สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 20 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (7 ก.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากสกลุเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 20.6 ดอลลาร์ หรือ 1.76% ปิดที่ระดับ 1,152.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำร่วงลงกว่า 20 ดอลลาร์เพราะได้รับปัจจัยลบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ 6 สกุลในตะกร้าเงินนั้น ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ที่ตลาดนิวยอร์ก
ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
นักลงทุนจับตาการเจรจาปัญหาหนี้กรีซอย่างใกล้ชิด โดยรายงานระบุว่า การประชุมรมว.คลังยูโรโซนได้เสร็จสิ้นลงในช่วงเช้าวานนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ โดยที่ประชุมยังไม่มีการทำข้อตกลงใดๆ
ด้านสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ และจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 20 เซนต์ ปิดที่ 52.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ ปิดที่ 56.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำหรับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 7 ก.ค.2558 ในแดนบวก โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 93.33 จุด หรือ 0.53% ปิดที่ 17,776.91 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 12.58 จุด หรือ 0.61% ปิดที่ 2,081.34 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 5.52 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 4,997.46 จุด
ดัชนีหุ้นทั้ง 3 ตัวร่วงอย่างหนักในช่วงแรกของการซื้อขาย จากความกังวลในสถานการณ์ของกรีซ โดยผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศส ยืนยันว่ากรีซต้องยื่นข้อเสนอที่เที่ยงตรง เพื่อเริ่มคุยเรื่องเงินช่วยเหลือรอบใหม่ นอกจากนี้ การลดลงอย่างมากของตลาดหุ้นจีน ซึ่งร่วงกว่า 30% นับตั้งแต่กลางเดือน มิ.ย. ก็ส่งผลทำให้ให้สร้างความกังวลแก่นักลงทุนเช่นกัน
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ
นักวิเคราะห์ระบุว่า การลดลงของตลาดหุ้นจีน เป็นสัญญาณว่า ความพยายามของรัฐบาลจีนในการสร้างเสถียรภาพให้แก่ตลาดหุ้นนั้น น้อยกว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของดัชนีหุ้นสหรัฐฯในช่วงกลางและท้ายของการซื้อขาย ชี้ว่า นักลงทุนยังมองสถานการณ์ของกรีซและจีนในแง่บวก
อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซได้สกัดแรงบวกของตลาดและส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด
สำหรับการประชุมรมว.คลังยูโรโซนนั้น ได้เสร็จสิ้นลงในช่วงเช้าวานนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ โดยนายอเล็กซานเดอร์ สตับบ์ รมว.คลังฟินแลนด์กล่าวว่า เขาหวังว่ากรีซจะยื่นขอความช่วยเหลือครั้งใหม่ภายในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า และหลังจากนั้น กรีซจะส่งรายละเอียดของมาตรการที่รัฐบาลจะดำเนินการเพื่อแลกกับการได้รับความช่วยเหลือมากขึ้น
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 20.6 ดอลลาร์ หรือ 1.76% ปิดที่ระดับ 1,152.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำร่วงลงกว่า 20 ดอลลาร์เพราะได้รับปัจจัยลบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ 6 สกุลในตะกร้าเงินนั้น ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ที่ตลาดนิวยอร์ก
ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
นักลงทุนจับตาการเจรจาปัญหาหนี้กรีซอย่างใกล้ชิด โดยรายงานระบุว่า การประชุมรมว.คลังยูโรโซนได้เสร็จสิ้นลงในช่วงเช้าวานนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ โดยที่ประชุมยังไม่มีการทำข้อตกลงใดๆ
ด้านสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ และจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 20 เซนต์ ปิดที่ 52.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ ปิดที่ 56.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำหรับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 7 ก.ค.2558 ในแดนบวก โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 93.33 จุด หรือ 0.53% ปิดที่ 17,776.91 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 12.58 จุด หรือ 0.61% ปิดที่ 2,081.34 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 5.52 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 4,997.46 จุด
ดัชนีหุ้นทั้ง 3 ตัวร่วงอย่างหนักในช่วงแรกของการซื้อขาย จากความกังวลในสถานการณ์ของกรีซ โดยผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศส ยืนยันว่ากรีซต้องยื่นข้อเสนอที่เที่ยงตรง เพื่อเริ่มคุยเรื่องเงินช่วยเหลือรอบใหม่ นอกจากนี้ การลดลงอย่างมากของตลาดหุ้นจีน ซึ่งร่วงกว่า 30% นับตั้งแต่กลางเดือน มิ.ย. ก็ส่งผลทำให้ให้สร้างความกังวลแก่นักลงทุนเช่นกัน
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ
นักวิเคราะห์ระบุว่า การลดลงของตลาดหุ้นจีน เป็นสัญญาณว่า ความพยายามของรัฐบาลจีนในการสร้างเสถียรภาพให้แก่ตลาดหุ้นนั้น น้อยกว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของดัชนีหุ้นสหรัฐฯในช่วงกลางและท้ายของการซื้อขาย ชี้ว่า นักลงทุนยังมองสถานการณ์ของกรีซและจีนในแง่บวก
อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซได้สกัดแรงบวกของตลาดและส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด
สำหรับการประชุมรมว.คลังยูโรโซนนั้น ได้เสร็จสิ้นลงในช่วงเช้าวานนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ โดยนายอเล็กซานเดอร์ สตับบ์ รมว.คลังฟินแลนด์กล่าวว่า เขาหวังว่ากรีซจะยื่นขอความช่วยเหลือครั้งใหม่ภายในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า และหลังจากนั้น กรีซจะส่งรายละเอียดของมาตรการที่รัฐบาลจะดำเนินการเพื่อแลกกับการได้รับความช่วยเหลือมากขึ้น
