสู่ที่ประชุมบอร์ดกองสลากในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อกำหนดแนวทางต่อไป
โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวด้วยว่า ในวันอาทิตย์นี้ (2 ส.ค.) จะลงพื้นที่เก็บข้อมูลผู้ค้าและประชาชนในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี และมีแผนไปยังจังหวัดเชียงใหม่ เลย และนครราชสีมา พร้อมสั่งการให้ชุดผู้ตรวจการของสำนักงานสลากฯ ลงพื้นที่สำรวจทุกจังหวัดทั่วประเทศ ก่อนรวบรวมวิเคราะห์เพื่อใช้เป็นแนวทางในการบริหารจัดการสลากกินแบ่งรัฐบาลต่อไป ซึ่งคาดว่าในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้ จะมีความชัดเจนในการจัดสรรสลากรูปแบบใหม่ให้กับผู้ค้าจำนวน 70 ล้านฉบับ ก่อนที่โควตาสลากทั้งหมดจะหมดสัญญาในเดือนธันวาคม 2558 ซึ่งคาดหวังว่าการจำหน่ายสลากจะต้องเป็นไปตามราคาที่กฎหมายกำหนดในระยะยาว และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและผู้ค้ามากขึ้น
ขณะเดียวกัน จากการลงพื้นที่พบว่า งวดประจำวันที่ 1 สิงหาคม 2558 ราคาสลากขายส่งมีการปรับตัวสูงขึ้นถึง 76 - 78 บาทต่อคู่ จากเดิมอยู่ที่คู่ละ 72 - 73 บาท ทำให้พ่อค้าแม่ค้าเร่มีกำไรลดลงจึงจำหน่ายสลากเกินราคา นอกจากนี้ ผู้ค้ารายย่อยต้องการให้มีการจัดสรรโควตาสลากฯ ให้มากขึ้น จากปัจจุบันจัดสรรที่ 5 เล่มต่อราย เป็น 10 เล่มต่อราย หรือจัดสรรให้ตามสัดส่วนที่จำหน่ายจริง เนื่องจากพบว่ามีผู้ค้าบางรายได้โควตาสลากแต่ไม่มีการจำหน่ายจริง และมีการนำสลากไปจำหน่ายต่อในราคาแพง
อย่างไรก็ตาม สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะนำข้อมูลที่ได้เข้าสู่ที่ประชุมบอร์ดกองสลากในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อกำหนดแนวทางต่อไป
โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวด้วยว่า ในวันอาทิตย์นี้ (2 ส.ค.) จะลงพื้นที่เก็บข้อมูลผู้ค้าและประชาชนในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี และมีแผนไปยังจังหวัดเชียงใหม่ เลย และนครราชสีมา พร้อมสั่งการให้ชุดผู้ตรวจการของสำนักงานสลากฯ ลงพื้นที่สำรวจทุกจังหวัดทั่วประเทศ ก่อนรวบรวมวิเคราะห์เพื่อใช้เป็นแนวทางในการบริหารจัดการสลากกินแบ่งรัฐบาลต่อไป ซึ่งคาดว่าในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้ จะมีความชัดเจนในการจัดสรรสลากรูปแบบใหม่ให้กับผู้ค้าจำนวน 70 ล้านฉบับ ก่อนที่โควตาสลากทั้งหมดจะหมดสัญญาในเดือนธันวาคม 2558 ซึ่งคาดหวังว่าการจำหน่ายสลากจะต้องเป็นไปตามราคาที่กฎหมายกำหนดในระยะยาว และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและผู้ค้ามากขึ้น
