สถานีโทรทัศน์นิปปอน เปิดเผยผลสำรวจพบว่า นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น มีคะแนนนิยมลดลงเหลือเพียงร้อยละ 41.1 ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เข้าบริหารประเทศเมื่อปลายปี 2555
จากผลสำรวจพบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจเกือบ 2 ใน 3 คัดค้านนโยบายกลาโหมที่จะยุติคำสั่งห้ามส่งทหารไปรบในต่างประเทศ โดยร้อยละ 62.5 คัดค้านการใช้กองกำลังป้องกันตนเองร่วม ซึ่งหมายถึงการส่งทหารไปช่วยประเทศพันธมิตรที่ถูกโจมตี ร้อยละ 63.7 คัดค้านการบังคับใช้กฎหมายในเรื่องดังกล่าว ซึ่งอยู่ระหว่างการอภิปรายในสภา และเกือบร้อยละ 80 ระบุว่า รัฐบาลไม่ได้ชี้แจงกฎหมายหมายพอ ขณะที่ร้อยละ 56.2 ระบุว่านยโบายฟื้นเศรษฐกิจ ที่เรียกว่า "อาเบะโนมิกส์" ยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร
การเผยแพร่ผลสำรวจนี้มีขึ้นในช่วงเดียวกับที่ชาวญี่ปุ่นหลายหมื่นคนออกมาชุมนุมช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อประท้วงกฎหมายที่กำลังอภิปรายในสภาและนโยบายอื่นๆ ของรัฐบาล เช่น การเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์อีกครั้ง
สำนักข่าวรอยเตอร์แสดงความเห็นว่า รัฐบาลผสมของนายอาเบะ มีเสียงข้างมากในสภาจึงอาจผ่านกฎหมายการใช้กองกำลังป้องกันตนเองร่วมได้ แต่อาจทำให้คะแนนนิยมของนายอาเบะ ร่วงลงอีก
จากผลสำรวจพบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจเกือบ 2 ใน 3 คัดค้านนโยบายกลาโหมที่จะยุติคำสั่งห้ามส่งทหารไปรบในต่างประเทศ โดยร้อยละ 62.5 คัดค้านการใช้กองกำลังป้องกันตนเองร่วม ซึ่งหมายถึงการส่งทหารไปช่วยประเทศพันธมิตรที่ถูกโจมตี ร้อยละ 63.7 คัดค้านการบังคับใช้กฎหมายในเรื่องดังกล่าว ซึ่งอยู่ระหว่างการอภิปรายในสภา และเกือบร้อยละ 80 ระบุว่า รัฐบาลไม่ได้ชี้แจงกฎหมายหมายพอ ขณะที่ร้อยละ 56.2 ระบุว่านยโบายฟื้นเศรษฐกิจ ที่เรียกว่า "อาเบะโนมิกส์" ยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร
การเผยแพร่ผลสำรวจนี้มีขึ้นในช่วงเดียวกับที่ชาวญี่ปุ่นหลายหมื่นคนออกมาชุมนุมช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อประท้วงกฎหมายที่กำลังอภิปรายในสภาและนโยบายอื่นๆ ของรัฐบาล เช่น การเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์อีกครั้ง
สำนักข่าวรอยเตอร์แสดงความเห็นว่า รัฐบาลผสมของนายอาเบะ มีเสียงข้างมากในสภาจึงอาจผ่านกฎหมายการใช้กองกำลังป้องกันตนเองร่วมได้ แต่อาจทำให้คะแนนนิยมของนายอาเบะ ร่วงลงอีก
