กรณี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีต ผบช.น. ที่ถูกตำรวจญี่ปุ่นจับกุมเป็นผู้ต้องหาฐานพกพาอาวุธปืน ที่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น เหตุเกิดวันที่ 22 มิ.ย. ขณะเดินทางกลับประเทศไทยพร้อมคณะ รอง ผวจ. ปลัดจังหวัด ผู้บริหารท้องถิ่น จ.ปทุมธานี ศึกษาดูงานการแปรรูปขยะเป็นพลังงานไฟฟ้าที่ประเทศญี่ปุ่น ล่าสุดอัยการขยายเวลาฝากขังต่อไปอีก 10 วัน สั่งห้ามญาติเยี่ยมเด็ดขาด พร้อมเรียกตัวผู้ที่ร่วมคณะดูงานเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมจ่อสรุปสั่งคดี โดยวันที่ 2 ก.ค. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร.และโฆษก ตร. กล่าวว่า วันนี้อัยการญี่ปุ่นได้แจ้งกับญาติที่เข้าเยี่ยม พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีต ผบช.น.ว่าอัยการมีความเห็นขยายเวลาฝากขัง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เป็นครั้งที่ 2 กำหนดระยะเวลา 10 วัน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ โดยได้เรียกพยานที่ร่วมเดินทางไปกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เข้าสอบสวนให้ปากคำประกอบสำนวนการสอบสวนของอัยการญี่ปุ่น เพื่อประกอบการพิจารณาสรุปความเห็นทางคดี ในชั้นนี้ยังไม่ได้มีความเห็นสั่งคดี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ข้อหาพกพาอาวุธปืน ที่ท่าอากาศยานนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงฝากขังอัยการญี่ปุ่นมีคำสั่งไม่ให้ญาติหรือบุคคลอื่นใดเข้าเยี่ยม พล.ต.ท.คำรณวิทย์ด้วย
พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า เจ้าหน้าที่สถานทูตไทยประจำประเทศญี่ปุ่นได้ประสานให้ญาติเข้าเยี่ยม พล.ต.ท.คำรณวิทย์ และได้ประสานความช่วยเหลือในการต่อวีซ่าให้กับคณะผู้ติดตามและญาติในการอยู่ต่อในประเทศญี่ปุ่น ในส่วนของตำรวจยังไม่ได้รับประสานจากตำรวจญี่ปุ่น ในส่วนประวัติภูมิหลังของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ตำรวจญี่ปุ่นมีข้อมูลครบถ้วนแล้ว ส่วนอาวุธปืนตำรวจญี่ปุ่นได้ตรวจสอบแต่ไม่ได้ประสานตำรวจไทย ความผิดฐานพกพาอาวุธปืนในประเทศญี่ปุ่นถือว่าเป็นโทษที่มีความรุนแรง ไม่มีการยกเว้นให้กับผู้ที่กระทำความผิด ขณะที่เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เกษียณไม่ได้รับราชการตำรวจ เป็นการไปดูงานส่วนตัว จึงไม่มีการประสานตำรวจสากลไทยเกี่ยวกับกรณี พล.ต.ท.คำรณวิทย์
รายงานข่าวแจ้ว่า อัยการญี่ปุ่นได้สอบปากคำ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ และผู้ที่ร่วมคณะเดินทางดูงานประเทศญี่ปุ่น เพื่อประกอบสำนวนคดีของอัยการญี่ปุ่น โดยอัยการได้แจ้งผ่านญาติว่าจะฝากขัง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ต่อไปอีก 10 วัน และแจ้งผ่านทนายว่า จะยังคงไม่อนุญาตให้ญาติหรือคนติดตามเข้าเยี่ยม ในส่วนของอาวุธปืนของกลางมีรายงานว่าหลังตำรวจญี่ปุ่นประสานข้อมูลเอกสารอาวุธปืนมาประกอบการพิจารณาของอัยการญี่ปุ่น แต่ผลตรวจผู้เชี่ยวชาญพบพิรุธเลขรหัสปืนของกลางไม่ตรงกับเลขใบอนุญาตปืน ซึ่งเข้าข่ายเป็นอาวุธปืนที่ไม่มีใบอนุญาตที่ถูกต้อง
พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า เจ้าหน้าที่สถานทูตไทยประจำประเทศญี่ปุ่นได้ประสานให้ญาติเข้าเยี่ยม พล.ต.ท.คำรณวิทย์ และได้ประสานความช่วยเหลือในการต่อวีซ่าให้กับคณะผู้ติดตามและญาติในการอยู่ต่อในประเทศญี่ปุ่น ในส่วนของตำรวจยังไม่ได้รับประสานจากตำรวจญี่ปุ่น ในส่วนประวัติภูมิหลังของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ตำรวจญี่ปุ่นมีข้อมูลครบถ้วนแล้ว ส่วนอาวุธปืนตำรวจญี่ปุ่นได้ตรวจสอบแต่ไม่ได้ประสานตำรวจไทย ความผิดฐานพกพาอาวุธปืนในประเทศญี่ปุ่นถือว่าเป็นโทษที่มีความรุนแรง ไม่มีการยกเว้นให้กับผู้ที่กระทำความผิด ขณะที่เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เกษียณไม่ได้รับราชการตำรวจ เป็นการไปดูงานส่วนตัว จึงไม่มีการประสานตำรวจสากลไทยเกี่ยวกับกรณี พล.ต.ท.คำรณวิทย์
รายงานข่าวแจ้ว่า อัยการญี่ปุ่นได้สอบปากคำ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ และผู้ที่ร่วมคณะเดินทางดูงานประเทศญี่ปุ่น เพื่อประกอบสำนวนคดีของอัยการญี่ปุ่น โดยอัยการได้แจ้งผ่านญาติว่าจะฝากขัง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ต่อไปอีก 10 วัน และแจ้งผ่านทนายว่า จะยังคงไม่อนุญาตให้ญาติหรือคนติดตามเข้าเยี่ยม ในส่วนของอาวุธปืนของกลางมีรายงานว่าหลังตำรวจญี่ปุ่นประสานข้อมูลเอกสารอาวุธปืนมาประกอบการพิจารณาของอัยการญี่ปุ่น แต่ผลตรวจผู้เชี่ยวชาญพบพิรุธเลขรหัสปืนของกลางไม่ตรงกับเลขใบอนุญาตปืน ซึ่งเข้าข่ายเป็นอาวุธปืนที่ไม่มีใบอนุญาตที่ถูกต้อง
