นางสาวนพพร ลิ้นทอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ตลาดสดเทศบาลปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรีว่า ภาพรวมราคาสินค้าอุปโภคบริโภคยังอยู่ในระดับทรงตัว โดยมีสินค้าบางชนิดปรับราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมีราคาต่ำกว่า จึงถือว่าเป็นปกติ
สำหรับสินค้าที่มีราคาเพิ่มขึ้น ได้แก่ เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื่องจากอากาศค่อนข้างร้อนส่งผลให้สุกร และไก่มีการเจริญเติบโตช้า ทำให้มีปริมาณเข้าสู่ตลาดลดลง ซึ่งคาดว่าจะมีแนวโน้มของราคาลดลงตามสภาพอากาศที่เย็นลง ซึ่งจะทำให้การเจริญเติบโตของสุกรและไก่ดีขึ้น ขณะที่ไข่ไก่มีราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ประมาณ 0.30 - 0.70 สตางค์ ซึ่งเป็นราคาที่มีความใกล้เคียงกับราคาต้นทุน โดยราคาหน้าฟาร์มอยู่ที่ 2.94 บาท ราคาขาย 3 - 4 บาท ตามขนาดของไข่ไก่
ส่วนของผักหลายรายการราคาสูงขึ้น เช่น ผักคะน้า ราคาปรับขึ้นจากกิโลกรัม 25-35 บาท ในเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ 40-50 บาท ถั่วฝักยาว ปรับเพิ่มขึ้นจาก 55-65 บาท มาอยู่ที่ 70 บาท และผักชีราคาปรับขึ้นจากกิโลกรัมละ 80-110 บาท มาอยู่ที่ 140-150 บาท เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนยาวนาน รวมถึงผักบางชนิดได้รับผลกระทบจากฝนตกชุก จึงทำให้ผลผลิตน้อยลง ประเมินว่าแนวโน้มราคาสินค้าน่าจะปรับลดลงในเดือนหน้า ตามฤดูกาล และสภาพอากาศที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ผู้ประกอบการได้ให้ความร่วมมือจำหน่ายสินค้าในราคาที่กรมการค้าภายในกำหนดไว้เป็นอย่างดี รวมทั้งมีการติดป้ายราคาสินค้าไว้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ กรมการค้าภายในยังได้ตรวจสอบเครื่องชั่งสินค้าในตลาดปากเกร็ดจำนวน 81 เครื่อง พบเครื่องชั่งไม่ได้มาตรฐานเพียง 1 เครื่อง ซึ่งได้ยึดไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับสินค้าที่มีราคาเพิ่มขึ้น ได้แก่ เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื่องจากอากาศค่อนข้างร้อนส่งผลให้สุกร และไก่มีการเจริญเติบโตช้า ทำให้มีปริมาณเข้าสู่ตลาดลดลง ซึ่งคาดว่าจะมีแนวโน้มของราคาลดลงตามสภาพอากาศที่เย็นลง ซึ่งจะทำให้การเจริญเติบโตของสุกรและไก่ดีขึ้น ขณะที่ไข่ไก่มีราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ประมาณ 0.30 - 0.70 สตางค์ ซึ่งเป็นราคาที่มีความใกล้เคียงกับราคาต้นทุน โดยราคาหน้าฟาร์มอยู่ที่ 2.94 บาท ราคาขาย 3 - 4 บาท ตามขนาดของไข่ไก่
ส่วนของผักหลายรายการราคาสูงขึ้น เช่น ผักคะน้า ราคาปรับขึ้นจากกิโลกรัม 25-35 บาท ในเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ 40-50 บาท ถั่วฝักยาว ปรับเพิ่มขึ้นจาก 55-65 บาท มาอยู่ที่ 70 บาท และผักชีราคาปรับขึ้นจากกิโลกรัมละ 80-110 บาท มาอยู่ที่ 140-150 บาท เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนยาวนาน รวมถึงผักบางชนิดได้รับผลกระทบจากฝนตกชุก จึงทำให้ผลผลิตน้อยลง ประเมินว่าแนวโน้มราคาสินค้าน่าจะปรับลดลงในเดือนหน้า ตามฤดูกาล และสภาพอากาศที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ผู้ประกอบการได้ให้ความร่วมมือจำหน่ายสินค้าในราคาที่กรมการค้าภายในกำหนดไว้เป็นอย่างดี รวมทั้งมีการติดป้ายราคาสินค้าไว้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ กรมการค้าภายในยังได้ตรวจสอบเครื่องชั่งสินค้าในตลาดปากเกร็ดจำนวน 81 เครื่อง พบเครื่องชั่งไม่ได้มาตรฐานเพียง 1 เครื่อง ซึ่งได้ยึดไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
