นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขราคาสินค้าประมงไทย ที่ถูกสหภาพยุโรป หรือ อียู ประเมินว่าเข้าข่ายเป็นสินค้าที่ผิดกฎหมายขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ว่าหลังจากอียูเข้าประเมินการทำประมงไทยเมื่อเดือนตุลาคม 2557 และจะเข้ามาประเมินอีกครั้งในเดือนสิงหาคมนี้ ดังนั้นไทยจึงเร่งดำเนินการ 3 มาตรการ คือการออกกฎหมายเพื่อดูแลเป็นการเฉพาะ การจัดทำแผนการประมงทั้งระบบ ซึ่งทั้ง 2 ส่วนนั้นดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่ 3 คือการปฏิบัติการจดทะเบียนเรือประมงผิดกฎหมาย ให้จดทะเบียนทำการประมงให้ถูกกฎหมาย ตามกฎหมายใหม่ที่มีผลบังคับใช้เริ่มวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งจะไม่สามารถทำการผ่อนผันต่อได้อีกเพราะเมื่อเช่นนั้นหากประเมินไม่ผ่านก็จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าประมงของไทยทั้งหมด
ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเข้มงวดโดยต้องจัดตั้งท่าเรือเข้า - ออก ตรวจสอบเรือประมงที่มีขนาด 30 ตันขึ้นไปอย่างเข้มงวด ซึ่งจะตรวจสอบการจดทะเบียนเรือ ใบอนุญาตทำการประมงเครื่องมือประมงและแรงงานต่างด้าวที่ต้องจดทะเบียนแรงงานถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ยังได้ตั้งศูนย์เฉพาะกิจลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวก และรับจดทะเบียนไปจดถึงวันที่ 25 กรกฎาคมนี้
นายปีติพงศ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการประมง ให้ช่วยกันปรับตัวและให้ข้อมูลของรัฐบาลเรื่องการจดทะเบียนเรือ ใบอนุญาตทำการประมงเพื่อให้ทราบข้อบกพร่อง และดำเนินการแก้ไขปัญหาร่วมกัน
ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเข้มงวดโดยต้องจัดตั้งท่าเรือเข้า - ออก ตรวจสอบเรือประมงที่มีขนาด 30 ตันขึ้นไปอย่างเข้มงวด ซึ่งจะตรวจสอบการจดทะเบียนเรือ ใบอนุญาตทำการประมงเครื่องมือประมงและแรงงานต่างด้าวที่ต้องจดทะเบียนแรงงานถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ยังได้ตั้งศูนย์เฉพาะกิจลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวก และรับจดทะเบียนไปจดถึงวันที่ 25 กรกฎาคมนี้
นายปีติพงศ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการประมง ให้ช่วยกันปรับตัวและให้ข้อมูลของรัฐบาลเรื่องการจดทะเบียนเรือ ใบอนุญาตทำการประมงเพื่อให้ทราบข้อบกพร่อง และดำเนินการแก้ไขปัญหาร่วมกัน