สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของกรีซลงมติด้วยคะแนน 251 เสียง จาก 300 เสียง อนุมัติแผนปฏิรูปเศรษฐกิจของนายอเล็กซิส ซีปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ เพื่อช่วยให้กรีซรอดพ้นจากภาวะล่มสลายทางการเงิน โดยเปิดโอกาสให้นายซีปราส นำแผนปฏิรูปดังกล่าวไปเจรจาต่อรองรับเงินช่วยเหลืองวดที่ 3 จากกลุ่มเจ้าหนี้ต่างชาติ ซึ่งจะครอบคลุมงบประมาณบริหารประเทศไปจนถึงปี 2561 โดยแผนปฏิรูปดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วย การปฏิรูปเงินบำนาญ การขึ้นอัตราภาษี การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ และการตัดลดงบประมาณกลาโหม ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้กรีซอยู่รอดในกลุ่มสหภาพยุโรป หรือ อียู ต่อไป
แหล่งข่าวสหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ทั้งจากอียูและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ประเมินแผนดังกล่าวแล้ว และมีความคิดเห็นไปในเชิงบวก คาดว่าส่วนหนึ่งเนื่องจากแผนไม่ได้แตกต่างจากที่กลุ่มเจ้าหนี้ต่างชาติเสนอเมื่อเดือนที่แล้ว และมีความเป็นไปได้ว่า กลุ่มเจ้าหนี้ต่างชาติจะยินยอมเปิดการเจรจาให้เงินกู้ช่วยเหลืองวดใหม่แก่กรีซ นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า รัฐมนตรีคลังในกลุ่มประเทศใช้เงินยูโร หรือ ยูโรโซน จะจัดการประชุมในวันนี้ เพื่อหารือแผนช่วยเหลือกรีซ แต่มีโอกาสเพียง 50-50 ที่กลุ่มดังกล่าวจะเห็นชอบ เนื่องจากเยอรมนียังคัดค้านเรื่องการผ่อนปรนหนี้สินให้แก่กรีซ ทั้งยังต้องการให้กรีซออกจากกลุ่มยูโรโซน
ก่อนหน้านี้ ชาวกรีซราว 8,000 คน ได้รวมตัวกันในกรุงเอเธนส์ ก่อนหน้าการลงมติของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อประท้วงมาตรการรัดเข็มขัดเพิ่มเติมของรัฐบาล แม้ผลสำรวจความคิดเห็นของชาวกรีซส่วนใหญ่ ราวร้อยละ 84 ต้องการให้กรีซอยู่ในกลุ่มยูโรโซน และใช้เงินสกุลยูโรต่อไป มีเพียงร้อยละ 12 ที่ต้องการกลับไปใช้เงินดรัชมา (drachma) ของกรีซ
แหล่งข่าวสหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ทั้งจากอียูและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ประเมินแผนดังกล่าวแล้ว และมีความคิดเห็นไปในเชิงบวก คาดว่าส่วนหนึ่งเนื่องจากแผนไม่ได้แตกต่างจากที่กลุ่มเจ้าหนี้ต่างชาติเสนอเมื่อเดือนที่แล้ว และมีความเป็นไปได้ว่า กลุ่มเจ้าหนี้ต่างชาติจะยินยอมเปิดการเจรจาให้เงินกู้ช่วยเหลืองวดใหม่แก่กรีซ นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า รัฐมนตรีคลังในกลุ่มประเทศใช้เงินยูโร หรือ ยูโรโซน จะจัดการประชุมในวันนี้ เพื่อหารือแผนช่วยเหลือกรีซ แต่มีโอกาสเพียง 50-50 ที่กลุ่มดังกล่าวจะเห็นชอบ เนื่องจากเยอรมนียังคัดค้านเรื่องการผ่อนปรนหนี้สินให้แก่กรีซ ทั้งยังต้องการให้กรีซออกจากกลุ่มยูโรโซน
ก่อนหน้านี้ ชาวกรีซราว 8,000 คน ได้รวมตัวกันในกรุงเอเธนส์ ก่อนหน้าการลงมติของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อประท้วงมาตรการรัดเข็มขัดเพิ่มเติมของรัฐบาล แม้ผลสำรวจความคิดเห็นของชาวกรีซส่วนใหญ่ ราวร้อยละ 84 ต้องการให้กรีซอยู่ในกลุ่มยูโรโซน และใช้เงินสกุลยูโรต่อไป มีเพียงร้อยละ 12 ที่ต้องการกลับไปใช้เงินดรัชมา (drachma) ของกรีซ