นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมรองอธิบดีกรมควบคุมโรค ร่วมพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในโครงการสร้างบุญเข้าพรรษา "ลดเสี่ยง เลี่ยงโรคไม่ติดต่อและอุบัติเหตุทางถนน" ปี 2558 เพื่อให้บุคลากรในสังกัดกรมควบคุมโรคมีความรู้ ความตระหนัก เสริมทักษะการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ เพื่อเป็นตัวอย่างหรือต้นแบบการปฏิบัติตนในฐานะองค์กรที่เป็นผู้นำด้านป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อและอุบัติเหตุทางถนน ตลอด 90 วันในช่วงเข้าพรรษาปีนี้
นายแพทย์โสภณ กล่าวว่า ในปัจจุบันพบว่ากลุ่มโรคไม่ติดต่อ ได้แก่ เบาหวาน หัวใจและหลอดเลือด มะเร็ง และโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง ถือเป็นปัญหาสำคัญทางสาธารณสุขของทั่วโลกและของประเทศไทย ซึ่งโรคกลุ่มนี้เป็นสาเหตุการเสียชีวิตและภาระโรคอันดับ 1 ของประเทศไทยและของทั้งโลก ส่วนอุบัติเหตุทางถนนก็เช่นเดียวกัน องค์การอนามัยโลก พบอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของไทย มีจำนวนสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก
สำหรับประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินงานเพื่อป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่ออย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายลดอัตราตายด้วยโรคไม่ติดต่อลงร้อยละ 25 ภายในปี 2568 ส่วนความปลอดภัยทางถนน ประเทศไทยได้กำหนดให้ปี 2554-2563 เป็น "ทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน" โดยกำหนดเป้าหมายลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของคนไทยลดลงร้อยละ 50 ภายในปี 2563
นายแพทย์โสภณ กล่าวว่า กรมควบคุมโรคเป็นหน่วยงานที่ดูแลในเรื่องโรคไม่ติดต่อและอุบัติเหตุทางถนน จึงควรปฏิบัติตนเป็นต้นแบบและเป็นผู้นำในการป้องกันและควบคุมโรคดังกล่าว โดยถือโอกาสช่วงเทศกาลเข้าพรรษาปีนี้ เป็นจุดเริ่มต้นในการที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับบุคลากรของกรมควบคุมโรคทุกคนเป็นผู้นำการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อที่จะลดเสี่ยงโรคไม่ติดต่อและอุบัติเหตุทางถนน
ในวันนี้ กรมควบคุมโรคได้จัดพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในโครงการสร้างบุญเข้าพรรษา "ลดเสี่ยง เลี่ยงโรคไม่ติดต่อและอุบัติเหตุทางถนน" ปี 2558 ขึ้น ระหว่างผู้บริหาร ซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมควบคุมโรค ซึ่งบุคลากรในสังกัดพร้อมใจให้คำมั่นสัญญาว่าจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต เพื่อดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น โดยการลดอ้วน เลิกบุหรี่ งดเหล้า ลดอาหารหวาน มัน เค็ม ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ มีสติและมีน้ำใจทุกครั้งในการใช้ยานพาหนะโดยไม่ประมาทเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน อีกทั้งขยายสู่ครอบครัวของตนเอง เพื่อนร่วมงาน และประชาชนที่ใช้บริการของกรมควบคุมโรค ให้ได้รับรู้ถึงมหันตภัยเงียบจากโรคไม่ติดต่อและอุบุติเหตุทางถนน และเกิดความตื่นตัวในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยง หันมาใส่ใจสุขภาพ และเป็นโอกาสอันดีที่บุคลากรของกรมควบคุมโรค ได้ร่วมกันในการสร้างบุญ ตลอด 90 วันในช่วงเข้าพรรษาปีนี้ด้วย
นายแพทย์โสภณ กล่าวว่า ในปัจจุบันพบว่ากลุ่มโรคไม่ติดต่อ ได้แก่ เบาหวาน หัวใจและหลอดเลือด มะเร็ง และโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง ถือเป็นปัญหาสำคัญทางสาธารณสุขของทั่วโลกและของประเทศไทย ซึ่งโรคกลุ่มนี้เป็นสาเหตุการเสียชีวิตและภาระโรคอันดับ 1 ของประเทศไทยและของทั้งโลก ส่วนอุบัติเหตุทางถนนก็เช่นเดียวกัน องค์การอนามัยโลก พบอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของไทย มีจำนวนสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก
สำหรับประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินงานเพื่อป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่ออย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายลดอัตราตายด้วยโรคไม่ติดต่อลงร้อยละ 25 ภายในปี 2568 ส่วนความปลอดภัยทางถนน ประเทศไทยได้กำหนดให้ปี 2554-2563 เป็น "ทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน" โดยกำหนดเป้าหมายลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของคนไทยลดลงร้อยละ 50 ภายในปี 2563
นายแพทย์โสภณ กล่าวว่า กรมควบคุมโรคเป็นหน่วยงานที่ดูแลในเรื่องโรคไม่ติดต่อและอุบัติเหตุทางถนน จึงควรปฏิบัติตนเป็นต้นแบบและเป็นผู้นำในการป้องกันและควบคุมโรคดังกล่าว โดยถือโอกาสช่วงเทศกาลเข้าพรรษาปีนี้ เป็นจุดเริ่มต้นในการที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับบุคลากรของกรมควบคุมโรคทุกคนเป็นผู้นำการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อที่จะลดเสี่ยงโรคไม่ติดต่อและอุบัติเหตุทางถนน
ในวันนี้ กรมควบคุมโรคได้จัดพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในโครงการสร้างบุญเข้าพรรษา "ลดเสี่ยง เลี่ยงโรคไม่ติดต่อและอุบัติเหตุทางถนน" ปี 2558 ขึ้น ระหว่างผู้บริหาร ซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมควบคุมโรค ซึ่งบุคลากรในสังกัดพร้อมใจให้คำมั่นสัญญาว่าจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต เพื่อดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น โดยการลดอ้วน เลิกบุหรี่ งดเหล้า ลดอาหารหวาน มัน เค็ม ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ มีสติและมีน้ำใจทุกครั้งในการใช้ยานพาหนะโดยไม่ประมาทเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน อีกทั้งขยายสู่ครอบครัวของตนเอง เพื่อนร่วมงาน และประชาชนที่ใช้บริการของกรมควบคุมโรค ให้ได้รับรู้ถึงมหันตภัยเงียบจากโรคไม่ติดต่อและอุบุติเหตุทางถนน และเกิดความตื่นตัวในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยง หันมาใส่ใจสุขภาพ และเป็นโอกาสอันดีที่บุคลากรของกรมควบคุมโรค ได้ร่วมกันในการสร้างบุญ ตลอด 90 วันในช่วงเข้าพรรษาปีนี้ด้วย