สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) เนื่องจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นจีนได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อจับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 10.9 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ระดับ 1,096.40 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนแห่ซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นจีนร่วงลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน โดยเมื่อวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดร่วงลง 8.48% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงสุดในรอบ 8 ปี
ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 5 วันทำการ เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นจีนและยุโรป โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนที่ปิดตลาดดิ่งลงกว่า 8% เมื่อวานนี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 27 ก.ค. ในแนดลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 127.94 จุด หรือ 0.73% ปิดที่ 17,440.59 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 12.01 จุด หรือ 0.58% ปิดที่ 2,067.64 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง 48.85 จุด หรือ 0.96% ปิดที่ 5,039.78 จุด
นักวิเคราะห์ระบุว่า หุ้นสหรัฐฯได้รับแรงกดดันจากการลดลงอย่างรุนแรงของดัชนีหุ้นของจีน ซึ่งเกิดจากความกังวลว่ารัฐบาลจีนจะยกเลิกมาตรการ ซึ่งสนับสนุนเสถียรภาพตลาดหุ้นจีนมานานกว่า 3 สัปดาห์ ความกังวลนี้ยังทำให้ราคาโภคภัณฑ์อย่างน้ำมันและทองแดงลดลงอีกด้วย
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซาเมื่อคืนนี้ เนื่องจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นจีนได้กระตุ้นให้เกิดแรงเทขาย โดยเมื่อวานนี้ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดร่วงลง 8.48% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงสุดในรอบ 8 ปี อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลที่ว่าเศรษฐกิจจีนกำลังเข้าสู่ภาวะชะลอตัว หลังจากมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอของภาคการผลิต
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นยุโรป โดยเฉพาะดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันที่ร่วงลงเกือบ 300 จุดเมื่อคืนนี้
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไป หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า อิหร่านอาจจะผลิตและส่งออกน้ำมันได้มากขึ้น เมื่อการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านมีผลบังคับใช้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 75 เซนต์ ปิดที่ 47.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังจากรายงานของเบเกอร์ ฮิวจ์ระบุว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 21 แห่ง เป็น 659 แห่ง ซึ่งส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่า อุปทานน้ำมันในสหรัฐและตลาดโลกยังคงอยู่ในระดับที่สูงเกินไป ซึ่งจะสร้างแรงกดดันให้กับราคาน้ำมัน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า อิหร่านอาจจะผลิตและส่งออกน้ำมันได้มากขึ้นเมื่อการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านมีผลบังคับใช้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 10.9 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ระดับ 1,096.40 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนแห่ซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นจีนร่วงลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน โดยเมื่อวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดร่วงลง 8.48% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงสุดในรอบ 8 ปี
ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 5 วันทำการ เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นจีนและยุโรป โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนที่ปิดตลาดดิ่งลงกว่า 8% เมื่อวานนี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 27 ก.ค. ในแนดลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 127.94 จุด หรือ 0.73% ปิดที่ 17,440.59 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 12.01 จุด หรือ 0.58% ปิดที่ 2,067.64 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง 48.85 จุด หรือ 0.96% ปิดที่ 5,039.78 จุด
นักวิเคราะห์ระบุว่า หุ้นสหรัฐฯได้รับแรงกดดันจากการลดลงอย่างรุนแรงของดัชนีหุ้นของจีน ซึ่งเกิดจากความกังวลว่ารัฐบาลจีนจะยกเลิกมาตรการ ซึ่งสนับสนุนเสถียรภาพตลาดหุ้นจีนมานานกว่า 3 สัปดาห์ ความกังวลนี้ยังทำให้ราคาโภคภัณฑ์อย่างน้ำมันและทองแดงลดลงอีกด้วย
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซาเมื่อคืนนี้ เนื่องจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นจีนได้กระตุ้นให้เกิดแรงเทขาย โดยเมื่อวานนี้ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดร่วงลง 8.48% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงสุดในรอบ 8 ปี อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลที่ว่าเศรษฐกิจจีนกำลังเข้าสู่ภาวะชะลอตัว หลังจากมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอของภาคการผลิต
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นยุโรป โดยเฉพาะดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันที่ร่วงลงเกือบ 300 จุดเมื่อคืนนี้
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไป หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า อิหร่านอาจจะผลิตและส่งออกน้ำมันได้มากขึ้น เมื่อการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านมีผลบังคับใช้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 75 เซนต์ ปิดที่ 47.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังจากรายงานของเบเกอร์ ฮิวจ์ระบุว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 21 แห่ง เป็น 659 แห่ง ซึ่งส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่า อุปทานน้ำมันในสหรัฐและตลาดโลกยังคงอยู่ในระดับที่สูงเกินไป ซึ่งจะสร้างแรงกดดันให้กับราคาน้ำมัน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า อิหร่านอาจจะผลิตและส่งออกน้ำมันได้มากขึ้นเมื่อการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านมีผลบังคับใช้