พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาว่า ขณะนี้ธนาคารออมสินได้อนุมัติหลักการเพื่อใช้เป็นแนวปฏิบัติและแจ้งมายัง ศธ.แล้ว โดยจะแบ่งลูกหนี้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.ลูกหนี้ขั้นวิกฤติรุนแรง ที่อยู่ระหว่างถูกฟ้องดำเนินคดี หรือถูกบังคับคดี ขาดความสามารถในการชำระหนี้จากเหตุที่จำเป็น 2.ลูกหนี้ใกล้วิกฤติ ที่มีหนี้ค้างชำระเกิน 12 งวดติดต่อกัน 3.ลูกหนี้ปกติ ที่ยังไม่ผิดนัดชำระหนี้และยังบริหารจัดการหนี้ได้ จากนั้นจะมีมาตรการปรับโครงสร้างหนี้
ทั้งนี้กลุ่มลูกหนี้ขั้นวิกฤติรุนแรงจะชะลอการฟ้องร้องดำเนินคดีหรือบังคับคดีไม่เกิน 3 ปี โดยต้องมีระยะเวลาฟ้องคดีเหลือไม่น้อยกว่า 2 ปี และพักชำระดอกเบี้ยไม่เกิน 3 ปี แต่ต้องชำระเงินต้น ส่วนลูกหนี้ใกล้วิกฤติให้พักชำระดอกเบี้ยไม่เกินครึ่งหนึ่งเป็นเวลาไม่เกิน 2 ปี แต่ให้ชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยที่เหลือ
สำหรับลูกหนี้ปกติให้พักชำระเงินต้นไม่เกิน 2 ปี แต่ให้ชำระดอกเบี้ย ทั้งนี้ลูกหนี้ต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการภายในวันที่ 31 ก.ค.นี้ อย่างไรก็ตามหลังเข้าร่วมมาตรการไม่ชำระหนี้ตามเงื่อนไข 2 งวดติดต่อกันให้กลับเข้าสู่เงื่อนไขและมาตรการตามสัญญาเดิม ทั้งนี้มีเงื่อนไขว่าต้องได้รับความยินยอมจากผู้ค้ำประกันเงินกู้ และลูกหนี้ยินยอมให้กรมบัญชีกลางหักเงินเดือนใช้หนี้ธนาคาร ที่สำคัญต้องไม่สร้างภาระหนี้เพิ่มกับสหกรณ์ออมทรัพย์อีก ซึ่งแนวปฏิบัติดังกล่าวได้รับความยินยอมจากสำนักงาน สกสค.แล้ว จากนี้จะเร่งปรับโครงสร้างหนี้ครูต่อไป ส่วนข้อเสนอที่ให้ยกเลิกโครงการเงินกู้ ช.พ.ค.7 ซึ่งก่อนนี้ได้สั่งชะลอโครงการไว้แล้วนั้น เรื่องนี้เป็นเพียงข้อเสนอของกรรมการแต่ขณะนี้ยังไม่ได้ ข้อยุติ คงต้องมีการนำมาหารือในบอร์ด สกสค.อีกครั้ง
ทั้งนี้กลุ่มลูกหนี้ขั้นวิกฤติรุนแรงจะชะลอการฟ้องร้องดำเนินคดีหรือบังคับคดีไม่เกิน 3 ปี โดยต้องมีระยะเวลาฟ้องคดีเหลือไม่น้อยกว่า 2 ปี และพักชำระดอกเบี้ยไม่เกิน 3 ปี แต่ต้องชำระเงินต้น ส่วนลูกหนี้ใกล้วิกฤติให้พักชำระดอกเบี้ยไม่เกินครึ่งหนึ่งเป็นเวลาไม่เกิน 2 ปี แต่ให้ชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยที่เหลือ
สำหรับลูกหนี้ปกติให้พักชำระเงินต้นไม่เกิน 2 ปี แต่ให้ชำระดอกเบี้ย ทั้งนี้ลูกหนี้ต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการภายในวันที่ 31 ก.ค.นี้ อย่างไรก็ตามหลังเข้าร่วมมาตรการไม่ชำระหนี้ตามเงื่อนไข 2 งวดติดต่อกันให้กลับเข้าสู่เงื่อนไขและมาตรการตามสัญญาเดิม ทั้งนี้มีเงื่อนไขว่าต้องได้รับความยินยอมจากผู้ค้ำประกันเงินกู้ และลูกหนี้ยินยอมให้กรมบัญชีกลางหักเงินเดือนใช้หนี้ธนาคาร ที่สำคัญต้องไม่สร้างภาระหนี้เพิ่มกับสหกรณ์ออมทรัพย์อีก ซึ่งแนวปฏิบัติดังกล่าวได้รับความยินยอมจากสำนักงาน สกสค.แล้ว จากนี้จะเร่งปรับโครงสร้างหนี้ครูต่อไป ส่วนข้อเสนอที่ให้ยกเลิกโครงการเงินกู้ ช.พ.ค.7 ซึ่งก่อนนี้ได้สั่งชะลอโครงการไว้แล้วนั้น เรื่องนี้เป็นเพียงข้อเสนอของกรรมการแต่ขณะนี้ยังไม่ได้ ข้อยุติ คงต้องมีการนำมาหารือในบอร์ด สกสค.อีกครั้ง