เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันลดลงวานนี้ (17 พ.ย.) จากข่าวญี่ปุ่นกลับสู่ภาวะถดถอย ส่วนวอลล์สตรีทขยับขึ้นเล็กน้อยได้แรงหนุุนจากหุ้นภาคเภสัชกรรม ขณะที่ทองคำปรับลด หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 18 เซนต์ ปิดที่ 75.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 10 เซนต์ ปิดที่ 79.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของญี่ปุ่นได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วง หลังข้อมูลอย่างเป็นทางการพบผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ปีนี้ (ก.ค.- ก.ย. 2014) หดตัวลงจากไตรมาสก่อน 0.4% หรือคิดเป็นอัตราต่อปีเท่ากับลดลง 1.6% ย่ำแย่กว่าตัวเลขคาดการณ์เฉลี่ยของตลาดที่มองว่า จีดีพีจะขยับขึ้น 0.5% อีกทั้งยิ่งตอกย้ำว่า การขึ้นภาษีเมื่อต้นปีทำให้แผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่เรียกว่า “อาเบะโนมิกส์” อยู่ในอาการสะดุด
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันจันทร์ (17 พ.ย.) ปิดบวกเล็กน้อย โดยเอสแอนด์พี 500 ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่ จากข่าวเทกโอเวอร์ครั้งใหญ่ในภาคพลังงานและเภสัชกรรม
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 13.01 จุด (0.07 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,647.75 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 1.50 จุด (0.07 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,041.32 จุด แนสแดค ลดลง 17.54 จุด (0.37 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,671.00 จุด
ฮัลลิเบอร์ตัน บริษัทผู้ให้บริการน้ำมันรายใหญ่ แถลงเทกโอเวอร์คู่แข่งอย่างเบเกอร์ ฮิวส์ มูลค่า 34,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่แอคตาวิส ก็เปิดตัวควบรวมกิจการกับอัลเลอร์แกน ผู้ผลิตโบท็อกซ์ มูลค่า 6,600 ล้านดอลาร์สหรัฐฯ ข้อตกลงทั้งสองช่วยพยุงให้วอลล์สตรีทยืนหยัดในแดนบวก ท่ามกลางรายงานข่าวญี่ปุ่นกลับสู่ภาวะถดถอย
ส่วนราคาทองคำวานนี้ (17 พ.ย.) ลดลงเล็กน้อย จากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น หลังบอร์ดบริหารอีซีบีรายหนึ่งบอกว่าธนาคารกลางแห่งนี้ในทางทฤษฎีแล้ว ได้ขยายขอบเขตการเข้าซื้อสินทรัพย์ครอบคลุมทองคำและหุ้นด้วย โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 2.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,183.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์