วันนี้ (24 มิ.ย.) นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมเจ้าหน้าที่กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จะลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพปัญหาน้ำในเขื่อนสิริกิต์ และเขื่อนภูมิพล ที่ระดับน้ำกำลังอยู่ในขั้นวิกฤต เพื่อวางแผนการทำฝนหลวงในพื้นที่ ซึ่งเป็นไปตามคำแนะนำของสำนักพระราชวังที่ระบุว่า การทำฝนหลวงจะทำให้น้ำลงเขื่อนได้จริง แต่ต้องปรับสูตรตามความเหมาะสมจากปริมาณเมฆและสภาพอากาศ
ทั้งนี้ จากรายงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยที่ดูแล 2 เขื่อนหลักนี้ พบว่า น้ำในเขื่อนภูมิพลอยู่ในระดับวิฤกติหนักในรอบ 57 ปี โดยที่ผ่านมา น้ำที่ใช้ในการเกษตรมีค่าเท่ากับศูนย์ ไม่สามารถปล่อยน้ำให้กับเกษตรกรได้อีก ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อนสิริกิติ์อยู่ในขั้นวิกฤตสุดในรอบ 40 ปี ขณะนี้มีน้ำเพียง 500 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น และทำให้น้ำที่ใช้เพื่อการเกษตรเหลืออีก 200 ล้านลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้ จากรายงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยที่ดูแล 2 เขื่อนหลักนี้ พบว่า น้ำในเขื่อนภูมิพลอยู่ในระดับวิฤกติหนักในรอบ 57 ปี โดยที่ผ่านมา น้ำที่ใช้ในการเกษตรมีค่าเท่ากับศูนย์ ไม่สามารถปล่อยน้ำให้กับเกษตรกรได้อีก ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อนสิริกิติ์อยู่ในขั้นวิกฤตสุดในรอบ 40 ปี ขณะนี้มีน้ำเพียง 500 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น และทำให้น้ำที่ใช้เพื่อการเกษตรเหลืออีก 200 ล้านลูกบาศก์เมตร