วันนี้ (14 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกรณีที่ทางอัยการญี่ปุ่นมีคำสั่งไม่ฟ้อง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หลังถูกจับในข้อหาพกพาอาวุธปืนที่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่นและครบกำหนดที่อัยการญี่ปุ่นจะพิจารณาคดี โดยขณะนี้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้รับการปล่อยตัวแล้ว
ทั้งนี้จากการตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่บริษัทท่าอากาศยานไทย และเจ้าหน้าที่สายการบิน ได้รับการยืนยันว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ถูกตำรวจญี่ปุ่นส่งตัวกลับมาประเทศไทย โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 641 แล้ว และคาดว่าจะถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในเวลาประมาณ 15.30 น. โดยเมื่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์กลับถึงไทย ตำรวจจะยังไม่มีการอายัดตัวแต่อย่างใด เนื่องจากไม่พบความผิดในประเทศไทย แต่หลังจากนี้จะต้องเชิญมาสอบสวนข้อเท็จจริงถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการพกพาอาวุธขึ้นเครื่องบินอีกครั้ง เรื่องนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 สอบสวนข้อเท็จจริง แต่จะเป็นคนละส่วนกับเรื่องความปลอดภัยทางด้านการบิน ที่การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยรับผิดชอบ
พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า โดยปกติการนำอาวุธปืนขึ้นเครื่องบินสามารถกระทำได้ แต่ต้องแจ้งและนำฝากกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะนำอาวุธแยกขนส่งอย่างเหมาะสม ไม่ใช่การอนุญาตให้พกพาติดตัว โดยในส่วนของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ทางอัยการญี่ปุ่นเชื่อว่าไม่มีเจตนาที่จะพกพาอาวุธขึ้นเครื่องบินเพื่อนำไปก่อเหตุไม่สมควร จึงมีคำสั่งไม่ฟ้อง และให้ผลักดันออกนอกประเทศ
ส่วนการตรวจสอบประเด็นการลักลอบพกปืนเข้าสนามบินเดินทางออกนอกประเทศไทยนั้น เป็นหน้าที่ของ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ว่า จะมีการดำเนินการอย่างไร หลังจาก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เดินทางกลับประเทศไทย ในเบื้องต้นคาดว่าอาจมีการเรียกมาสอบสวน ส่วนรายละเอียดของอาวุธปืน นอร์ท อเมริกัน อาร์ม .22 แมกนั่ม ต้องประสานกับทางญี่ปุ่นอีกครั้ง ว่า จะยึดเอาไว้หรือไม่ และยังไม่ทราบว่าเป็นปืนผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบต่อไป
ทั้งนี้จากการตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่บริษัทท่าอากาศยานไทย และเจ้าหน้าที่สายการบิน ได้รับการยืนยันว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ถูกตำรวจญี่ปุ่นส่งตัวกลับมาประเทศไทย โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 641 แล้ว และคาดว่าจะถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในเวลาประมาณ 15.30 น. โดยเมื่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์กลับถึงไทย ตำรวจจะยังไม่มีการอายัดตัวแต่อย่างใด เนื่องจากไม่พบความผิดในประเทศไทย แต่หลังจากนี้จะต้องเชิญมาสอบสวนข้อเท็จจริงถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการพกพาอาวุธขึ้นเครื่องบินอีกครั้ง เรื่องนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 สอบสวนข้อเท็จจริง แต่จะเป็นคนละส่วนกับเรื่องความปลอดภัยทางด้านการบิน ที่การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยรับผิดชอบ
พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า โดยปกติการนำอาวุธปืนขึ้นเครื่องบินสามารถกระทำได้ แต่ต้องแจ้งและนำฝากกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะนำอาวุธแยกขนส่งอย่างเหมาะสม ไม่ใช่การอนุญาตให้พกพาติดตัว โดยในส่วนของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ทางอัยการญี่ปุ่นเชื่อว่าไม่มีเจตนาที่จะพกพาอาวุธขึ้นเครื่องบินเพื่อนำไปก่อเหตุไม่สมควร จึงมีคำสั่งไม่ฟ้อง และให้ผลักดันออกนอกประเทศ
ส่วนการตรวจสอบประเด็นการลักลอบพกปืนเข้าสนามบินเดินทางออกนอกประเทศไทยนั้น เป็นหน้าที่ของ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ว่า จะมีการดำเนินการอย่างไร หลังจาก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เดินทางกลับประเทศไทย ในเบื้องต้นคาดว่าอาจมีการเรียกมาสอบสวน ส่วนรายละเอียดของอาวุธปืน นอร์ท อเมริกัน อาร์ม .22 แมกนั่ม ต้องประสานกับทางญี่ปุ่นอีกครั้ง ว่า จะยึดเอาไว้หรือไม่ และยังไม่ทราบว่าเป็นปืนผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบต่อไป